เกาะติดโปลิศ‘ลุมพินี’
ล่าพิชิตหนุ่มพิเรนทร์
‘ขยำก้น’แหม่มไลฟ์สด
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
เกาะติดโปลิศ‘ลุมพินี’ ล่าพิชิตหนุ่มพิเรนทร์ ‘ขยำก้น’แหม่มไลฟ์สด – เล่นเอาตำรวจโรงพักลุมพินีก้นร้อนขึ้นมาทันใด
เมื่อเกิดมีไอ้หนุ่มพิเรนทร์ทำอนาจารแหม่มฝรั่งออกอากาศสดๆ ไปทั่วโลก เพราะสาวเจ้าเป็นยูทูบเบอร์ชื่อดังชาวต่างชาติกำลังไลฟ์สตรีมผ่านยูทูบแชนเนลของตัวเอง ระหว่างท่องเที่ยวอยู่ในเมืองไทย
ตำรวจไล่ภาพวงจรปิดจนพบตัว
เป็นเหตุการณ์ขณะที่ยูทูบเบอร์และเน็ต ไอดอลสาวชาวแคนาดา กำลังถ่ายทอดสดผ่านยูทูบให้เพื่อนฝูงในแคนาดา และเหล่าสมาชิกชมเธอที่กำลังพูดบรรยายไประหว่างทางที่กำลังเดินอยู่ริมถนนวิทยุข้างสวนลุมพินี ตรงข้ามประตู 1 โครงการ ONE BANGKOK
จู่ๆ เธอก็ต้องกรีดร้องเสียงหลง เพราะถูกชายหนุ่มรายหนึ่งที่เดินตามหลังมา พุ่งเข้าขยำก้นเธอก่อนรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
คลิปฉาวดังกล่าวถูกแชร์ไปทั่วโลกจนกลายเป็น ‘ไวรัล’ เกิดกระแสให้พูดถึงและบอกต่อแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. เผยถึงเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 30 พ.ค. หลังทราบเรื่องและสั่งให้ เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนจนพบว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงไม่ใช่การแสดงสร้างสถานการณ์
โดยพ.ต.อ.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน ผกก.สน.ลุมพินี รายงานผลการสืบสวนหาข้อเท็จจริงว่า ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทราบว่าเหตุ ดังกล่าวเกิดเมื่อเวลา 13.18 น. วันที่ 27 พ.ค. บริเวณป้ายรถประจำทางตรงข้ามประตู 1 โครงการวัน แบงค็อก
ผู้เสียหายให้ปากคำแจ้งความดำเนินคดี
ส่วนชายผู้ก่อเหตุ เป็นบุคคลเร่ร่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดี
แต่เบื้องต้นทางผู้เสียหายยังไม่ได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่จึงเร่งประสานผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ แจ้งความ เพื่อสอบสวนดำเนินคดีกับตัวผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย
แต่ผู้กำกับการจักรกริศน์ก็ไม่ได้นิ่งเฉย สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาระหว่างรอให้เจ้าทุกข์มาแจ้งความ
แค่เพียงไม่นาน เช้าวันที่ 2 มิ.ย. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ก็รุดไปยังสน.ลุมพินี เพื่อร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้ พร้อมพล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.ปรัชญา บุญยืน รอง ผกก.สส.สน.ลุมพินี พ.ต.ต.ภราดร สุวรรณรัตน์ สว.สส.สน.ลุมพินี พ.ต.ต.สิทธิศักดิ์ สุดหอม สว.สส.สน.ลุมพินี
ผู้ต้องหาคือนายเจษฎา โพธิ์พงษ์ อายุ 31 ปี สัญชาติไทย
ทิศทางการสืบสวนหลังพบภาพคนร้ายจากวงจรปิด ประกอบกับคลิปวิดีโอของ ผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ระดมสืบจากตำหนิ รูปพรรณของผู้ก่อเหตุ ที่เป็นชายไทยรูปร่างผอม สูงประมาณ 160-170 ซ.ม. ผิวสีดำ-แดง ตัดผมรองทรง
สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาวพิมพ์ลายการ์ตูนรูปผู้หญิงด้านหน้า นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ สวมรองเท้าแตะฟองน้ำแบบสวมหูสีชมพู
แต่ตำหนิที่เด่นชัดคือ ฟันหน้าหลอ
ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พบว่าคือนายเจษฎาเคยถูกจำคุกในข้อหา “กระทำอนาจารผู้อื่นฯ” เมื่อปี พ.ศ.2562 ในพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง “ทำร้ายร่างกายผู้อื่น” เมื่อปี พ.ศ.2563 ในพื้นที่ สน.สุทธิสาร และเพิ่งถูกปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2563 และมาใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่แถวสวนลุมพินี
กระทั่งเมื่อห้าทุ่มครึ่งคืนวันที่ 1 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ลุมพินี ก็เห็น นายเจษฎากำลังเดินอยู่ริมถนนพระรามที่ 4 จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ซึ่งผู้ต้องหาก็ยอมจำนนและรับสารภาพแต่โดยดี
หลังได้คำรับสารภาพจึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน พร้อมประสานตำรวจท่องเที่ยวพาเน็ตไอดอลสาวเจ้าทุกข์ชาวแคนาดาเข้าชี้ตัวเป็นหลักฐาน
ก่อนแจ้งข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต่อหน้าธารกำนัล”
ปิดฉากไปอีกคดีด้วยความรวดเร็วจากฝีมือตำรวจในยุค ‘บิ๊กปั๊ด’ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ ‘บิ๊กอู๊ด’ พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.
โดย สราวุฒิ ศรีเพ็ชรสัย
เรื่อง/ภาพ
