ตามตร.ซ้อนแผนจับ!แก๊งแบล็กเมล์นักธุรกิจขู่แฉคลิปลับ-แลก2ล้าน – ชีวิตคนทุกคนย่อมเคยทำเรื่องผิดพลาดที่ไม่อยากให้ใครรู้ แต่ความลับย่อมไม่มีในโลก วันหนึ่งอดีตที่เคยผิดพลาดอาจตามมาหลอกหลอน เช่นในรายของนักธุรกิจหนุ่มใหญ่วัย 57 คนหนึ่ง ที่เกือบสูญเงินกว่า 2 ล้านบาท หากไม่ตัดสินใจเข้าขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ย้อนไปเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 16 มิ.ย.2564

พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนา ธิเบศร์ จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.บรรจบ ราชกิจ สว.สส. พร้อม กำลังตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุม นายนวัตกรณ์ อายุ 31 ปี และ ส.ท.วรศาสตร์ อายุ 31 ปี ข้าราชการทหาร พร้อมของกลางเงินสด 2.1 ล้านบาท เป้สะพายสีดำ 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ขณะกำลังนั่งนับเงินอยู่ในร้านอาหารภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง พ.ต.อ.เมษนนท์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากนักธุรกิจชายอายุ 57 ปี ว่า เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีคนร้าย ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใคร ใช้ไลน์ไม่มีชื่อส่งข้อความมา ระบุว่า “ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อแลกกับการลบรูปเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งเป็นภาพอนาจารและจะไม่นำไป ส่งต่อให้บุคคลอื่นที่มีจุดประสงค์ร้ายกับตัวคุณเองค่ะ เราต้องการแค่เงินไม่อยากให้คุณเสียหาย จ่ายคือจบค่ะ” แต่ตอนนั้นนักธุรกิจรายนี้ไม่ได้สนใจกับข้อความข่มขู่คิดว่าน่าจะเป็นพวกเกรียนคีย์บอร์ดส่งข้อความป่วนไปทั่ว ต่อมาในวันที่ 12 มิ.ย. คนร้ายส่งข้อความมาข่มขู่นักธุรกิจรายนี้อีกว่า “2,100,000 บาท เราจะไปรับเองเลยเพื่อลบคลิปและเคลียร์ทุกอย่างให้จบค่ะ” ทำให้นักธุรกิจรายนี้เกิดความกลัวและกังวลใจว่าคนร้ายจะมีภาพลับตาม ที่มีมาข่มขู่เอาไว้จริง หรืออาจเปิดเผยเพื่อทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงจริงตามที่ข่มขู่หาก ไม่ยอมจ่ายเงิน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความขอความช่วยเหลือ หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ก็รอให้คนร้ายติดต่อมาเพื่อเตรียมซ้อนแผนจับกุม กระทั่ง ในช่วงเช้าวันที่ 16 มิ.ย. คนร้ายส่งไลน์มาขู่ ผู้เสียหายอีกครั้งว่าจะนำภาพลับไปลงในโลกโซเชี่ยล นักธุรกิจรายนี้จึงเจรจานัดหมาย นำเงินสด 2.1 ล้านบาท ไปส่งมอบให้กับคนร้ายที่ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าย่านรัตนาธิเบศร์ พ.ต.อ.เมษนนท์ระบุต่อว่า หลังมีการนัดหมายกับคนร้าย ตำรวจจึงวางแผนจับกุม โดย พ.ต.ต.บรรจบนำกำลังชุดสืบสวนวางแผนร่วมกับนักธุรกิจ เมื่อถึงเวลานัดหมายพบมีนายนวัตกรณ์เดินทางมาที่ร้านอาหารเพื่อรับเงิน ขณะที่นายนวัตกรณ์กำลังนั่งนับเงินอยู่ในร้านอาหาร เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มดูอยู่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ส่วน ส.ท.วรศาสตร์ผู้ต้องหาอีกราย ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมตัวได้ในห้างเช่นกัน ขณะกำลังทำหน้าที่เป็นคนคอยดูต้นทางและส่งข้อความทางไลน์แจ้งเตือนนายนวัตกรณ์ ภายหลังจนมุมพร้อมหลักฐานของกลาง นายนวัตกรณ์ให้การรับสารภาพว่าร่วมมือกับ ส.ท.วรศาสตร์ ก่อเหตุส่งข้อความข่มขู่แบล็กเมล์เพื่อเรียกรับเงินจากนักธุรกิจจริง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันรีดเอาทรัพย์ผู้อื่น แต่ ส.ท.วรศาสตร์ให้การปฏิเสธ จึงได้ทำเอกสารแจ้งต้นสังกัดทหารว่ามีการก่อคดีร่วมกับประชาชนเพื่อส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน รวมทั้งจะสืบสวนขยายผลถึงผู้ที่ร่วมขบวนการรายอื่นๆ ต่อไป การตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจครั้งนี้ นับเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดและเป็นทางแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นเมื่อมีครั้งแรก ใครจะการันตีได้ว่าจะไม่มีครั้งที่สอง ที่สาม ต่อไป

ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน