คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
คดีแช็ตสยิวบัวใหญ่ปี61 – ชื่อของ นายณฐาภพ บุญทองโท อดีตผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราช สีมา ที่ก่อคดีแช็ตฉาวโฉ่กับนักเรียนหญิงในโรงเรียนกลับมาเป็นข่าวบนหน้าสื่ออีกครั้ง
หลังหลายคนคิดว่าเจ้าตัวน่าจะกำลังรับกรรมอยู่ในคุก
เรื่องราวของ ผอ.กินเด็กรายนี้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2564 พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.อภิชน ขันกา สว.กก.4 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กก.สายตรวจ บก.ปพ. เข้าจับกุม นายณฐาภพ บุญทองโท อายุ 53 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดบัวใหญ่ ที่ 51/2562 ลงวันที่ 4 ก.ค. 2562 ข้อหาอนาจาร และศาลจังหวัดบัวใหญ่ ที่ 79/2562 ลงวันที่ 11 ต.ค. 2562 ข้อหา ข่มขืนกระทำชำเรา ที่ริมถนนชายหาดชลาทัศน์ ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา
นายณฐาภพ บุญทองโท
ที่มาที่ไปของการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อปี 2561 ขณะที่นายณฐาภพผู้ต้องหายังเป็นผู้อำนวยการอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ถูกร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ลักษณะคบหากันเป็นแฟนอย่างลับๆ โดนมีการพาเด็กหญิงไปเที่ยวแบบ 2 ต่อ 2 พร้อมมีหลักฐานข้อความแช็ตไลน์ เรียกแทนตัวเองว่า ‘ที่รัก’ และ ‘เมียจ๋า’ รวมทั้งยังมีข้อความขอแต่งงาน จนกลายเป็นเรื่องฉาวบนโลกออนไลน์ ก่อนที่ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนคนดังกล่าวจะเข้าแจ้งความเอาผิดต่อนายณฐาภพ ที่ สภ.บัวใหญ่
นอกจากกรณีของเด็กหญิงรายดังกล่าวแล้ว ยังมีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้น ม.2 อายุ 13 ปี อีกรายที่เข้าแจ้งความเอาผิดกับนายณฐาภพ ในความผิดลักษณะเดียวกันด้วย โดยเด็กนักเรียนหญิงรายดังกล่าวอ้างว่าถูกนายณฐาภพชักชวนขึ้นรถยนต์ เมื่อขับไปถึงบริเวณที่ลับตาคนถูก ผอ.ลวนลามจับมือ จับแขน ลูบขาในรถ และยังขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย พร้อมเสนอเงินค่าตอบแทน จำนวน 2,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่ยินยอม ต่อมานายณฐาภพขอมอบตัวสู้คดี และวันที่ 20 ก.ค. ปีเดียวกัน คณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) นครราชสีมา มีมติออกคำสั่งไล่นายณฐาภพออกจากราชการ
หลักฐานแช็ตสยิว
คดีดังกล่าวในวันที่ 16 ส.ค. 2561 ศาลจังหวัดบัวใหญ่พิพากษาจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมาย มาตรา 278, 279 วรรค 2 ประกอบมาตรา 285 และมาตรา 317 วรรค 3 มาตรา 318 วรรค 3 การกระทำของจำเลย เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เรียงกระทงลงโทษ ฐานกระทำอนาจาร แก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และเป็นการกระทำแก่ศิษย์ ซึ่งอยู่ในความดูแล
ลงโทษจำคุก 8 เดือน ฐานกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี จำคุก 8 เดือน ฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา เพื่อการอนาจาร จำคุก 5 ปี ฐานพรากเด็กอายุกว่า 15 ปี ไม่เกิน 18 ปี โดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจไปด้วยเพื่อการอนาจาร จำคุก 4 ปี รวมจำคุก 10 ปี 4 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี 2 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ เนื่องจากเป็นการกระทำผิดต่อศิษย์ จึงไม่มีการรอลงอาญา
รอขึ้นเครื่องบินเข้ากรุง
หลังศาลชั้นต้นตัดสินคดี อดีตภรรยาของนายณฐาภพใช้เงินสด 200,000 บาท ยื่นขอประกันตัวออกไปต่อสู้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ ก่อนหลบหนีคดีไปในที่สุด ขณะที่คดีดำเนินต่อมาจนถึงสุดท้ายปลายทาง เมื่อศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาลับหลัง เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยตัดสินให้เพิ่มโทษจำคุก นายณฐาภพรวมทุกคดีจำนวน 46 ปี พร้อมกับออกหมายจับตัวมารับโทษตามคำตัดสิน
กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าอดีตผอ.ฉาว หลบหนีมาประกอบอาชีพขายของอยู่ที่ริมชายหาดชลาทัศน์ จ.สงขลา จึงเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว สอบสวนนายณฐาภพยังให้การปฏิเสธ พร้อมกับไม่ขอให้รายละเอียดในชั้นสอบสวน อ้างว่าเหตุการณ์ผ่านมานานหลายปีแล้วจำเรื่องราวไม่ได้
สอบเบื้องต้น
คดีนี้เจ้าหน้าที่ไม่ต้องสอบสวนดำเนินคดีอะไรอีกเพราะศาลได้ตัดสินเป็นที่สิ้นสุดแล้วไปแล้ว จึงเป็นเพียงการยืนยันว่าผู้ถูกจับคือนายณฐาภพ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับจริงเพียงแค่นั้น ก็สามารถนำตัวส่งศาลจังหวัดบัวใหญ่ เพื่อดำเนินการส่งตัวเข้าเรือนจำตามคำพิพากษาต่อไป
ธานี ทวีเกิด เรื่อง/ภาพ
