วิ่งราวมือถือพระธุดงค์ – แนวคิดการลงโทษด้วยการจำคุกเป็นไปเพื่อตัดโอกาสในการกระทำผิดประการหนึ่ง และอีกประการเพื่อให้ผู้ต้องโทษได้คิดทบทวนความผิดของตน กลับตัวกลับใจเคารพกฎกติกาของสังคม

หากแต่สำหรับคนบางจำพวก คุกก็ไม่ต่างกับโรงเรียนประจำที่เอาไว้ฝึกวิชาโจร ยิ่งติดบ่อยครั้งก็ยิ่งได้เรียนวิชาจากรุ่นพี่ขาใหญ่ทั้งหลาย

ย้อนไปวันที่ 24 มิ.ย. 2564 ที่ห้องสืบสวน สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พ.ต.ท.พิสิทธิ์ ตั้งศิริเสถียร รอง ผกก.สส.สภ.ศรีราชา พร้อมด้วย พ.ต.ต.อรรคพงษ์ จตุพรม สว.สส.ฯ, และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน คุมตัวนายรัฐธรรมนูญ มีกลิ่น หรือบาส อายุ 21 ปี พร้อมด้วยของกลางเป็นเสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุ มาสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา “วิ่งราวทรัพย์, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

วิ่งราวมือถือพระธุดงค์

ทำแผนฯ ที่เกิดเหตุ

ต้นสายปลายเหตุของการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. วันที่ 19 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา รับแจ้งจากพระบัณฑิต สายรัตน์ อายุ 46 ปี พระธุดงค์ ที่เข้าแจ้งความถูกคนร้ายชิงทรัพย์ขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ที่ศาลาพักวินรถจักรยานยนต์ บริเวณริมถนนสุขุมวิท ปากทางลงโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ต.ศรีราชา จ.ชลบุรี

พระบัณฑิตให้การว่าระหว่างกำลังนอนพักผ่อนอยู่นั้นได้มีคนร้ายเป็นชาย เข้ามาก่อเหตุลักโทรศัพท์ พร้อมกับข่มขู่ให้บอกรหัสผ่านแอพธนาคารด้วย ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

วิ่งราวมือถือพระธุดงค์

ข่มขู่เอารหัส

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบบัญชีธนาคารของพระบัณฑิต สายรัตน์ ผู้เสียหายแล้วพบว่า เดิมทีบัญชีดังกล่าว มีเงินอยู่ทั้งหมด 360,000 บาท แต่ต่อมาได้ถูกคนร้ายนำโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย ไปตระเวนกดตามตู้เอทีเอ็มโดยใช้วิธีกดเงินแบบไม่ใช้บัตรเอทีเอ็ม คนร้ายกดเงินไปจำนวน 9 ครั้ง ครั้งละ 30,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 270,000 บาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่เช็กวงจรปิดทั้งบริเวณจุดเกิดเหตุและกล้องวงจรปิดจากตู้เอทีเอ็มที่คนร้ายไปกดเงิน พบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายรัฐธรรมนูญ มีกลิ่น หรือบาส อายุ 21 ปี ซึ่งมีประวัติก่อเหตุมาอย่างโชกโชน

วิ่งราวมือถือพระธุดงค์

จอดจยย.ลงมือ

ตำรวจสืบสวนต่อไปจนทราบว่า หลังจากที่ก่อเหตุนายรัฐธรรมนูญนำเงินที่ได้ไปเปิดห้องพักคอนโดฯ หรูแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ศรีราชา ก่อนจะเดินทางไปเที่ยวที่ เกาะล้าน จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังเข้าจับกุมในทันที

นายรัฐธรรมนูญให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว 2-3 ครั้ง เนื่องจากได้วิชามาจากคนในคุก ซึ่งจะเลือกเฉพาะพระธุดงค์ หรือคนไร้บ้าน ที่เดินตามถนน เพราะส่วนใหญ่จะไม่แจ้งความ หลังจากที่ได้เงินมาก็นำเงินไปใช้ชีวิตหรูหรา ก่อนที่จะไปเที่ยวเกาะล้าน จนกระทั่งมาถูกจับได้

วิ่งราวมือถือพระธุดงค์

ไปกดเงินที่เอทีเอ็ม

ต่อมาตำรวจคุมนายรัฐธรรมนูญไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตั้งแต่จุดแรก ที่ศาลาพักวินรถจักรยานยนต์ บริเวณริมถนนสุขุมวิท ปากทางลงโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ต.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ก่อเหตุลักมือถือพระธุดงค์

ส่วนจุดที่ 2 เป็นตู้เอทีเอ็ม บริเวณหน้าตลาดสดศรีราชาที่เจ้าตัวนำมือถือมากดเงินไปทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งละ 3 หมื่นบาท จุดที่ 3 ตู้เอทีเอ็ม หน้าเจซีมาร์ท ศรีราชานคร กดทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งละ 3 หมื่นบาท และจุดสุดท้ายคือตู้เอทีเอ็มหน้าตลาดวรกิจ เก้ากิโล กดทั้งหมด 4 ครั้ง ครั้งละ 3 หมื่นบาท กระทั่งนำซิมมาหักทำลายทิ้ง จากนั้นจึงคุมตัวกลับมาสอบสวนเพิ่มเติมที่สภ.ศรีราชา

วิ่งราวมือถือพระธุดงค์

กดเงินไม่ใช้บัตร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุ พบว่าเคยติดคุกในคดีวิ่งราวทรัพย์ และได้รับการปล่อยตัวมาเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ก่อนที่จะมาก่อเหตุซ้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งรวบรวมหลักฐานส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดคุกรอบที่แล้วยังคิดไม่ได้ หวังว่าติดรอบนี้ออกมาคงจะกลับตัวกลับใจได้

ชำนาญ ใจเอื้อ เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน