อรรถพันธ์ นิธิธีรโชติ

อดิษัยต์ พรวนพิมพ์

เรื่อง/ภาพ

ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสนุกสนาน ภายในบาร์เกย์แห่งหนึ่งในตรอกสาเก ใครจะทันเฉลียวใจคิดว่าตัวเองกำลังถูกจับจ้องจากมิจฉาชีพ ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ชวนมอง แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับจิตใจ ที่ราวกับเสือหิวที่จ้องรอจังหวะตะครุบเก้งกวาง ตัวน้อย

สี่โมงเย็นวันที่ 20 พ.ย. ที่ สน.บางพลัด พ.ต.อ.บุญญฤทธิ์ รอดมา รรท.ผบก.น.7 พ.ต.อ.กุลเชษฐ์ บางพราน ผกก.สส.บก.น.7 พ.ต.อ.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผกก.สน.บางพลัด พ.ต.ท.ชัชชัย จักรวิวัฒนากุล รอง ผกก.สส. สน.บางพลัด พร้อมฝ่ายสืบสวน

ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายประวิทย์ รื่นนุสาร หรือ เอ๋ อายุ 33 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดตลิ่งชันที่ จ.460/2560 ลงวันที่ 19 พ.ย.60 ข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ฯ และ นายนิวัฒน์ โพธิ์แก้ว หรือ ต๋อง อายุ 37 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดตลิ่งชันที่ จ.461/2560 ลงวันที่19 พ.ย.60 ในข้อหาเดียวกัน

ทั้งคู่ถูกจับกุมพร้อมด้วยของกลาง รถจยย.ยามาฮ่า รุ่น ฟีลาโน่ สีแดง ทะเบียน อพม 55 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง พร้อมซิมการ์ด 1 อัน โดยจับกุมตัวได้บริเวณหน้าสถานบริการแห่งหนึ่ง (บาร์เกย์) ซ.รัชดาภิเษก 4 แขวงดินแดง เขตห้วยขวาง กทม.

พ.ต.อ.บุญญฤทธิ์เปิดเผยรายละเอียดที่ไปที่มาของคดีว่า ช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 18 พ.ย. มีผู้เสียหายเป็นชาย (ขอสงวนชื่อ) เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด ว่าถูกคนร้ายทั้ง 2 รายนี้วิ่งราวทรัพย์โทรศัพท์มือถือไป 1 เครื่อง

หนุ่มผู้เสียหายเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ ที่ผับภายในตรอกสาเก ท้องที่ สน.ชนะ สงคราม หลังจากผับปิด นายนิวัฒน์ทำทีเข้ามาขอเบอร์โทรศัพท์จากผู้เสียหาย แล้วเดินออกไปกับนายประวิทย์ หลังจากนั้นนายนิวัฒ์โทรศัพท์มาชักชวน ผู้เสียหายให้ไปดื่มกินกันต่อที่บ้านของนายนิวัฒน์

เมื่อผู้เสียหายยอมขึ้นรถแท็กซี่ไปกับนายนิวัฒน์ นายประวิทย์ก็จะขี่รถจยย.ตามมา พอมาถึงกลางซอยสิรินธร 4 แขวงและเขตบางพลัด กทม. นายนิวัตน์ ชวนผู้เสียหายลงจากแท็กซี่ แล้วทำทียืมโทรศัพท์ของผู้เสียหายโทร.หาเพื่อน แล้วก็รีบคว้าโทรศัพท์วิ่งไปขึ้นซ้อนท้ายรถจยย.ของนายประวิทย์ที่ขี่ตามมาหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

พ.ต.อ.บุญญฤทธิ์เผยต่อว่า ภายหลังสอบสวนตำรวจเชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นรายเดียวกับที่ลงมือทำร้ายผู้เสียหายอีกรายเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้เสียหายรายดังกล่าวถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ถึงเลือดคั่งในสมอง ตาบวม ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช

นอกจากนี้ผู้เสียหายยังให้ข้อมูลอีกว่า หลังเกิดเหตุได้พูดคุยกับเพื่อนนักเที่ยวด้วยกัน พบว่าโดนก่อเหตุลักษณะแบบนี้กันหลายคน ส่วนมากจะถูกตามมาจากผับในซอยตรอกสาเก กับผับในซอยรัชดาภิเษก 4 เขตห้วยขวาง

เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนหลายสิบนาย จึงกระจายกำลังกันไปเฝ้าตามจุดดังกล่าว พร้อมประสานกับโรงพักต่างๆ จนทราบว่ามีคนร้ายลักษณะรูปพรรณคล้ายกับ 2 คนที่ก่อเหตุ มีคดีอยู่ที่สน.พหล โยธิน จึงนำรูปคนร้ายไปให้ผู้เสียหายชี้ยืนยันจนแน่ใจ

ตามเฝ้าบาร์เกย์อยู่หลายคืน ในที่สุดก็พบทั้ง 2 ขณะกำลังเตร่หาเหยื่ออยู่ที่หน้าผับในซอยรัชดาภิเษก 4 จึงเข้าจับตัวก่อนนำไปตรวจค้นที่ห้องพักเลขที่ 508 อาคารสโมสรนครนนท์ ถนนเลี่ยงเมืองนนท์ ซอย 11 อำเภอเมืองนนทบุรี จนพบของกลางทั้งหมดดังกล่าว

นายประวิทย์ ให้การว่า ตนเพิ่งพ้นโทษในคดีลักทรัพย์ในท้องที่สน.พหลโยธิน ได้ไม่นาน ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ จึงไปชวนนาย นิวัฒน์ ร่วมกันตระเวนก่อเหตุชิงทรัพย์

ตนเลือกเฉพาะผู้เสียหายที่เป็นพวกชายรักชาย โดยให้นายนิวัฒน์ซึ่งมีหน้าตาดี และมีเสน่ห์กับเกย์เป็นตัวล่อ เลือก เอาเฉพาะคนที่แต่งตัวดี ใช้โทรศัพท์ดีๆ ราคาแพง บางคนก็เกิดความอับอายไม่กล้าแจ้งความ แต่ตนทั้ง 2 ไม่ได้เป็นเกย์แต่อย่างใด

ทุกครั้งจะเอาผู้เสียหายมาก่อเหตุ กลางซอยสิรินธร 4 เพราะใกล้ที่พัก สามารถหลบหนีได้ง่าย บางคนขัดขืนพวกตนก็จะรุมกระทืบ แล้วชิงเอาทรัพย์สินทุกอย่างทั้งกระเป๋าเงิน เงิน โทรศัพท์มือถือและสร้อยคอทองคำ ถ้าใครยอมแต่โดยดีส่วนมากก็จะได้แค่โทรศัพท์มือถือ

นายประวิทย์ให้การอีกว่า หลังได้ มือถือมาถ้าตรวจสอบได้ว่า ถูกล็อกเครื่องหรือลงโปรแกรมติดตามตัวเครื่องไว้ ก็จะเอาเครื่องนั้นไปโยนทิ้งที่สะพานพระราม 5 แต่ถ้าปลดล็อกได้ก็จะเอาไปขายตามห้างต่างๆ เอาเงินมาแบ่งกันใช้ เพราะต่างคนต่างตกงาน ตนยอมรับว่าเคยก่อเหตุมาแล้วประมาณ 7-8 ครั้ง

ขณะที่พ.ต.ท.ชัชชัยกล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติทั้งคู่มีหมายจับข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ ในท้องที่สน.พหลโยธิน และท้องที่สถานีตำรวจรถไฟ นพวงศ์ ซึ่งหากผู้เสียหายรายใดเคยถูกก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวนี้ ก็สามารถมาดูตัวผู้เสียหายได้ที่สน.บางพลัด เพราะเชื่อว่ายังมีผู้เสียหายที่ยังไม่กล้าแจ้งความอีกหลายคน

ล่าสุดมีผู้เสียหายมาชี้ตัวเอาผิดแล้ว 4 คน คิดว่าคงไม่หมดแค่นี้เป็นแน่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน