สดจากสนามข่าว – คำให้การพ่อเฒ่าพิการ จ่อยิงลูกขี้ยาดับคาบ้าน ฝังแค้นโดนทำร้าย30ปี
พิษภัยสำคัญของยาเสพติดนอกจากจะทำลายผู้เสพแล้ว ยังบ่อนทำลายสถาบันครอบครัวจนย่อยยับ ลงว่ามีลูกหลานขี้ยาอยู่ในบ้านก็ไม่ต่างกับระเบิดเวลา
ย้อนไปเมื่อเย็นวันที่ 17 มิ.ย. ร.ต.อ.เฉลียว เข็มวงศ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองเสือ ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ 3 ถนนเลียบคลองเก้า ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ปทุมธานี พ.ต.อ.กฤติเดช จันทร์เพชร ผกก.สอบสวน บก.ภ.จว.ปทุมธานี รักษา การแทน ผกก.สภ.หนองเสือ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.หนองเสือ แพทย์เวร ร.พ.หนองเสือ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 1 ปทุมธานี และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
พฐ.เก็บหลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง เจ้าหน้าที่พบศพนายสมบูรณ์ หรือฝรั่ง เปลี่ยนน่วม อายุ 42 ปี สภาพเปลือยกายนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่บริเวณชานเรือนชั้นบน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดกระสุนพรุนลำตัว รวม 8 นัด จากการตรวจสอบชานเรือนหน้าบันไดพบผ้าขนหนูสีเขียวอ่อนเปื้อนเลือดตกอยู่ และคราบเลือดสาดกระเด็นทั่ว และหน้าห้องนอนของผู้ตายพบเลือดกองใหญ่และรอยรื้อค้น นอกจากนี้ตรวจสอบบริเวณใต้ถุนหน้าห้องน้ำพบรอยล้างคราบเลือดและไม้ม็อบถูพื้นมีรอยล้างคราบเลือดทิ้งข้างห้องน้ำจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายสมบุญ เปลี่ยนน่วม อายุ 87 ปี พ่อของผู้ตายที่ขาเสียเดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็นและหูหนวก เล่าว่า ขณะนั่งทำต้นไม้อยู่หน้าบ้านมีคนมาทวงเงินค่าอะไรกันไม่รู้ เนื่องจากหูไม่ดีไม่ค่อยได้ยิน ส่วนลูกชายก็เป็นใบ้พูดไม่ได้ คนที่มาทวงมากันสองคนขับรถเครื่องมา จากนั้นก็เห็นวิ่งไล่กันก่อนยิงกัน จากนั้นคนร้ายก็ขี่รถจยย.หลบหนีไป
คดีนี้ตอนแรกตำรวจตั้งประเด็นไว้เรื่องความขัดแย้งเรื่องยาเสพติด เนื่องจากเมื่อตรวจสอบประวัติแล้วพบว่าผู้ตายติดยาเสพติดเคยถูกตำรวจหนองเสือจับไปหลายเที่ยว ทางบ้านเคยพาไปอดยาสามสี่เที่ยว เวลาเมายาก็มักอาละวาดในบ้านเอากับคนในบ้านโดยเฉพาะกับผู้เป็นพ่อ
พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ปทุมธานี สอบปากคำ
แต่เจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนใจเมื่อพบความขัดแย้งกันในคำให้การของนายสมบุญ ประกอบกับคำให้การของชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงที่ว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 รอบ รอบแรกจำนวน 4 นัด ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ต่อมาได้ยินเสียงปืนดังอีก 2 นัดเวลาประมาณ 12.00 น. และที่สำคัญไม่ได้ยินเสียงรถจยย.ขับเข้าหรือออกจากบ้านที่เกิดเหตุแต่อย่างใด
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามนายสมบุญเรื่องเอาไม้ม็อบถูพื้นเช็ดคราบเลือด เจ้าตัวอ้างว่ากะละมังผ้าคนตายเอาผ้ามาแช่ทิ้งไว้จนเหม็น ตนจึงเอาไปทิ้งแล้วเห็นที่พื้นมีคราบเต็มไปหมดก็เลยเอาผ้ามาเช็ดแล้วไปไว้ข้างบ้าน
คุมนายสมบุญ เปลี่ยนน่วม ทำแผนฯ
เที่ยงวันที่ 22 มิ.ย. ตำรวจจับกุมนายสมบุญ ความผิดฐานฆ่า ผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .38 แบบลูกโม่จำนวน 1 กระบอก
พล.ต.ต.ชยุต เผยเบื้องหลังการจับกุมครั้งนี้ว่า หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบๆ บ้านที่คิดว่าคนร้ายจะหลบหนี แต่ก็ไม่เจอคนร้าย จึงนำบุคคลในบ้านมาสอบปากคำพร้อมทั้งพยานแวดล้อมต่างๆ รวมทั้งตรวจเขม่าดินปืนที่มือของพ่อผู้ตาย จนทราบผลว่ามีคราบเขม่าดินปืนติดอยู่ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลธัญบุรี
นาทีลั่นไกซ้ำ
สุดท้ายพ่อของผู้ตายก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนที่ยิงลูกชายด้วยตนเอง สาเหตุเพราะว่าถูกลูกชายที่เป็นใบ้และติดยาทำร้ายมากว่า 30 ปี นายสมบุญเล่าว่า วันเกิดเหตุใช้อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ที่ซื้อมาจากวัยรุ่นในราคา 5,000 บาท ยิงลูกชายที่บันไดจำนวน 3 นัด ผู้ตายก็วิ่งขึ้นไปบนบ้านและดิ้นทุรนทุรายไปตามพื้น หลังจากที่ทราบว่าลูกชายยังไม่ตาย ก็ได้ปีนบันไดขึ้นไปยิงซ้ำอีก 2 นัดจนเสียชีวิต
หลังแจ้งข้อหาให้ทราบตำรวจก็นำตัวนายสมบุญไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในบ้านที่เกิดเหตุ ก่อนคุมตัวกลับมาดำเนินคดี
อีกหนึ่งความเลวร้ายของยาเสพติดที่ทำให้คนในครอบครัวต้องมาฆ่ากันเอง
นพรัตน์ คุ้มศรี
วสันต์ ทิพย์ประโภชน์
เรื่อง/ภาพ
