ย้อนคดีจับหนุ่มลอดช่อง – แม้ประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศที่ผลิต ยาเสพติด แต่ถูกกลุ่มขบวนการค้ายาข้ามชาติใช้เป็นช่องทางผ่านเพื่อส่งออกยานรกไปสู่ประเทศอื่นๆ ทุกครั้งที่ประเทศปลายทางตรวจยึดได้ ก็จะกลายเป็นยาเสพติดที่มาจากประเทศไทย

เช่นกรณีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพิทักษ์พรมแดน และตำรวจจรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียยึด ‘ยาไอซ์’ จำนวน 316 กิโลกรัม ที่ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในเอาไว้ในเครื่องใช้ไฟฟ้า มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 2,400 ล้านบาทได้ หลังจากที่สินค้าถูกนำมาพักเก็บไว้ในบริเวณท่าเรือซิดนีย์ หรือกรณีศุลกากรฮ่องกงยึดเฮโรอีนต้องสงสัยราว 23.5 กิโลกรัม ด้วยมูลค่าตลาดราว 29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 900 ล้านบาท ที่พื้นที่ตรวจสอบสินค้าด่านศุลกากรไควชุง ทั้งสองกรณีถูกระบุว่าส่งมาจากประเทศไทย

ทั้ง ป.ป.ส.และตำรวจปส. ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง เร่งประสานข้อมูลเพื่อสืบสวนหาต้นตอของยาเสพติดที่นำความเสื่อมเสียมาให้คนไทยทั้งประเทศ

แถลงผลจับกุม

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. 2564 ที่สำนักงาน ป.ป.ส.ดินแดง ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นายเดชา วิชัยดิษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนปราบปราม 3 กองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร

ร่วมกันแถลงจับกุม นายเถ่า ซื่อ จี้ อายุ 27 ปี ชาวสิงคโปร์ พร้อมของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้บรรจุซุกซ่อนยาเสพติด

บราวนี่ผสมกัญชา

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเดือนพฤศจิกายนปี 2563 สำนักงาน ป.ป.ส.ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดสิงคโปร์ (Central Narcotic Bureau : CNB) ว่ามีการตรวจยึดพัสดุระหว่างประเทศซุกซ่อนยาเสพติด (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 3 ก.ก. ถูกส่งจากประเทศไทยไปยังประเทศสิงคโปร์ ผ่านทางเครื่องบิน

ต่อมาชุดปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force : AITF) ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ศุลกากร และศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ได้สืบสวนขยายผลผู้ส่งยาเสพติดในประเทศไทย จึงได้เฝ้าระวังพัสดุไปยังสิงคโปร์อย่างต่อเนื่อง

คุมนายเถ่า ซือ จี้ ดำเนินคดี

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 64 ชุดAITF สามารถตรวจยึดพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศด่วนพิเศษ (EMS) ปลายทางประเทศสิงคโปร์ จำนวน 2 ชิ้น ซุกซ่อนยาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมประมาณ 3 ก.ก. และเอ็กตาซี่ จำนวนประมาณ 1,320 เม็ด ณ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ

จากการสืบสวนพบว่า ผู้ส่งพัสดุคือ นายเถ่า ซือ จี้ ชาวสิงคโปร์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อขออนุมัติหมายจับบุคคลดังกล่าว จนต่อมาศาลอาญาออกหมายจับและนำไปสู่การจับกุม

ชุดปฏิบัติการภารกิจสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน ร่วมกันเข้าตรวจค้นห้องพักแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว

สามารถตรวจยึดของกลางอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้บรรจุซุกซ่อนยาเสพติดลักษณะเช่นเดียวกับที่เคยตรวจยึดพร้อมยาเสพติด ได้แก่ เครื่องขยายเสียงอุปกรณ์การหีบห่อ เครื่องชั่งดิจิตอล รวมไปถึงบราวนี่ที่มีส่วนผสมของกัญชาอีกด้วย

ยาไอซ์ซุกกรอบรูป

ขณะที่เมื่อวันที่ 29 พ.ค. เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจยึดกรอบรูป 5 ชิ้นลักษณะเดียวกับที่ส่งไปฮ่องกง ในตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งกำลังเตรียม ส่งออกจากประเทศไทยไปยังฮ่องกง ที่ศูนย์เอกซเรย์สินค้าขาออกระหว่างประเทศ ภายในพบยาไอซ์ น้ำหนัก 9 กิโลกรัม เมื่อขยายผลไปตรวจค้นบริษัทขนส่งสินค้าระหว่างประเทศภายในซอยเพชรบุรี 17 พบยาไอซ์ 2 กิโลกรัม ซุกซ่อนในเครื่องขยายเสียงปะปนไปกับสินค้าชนิดอื่นเตรียมส่งไปยังประเทศฟิลิปปินส์ จึงทำบันทึกตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

ปัญหายาเสพติด ไม่ใช่ปัญหาของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่มันยกระดับเป็นปัญหาระดับนานาชาติมานานแล้ว

ชาญพงศ์ บุญอุทิศ
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน