กฤษณะ เชิญธงไชย
วิชัย ทาเปรียว
เรื่อง/ภาพ
“ที่คนร้ายข่มขืนแล้วเอามีดฟันน้องสาวผม มันทำเพื่ออะไร จะฟันทำไม น้องสาวผมไปทำอะไรให้มันแค้นใจ แค่ข่มขืนน้องสาวก็จะตายอยู่แล้ว อยากถามว่ายังเป็นลูกผู้ชายอยู่มั้ย” คำถามที่แสดงถึงความคับแค้นใจ จากปากของ พี่ชายเหยื่อสาว ซึ่งถูกไอ้หื่นลวงขืนใจ ซ้ำยังใช้มีดฟันจนปางตาย
เย็นวันที่ 16 พ.ย. พ.ต.ท.สัมพันธ์ โยธิน สว.สอบสวน สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ข้างถนน ใกล้ทางเข้าสถานที่ปฏิบัติธรรมเก่าที่ถูกปล่อยทิ้งร้าง หมู่บ้านท่าตอน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ก่ำแก้ว สุยาติ ผกก.สภ.แม่อาย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
ในที่เกิดเหตุพบร่างไร้สติของ น.ส. นาง (นามสมมติ) อายุ 28 ปี นอนเปลือยกายมีเลือดท่วมตัวอยู่ในคูน้ำข้างทาง ที่ศีรษะมีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคม เป็นแผลเหวอะรวม 3 แห่ง โดยแขนขวาถูกฟันหวิดขาด ส่วนนิ้วมือซ้ายถูกฟันขาดไป 2 นิ้ว
ตำรวจรีบประสานอาสากู้ภัยนำตัวส่งรักษาที่ร.พ.แม่อาย แต่อาการสาหัสมากต้องส่งรักษาต่อที่ร.พ.นครพิงค์ อ.แม่ริม แพทย์ช่วยผ่าตัดจนอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังไม่สามารถให้การได้
เจ้าหน้าที่กระจายกำลังออกตรวจสอบบริเวณใกล้เคียง เพื่อหาหลักฐานพบกองเลือดขนาดใหญ่และนิ้วมือที่ขาดตกอยู่ 2 นิ้ว รวมทั้งเสื้อผ้าและกางเกงในของ ผู้เสียหาย อยู่ในห้องห้องหนึ่งของสำนักปฏิบัติธรรมร้าง
ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายอาจเป็นคนคุ้นเคยกับผู้บาดเจ็บ จึงล่อลวงไปขืนใจก่อนใช้อาวุธมีดฟันศีรษะเพื่อฆ่าปิดปาก โดยผู้บาดเจ็บยกมือขึ้นบังจนแขนขวาถูกฟันเกือบขาด ส่วนมือซ้าย ถูกฟันจนนิ้วขาดดังกล่าว
คนร้ายยังกระหน่ำฟันศีรษะอีก 3 แผลจนหัวแบะ ทำให้หญิงสาวผู้บาดเจ็บช็อกหมดสติจากการเสียเลือด คนร้ายเข้าใจว่าเสียชีวิตแล้วจึงรีบหลบหนีไป เมื่อเหยื่อฟื้นขึ้นมาจึงตะเกียกตะกายออกมาริมถนนขอความช่วยเหลือ กระทั่งมีชาวบ้านมาพบและแจ้งเจ้าหน้าที่
ขณะเดียวกันตำรวจจัดกำลังอารักขาหญิงสาวเหยื่อไอ้หื่น พร้อมห้ามเยี่ยม เด็ดขาด ด้วยหวั่นว่ามันอาจย้อนมาฆ่าปิดปากอีกครั้ง นอกจากนี้ยังประกาศเตือนหญิงสาวในพื้นที่คอยระวังตัว คาดว่าคนร้ายยังวนเวียนอยู่ไม่ไกล
วันรุ่งขึ้น พ.ต.อ.ก่ำแก้ว สุยาติ ผกก.สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ พร้อม พ.ต.อ. ฐานันดร วิทยาวุฑฒิกุล กองพิสูจน์ หลักฐานเชียงใหม่ นำกำลังเข้าตรวจสอบภายในสถานปฏิบัติธรรมร้างอีกครั้งเพื่อหาพยานวัตถุและหลักฐานเพิ่มเติม
ขณะที่ชุดสืบสวนก็ระดมไล่ตรวจสอบภาพวงจรปิด รวมทั้งสอบถามข้อมูลจากครอบครัวหญิงสาวผู้เสียหาย เพื่อสืบว่าเจ้าตัวไปพบกับคนร้ายบริเวณที่ใด
แค่ไม่กี่วันตำรวจก็ได้ภาพวงจรปิด ที่เห็นผู้เสียหายขณะซ้อนรถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน จมย 109 เชียงใหม่ มากับชายต้องสงสัย จึงตรวจสอบจนสามารถระบุตัวได้ คือนายสิทธิโชค พิมพ์สาร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146 หมู่ 2 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
ตำรวจไม่รอช้ารีบไปนำตัวมาสอบสวน เมื่อจำนนด้วยหลักฐานนายสิทธิโชคก็เปิดปากรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง
14.30 น. วันที่ 19 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง นำตัวนายสิทธิโชคมาสอบสวนก่อนแถลงรายละเอียดของคดี
พล.ต.ท.พูลทรัพย์ กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ทำงาน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน สภ.แม่อาย ร่วมกันสืบสวนจากกล้องวงจรปิดในบริเวณพื้นที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงรวมทั้งตามเส้นทางหลัก
นอกจากนี้กำลังอีกส่วนลงพื้นที่ หาข่าวพร้อมตรวจสอบประวัติข้อมูลคนร้าย จนกระทั่งสืบสวนทราบว่าผู้ลงมือก่อเหตุคือนายสิทธิโชค โดยกล้องจับภาพผู้เสียหายและผู้ลงมือก่อเหตุ ไว้ได้ทั้งหมด
โดยพบว่า ผู้เสียหายเดินไปตามถนนจากบริเวณปากทางเข้าที่เกิดเหตุ จนถึงบ้านห้วยน้ำเย็น ต.ท่าตอน จากนั้นได้ ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ที่นายสิทธิโชคเป็นผู้ขับขี่ บริเวณบ้านห้วยน้ำเย็นมาจนถึงจุดเกิดเหตุ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดฝาง ก่อนเข้าจับกุมตัว มาสอบสวนจนรับสารภาพ พร้อมทั้งนำตัวไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพ
พล.ต.ท.พูลทรัพย์กล่าวต่อว่า นายสิทธิโชคอ้างว่าได้รับ ผู้บาดเจ็บไปร่วมกันหลับนอนที่สถานที่ปฏิบัติธรรมเก่า โดยผู้เสียหายสมยอม แต่พอเสร็จกิจผู้เสียหายต้องการเงิน ทำให้เจ้าตัวโมโหจึงกลับมาเอามีดที่รถจักรยานยนต์มากระหน่ำฟันไปกว่า 10 ครั้ง
คมมีดถูกที่หัว แขน และลำคอ จนร่างของผู้เสียหาย นอนนิ่งไปในห้องนอน นายสิทธิโชคคิดว่าฝ่ายหญิงเสียชีวิตแล้วจึงค้นตามตัวและกระเป๋าเสื้อผ้า ได้เงินเพียง 40 บาท และส่วนใหญ่เป็นเหรียญทั้งหมด จึงนำไปซื้อยาบ้าเสพ
ตำรวจดำเนินคดีกับนายสิทธิโชค ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น ส่วนคดีจี้ชิงทรัพย์และคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะสอบสวนและเพิ่มไปในสำนวนต่อไป
