คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

เพื่อนฝูงที่ชักชวนกันไปทำความดีเราเรียกว่า ‘กัลยาณมิตร’ ช่างห่างไกลกับเรื่องราวมิตรภาพระหว่างนายธนากร หรือเจมส์ เสาเฉลิม กับนายดนิรุจน์ หรือเติ้ล คุ้มกล่ำ เพราะสองหนุ่มเพื่อนซี้คู่นี้นอกจากความดีจะไม่สนแล้ว ยังชักชวนกันหาเรื่องใส่ตัวจนสุดท้ายต้องกลายเป็นผู้ต้องหาร่วมกันจี้ชิงทรัพย์

เรื่องราวของสองหนุ่มเพื่อนซี้คู่นี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 02.15 น. วันที่ 25 มิ.ย. 2564 เมื่อ ร.ต.อ.รณศักดิ์ ไชนวงค์ รอง สวป.สน.บางบอน รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์พนักงานเติมน้ำมัน เหตุเกิดภายในปั๊มน้ำมันพีที ปากซอยเอกชัย 110 แขวงและเขตบางบอน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมฝ่ายสืบสวน สน.บางบอน

ย้อนคดีจับโจรสปาร์ตาชิงทรัพย์ปั๊มน้ำมันพีทีพนง.เพื่อนซี้คอยชี้เป้า

สอบพนักงานปั๊ม

ที่เกิดเหตุพบนายอดุลย์ อายุ 19 ปี พนักงานปั๊มน้ำมัน ยืนรอด้วยอาการตกใจโดยให้การว่า ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. ตนทำงานเวรกะดึกอยู่กับเพื่อนอีกคน ได้มีคนร้ายเป็นชาย สูงประมาณ 165 ซ.ม. รูปร่างสันทัด สวมเสื้อยืดแขนยาวสีเทา นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีเทาลายดอก ที่ขาด้านซ้ายสักลาย สวมหมวกกันน็อกสีแดงแบบครึ่งใบ ใส่หน้ากากอนามัย ได้ขี่จยย.ฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีเทา-ดำ เข้ามาจอดที่หัวจ่ายน้ำมัน ลักษณะเหมือนคนมาจอดเติมน้ำมัน

ตนจึงรีบวิ่งไปสอบถามว่าจะเติมเท่าไหร่ แต่จู่ๆ คนร้ายก็ชักมีดสปาร์ตายาวประมาณ 40 ซ.ม. ที่พกติดเอวออกมาขู่แล้วบอกว่าให้เอากระเป๋าคาดเอวที่ใส่เงินส่งให้ สำเนียงพูดคนภาคกลาง ตนพยายามก้าวเท้าถอยหนี แต่คนร้ายก็เดินตามมาแล้วทำท่าทางคล้ายจะทำร้ายตน ด้วยความกลัวจะได้รับอันตรายจึงเอากระเป๋าคาดเอวที่มีเงินกว่า 7,000 บาทส่งให้ไป จากนั้นคนร้ายจึงรีบขี่รถจยย.หลบหนีย้อนกลับไปทางถนนบางบอน 3

หลังสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะพักอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ จึงเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในปั๊มน้ำมัน และตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

ย้อนคดีจับโจรสปาร์ตาชิงทรัพย์ปั๊มน้ำมันพีทีพนง.เพื่อนซี้คอยชี้เป้า

ปั๊มที่เกิดเหตุ

ผ่านไปเพียงไม่กี่วันตำรวจก็ปิดคดีลงได้ โดยหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.พงษ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ณกฤช บุญศักดิ์ ผกก.สส.บก.น.9 กก.สส.บก.น.9 สั่งการให้ชุดสืบสวน บก.น.9 และ สน.บางบอน เร่งติดตามผู้ก่อเหตุดังกล่าว จนกระทั่งสืบทราบว่า ผู้ก่อเหตุดังกล่าวคือ นายธนากร หรือเจมส์ เสาเฉลิม อายุ 20 ปี พร้อมสืบทราบว่าคดีนี้มีเกลือเป็นหนอน โดยนายดนิรุจน์ หรือเติ้ล คุ้มกล่ำ อายุ 21 ปี พนักงานในปั๊มดังกล่าวร่วมก่อเหตุด้วย จึงขออนุมัติศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวข้อหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีหรือใช้อาวุธและใช้ยานพาหนะแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”

ต่อมาเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ชุดสืบสวน บก.น.9 สามารถจับกุมนายธนากรได้บริเวณซอยพระราม 2 ซอย 28 ถนนรัตนกวี แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กทม. พร้อมชุดเสื้อผ้าของกลางที่ใช้ก่อเหตุ นายธนากรสารภาพไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ไม่มีรายได้และต้องการเสพยา จึงเข้าชิงทรัพย์ผู้เสียหายเพียงลำพัง แต่ตนมีต้นทางและคนส่งสัญญาณให้ลงมือคือ นายดนิรุจน์ หรือเติ้ล คุ้มกล่ำ อายุ 20 ปี เพื่อนสนิทที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกันและทำงานเป็นเด็กปั๊มน้ำมันดังกล่าว หลังก่อเหตุได้แบ่งเงินกันไปใช้จ่ายซื้อยาเสพจนหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากนั้นจึงแยกย้ายกันหลบหนี

ย้อนคดีจับโจรสปาร์ตาชิงทรัพย์ปั๊มน้ำมันพีทีพนง.เพื่อนซี้คอยชี้เป้า

วงจรปิดขณะก่อเหตุ

พ.ต.อ.นครินทร์เปิดเผยว่า นายธนากรวางแผนนัดแนะว่า หากเติมน้ำมันได้เงินเยอะแล้วนายดนิรุจน์จะส่งสัญญาณให้เข้ามาจี้ โดยจะทำทีเป็นผู้เสียหายเมื่อถูกข่มขู่ ก็จะบอกให้เพื่อนยื่นกระเป๋าเงินให้

กระทั่งวันเกิดเหตุนายดนิรุจน์ ซึ่งปกติจะเป็นเด็กปั๊มที่ถือเงิน แต่จู่ๆ ก็เปลี่ยนให้นายอดุลย์ เพื่อนเด็กปั๊มที่มาใหม่ถือเงินแทน จากนั้นนายธนากรเข้ามาก่อเหตุดังกล่าว

ย้อนคดีจับโจรสปาร์ตาชิงทรัพย์ปั๊มน้ำมันพีทีพนง.เพื่อนซี้คอยชี้เป้า

นายธนากร หรือเจมส์ เสาเฉลิม คนร้าย

ตำรวจแกะรอยจากรถจักรยานยนต์ จนไปตามจับนายธนากรได้ เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่ สน.บางมด และ สน.บางขุนเทียนด้วย

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธและใช้ยานพาหนะ เพื่อการหลบหนี

งานการไม่มีทำซ้ำยังติดยา ก็ไม่ต่างกับแม่เหล็กที่คอยดูดแต่เรื่องร้ายๆ ชั้นดีนี่เอง

พุฒิสรรค์ แก้วบัวดี/สราวุฒิ ศรีเพ็ชรสัย

เรื่อง/ภาพ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน