คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างถูกซื้อหาได้ผ่านทางออนไลน์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สินค้าผิดกฎหมายจำนวนหนึ่งก็ย้ายตัวเองขึ้นไปใช้ช่องทางออนไลน์ ไม่เว้นแม้อาวุธปืนสงคราม!!
เรื่องราวของการกวาดล้างแหล่งค้าอาวุธออนไลน์ครั้งนี้ ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. ภายหลัง พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมกันแถลงผลการบุกทลายเครือข่ายขายปืนออนไลน์ หลังนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 8 จุด ในพื้นที่ กทม.และต่างจังหวัด จนสามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายอนพัช รุจิระพัฒน์ อายุ 43 ปี นายนฤพล จันทร์นวล อายุ 39 ปี นายสหรัฐ ลพทองคำ อายุ 27 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนสั้น 41 กระบอก อาวุธปืนยาว 15 กระบอก ที่น่าตกใจคือในจำนวนนี้มีปืนสงคราม 4 กระบอก ระเบิดสังหารชนิด วี 40 จำนวน 14 ลูก และเครื่องกระสุนปืนกว่า 1,000 นัด
พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผบช.ก. แถลงผลงาน
พล.ต.ต.สุวัฒน์ เผยถึงที่มาที่ไปของคดีว่า สืบเนื่องจากสืบทราบเบาะแสว่า มีการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นกลุ่มปิดที่ชื่อว่า “ชุมชนตลาดดำ” และกลุ่มลับในแอพพลิเคชั่นไลน์ มีสมาชิกเข้าร่วมกลุ่มเป็นจำนวนมาก จึงกระจายกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อตั้งกลุ่มดังกล่าวรวมถึงแอดมินดูแลกลุ่ม ได้จำนวน 3 คน ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมกับตรวจยึดอาวุธปืนทั้งสั้นและยาวได้รวมกว่า 40 กระบอก
จากการสอบสวนทั้งหมดให้การซัดทอดว่าเมื่อมีออร์เดอร์สั่งซื้อปืนจากสมาชิก จะติดต่อไปหานายนฤพล ซึ่งเป็นนายหน้า เพื่อประสานสั่งซื้อปืนจากนายอนพัช ผู้ลักลอบจำหน่ายปืนรายใหญ่ ที่ประกอบกิจการเปิดร้านทองและร้านรับส่งพัสดุ อยู่ในซอยเพชรเกษม 81 ถ.มาเจริญ แขวงและเขตหนองแขม กทม.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงขยายผลตรวจสอบข้อเท็จจริง จนทราบว่ามีการสั่งซื้ออาวุธปืนจริงตามที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนแรกกล่าวอ้าง โดยมีการชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารคนสนิทของนายอนพัช และทุกครั้งที่จัดส่งสินค้าผ่านทางพัสดุ นายอนพัชก็จะให้นายสหรัฐ ลูกน้องเป็นผู้ดำเนินการ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นศาลอาญาตลิ่งชัน เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 8 จุด ในจำนวนนี้รวมถึงร้านทองของนายอนพัชด้วย จนสามารถจับกุมผู้กระทำผิดและตรวจยึดของกลางจำนวนมากได้จากในร้านทอง
ตรวจยึดอาวุธ
ขณะที่จากการสอบสวนนายอนพัช อ้างว่าปืนที่ครอบครองส่วนใหญ่จะรับจำนำไว้เพื่อกินดอกเบี้ย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อเนื่องจากมีปืนหลายกระบอกที่ยังไม่สามารถชี้แจงที่ไปที่มาของปืนได้
นอกจากนี้แนวทางสืบสวนยังทราบว่า นายอนพัช และ นายนฤพล ถือเป็นตัวการสำคัญของขบวนการดังกล่าวคอยทำหน้าที่เป็นเหมือนศูนย์กลาง บริหารและควบคุมการซื้อ-ขายปืนของสมาชิกในกลุ่ม ที่ติดต่อซื้อขายกันเอง จะมีนายอนพัชและนายนฤพล ช่วยกันดูแลป้องกันไม่ให้มีการโกงเกิดขึ้น จนทำให้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มสมาชิก
ภายหลังการจับกุม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผบกป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6.บก.ป. พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป. เร่งขยายผลคดี กระทั่งเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ตำรวจกองปราบฯ นำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพักบนชั้น 19 คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่าน ถ.พุทธมณฑล สาย 2 ซึ่งเป็นของนายอนพัช ที่ซื้อไว้ใช้เป็นที่เก็บอาวุธปืนโดยเฉพาะ
จากการเข้าตรวจค้นภายในห้องดังกล่าว พบอาวุธปืนสั้นขนาดต่างๆ จำนวน 78 กระบอก พร้อมกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และเตรียมส่งต่อให้กองพิสูจน์หลักฐาน หรือ พฐ. ตรวจสอบว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับคดีใดหรือไม่
ขยายผลถึงร้านซ่อมปืน
ชุดสืบสวนยังขยายผลต่อกระทั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ได้บุกเข้าตรวจค้นร้านซ่อมปืนย่านวังบูรพา พร้อมควบคุมตัวนายสิปวุฒิ อายุ 28 ปี หลานชายเจ้าของร้าน หลังมีหลักฐานว่าอาวุธปืนที่ขายผ่านเว็บส่วนหนึ่งมาจากนายสิปวุฒิ
รุ่งขึ้นพล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผบช.ก. นำทีมแถลงผลการปฏิบัติการ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 9 ราย ยึดของกลางปืนสั้น และปืนยาว 154 กระบอก วัตถุระเบิด 14 ลูก และเครื่องกระสุนอีกมากกว่าพันนัด สำหรับกลุ่มค้าปืนออนไลน์กลุ่มนี้มีเงินหมุนเวียนในระบบไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบความเชื่อมโยงของเครือข่ายดังกล่าวอย่างละเอียด เพราะเชื่อว่าในกลุ่มซื้อขายปืนดังกล่าวน่าจะยังมีพ่อค้าปืนรายใหญ่แฝงตัวอีกหลายรายด้วย
ธานี ทวีเกิด
เรื่อง/ภาพ
