คอลัมน์ สดจากสนามข่าว – ย้อนคดีฆ่าสยองสุราษฎร์ น้องอดีตรองนายกอบจ. จ่อยิงพี่สะใภ้ดับคาสี่แยก

เป็นเรื่องธรรมดาที่คนในครอบครัวเดียวกัน ย่อมต้องมีรักกันบ้าง โกรธกันบ้าง หากค่อยพูดค่อยจากันก็ผ่อนหนักเป็นเบาได้ หากปล่อยให้บานปลายอาจกลายเป็นเรื่องสยองได้

ย้อนไปเมื่อเวลา 16.40 น.วันที่ 30 มิ.ย. พ.ต.อ.สมบัติ ฉ่ำแสง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.เมืองสุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.พรณรงค์ การอรชัย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สมชาย พุทธรักษา รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.ภูสาโรจน์ นาคพิน รองผกก.(สอบสวน) ร.ต.อ.อดิเทพ ศรีเทพ รองสว. (สอบสวน) นำกำลังชุดสืบสวน สายตรวจ เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์ หลักฐาน 8 เจ้าหน้าที่กู้ภัยจุดบางใหญ่ เข้าตรวจสอบเหตุเหตุยิงกันบริเวณสี่แยกไฟแดงสวนหลวง หมู่ที่ 1 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี

ตร.ตรวจที่เกิดเหตุ

บริเวณกลางสี่แยก พบรถยนต์ฮอนด้า เฮช อาร์-วี สีขาว ทะเบียน 9 กง 9585 กทม. จอดขวางอยู่ สภาพกระจกด้านข้างคนขับแตกละเอียด ภายในพบคราบเลือด และรองเท้าคัตชูวางอยู่หนึ่งคู่ ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อว่า นางสุชาวดี อินทรักษ์ เป็นเจ้าหน้าที่ อบจ.สุราษฎร์ธานี ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตขณะนำส่ง ร.พ.

สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตกลับมาจากงานเผาศพที่วัดโพธิ์นิมิตร ขณะที่จอดติดไฟแดงอยู่ที่สี่แยกมีคนร้ายเป็นชายลงมาจากรถเก๋งสีดำที่จอดอยู่ด้านหลัง ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดจ่อยิงใส่รถผู้ตายฝั่งคนขับหลายนัด ก่อนเดินกลับมาขับรถหลบหนีไป

นาทีลั่นไก

ขณะที่รถเก๋งของนางสุชาวดี ยังคงเคลื่อนออกไป ก่อนจะเสียหลักชนทางเท้า ทำให้พลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือและแจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งตรวจสอบพบว่า นางสุชาวดีมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 3 แผล สภาพไม่รู้สึกตัว จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลทักษิณ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

คดีนี้ไม่ต้องสืบให้เสียเวลาเพราะมีพยานที่เห็นเหตุการณ์หลายคน ที่สำคัญมีหลักฐานวิดีโอจากกล้องหน้ารถที่บันทึกไว้ได้อย่างชัดเจน ทำให้ทราบว่ารถคนร้ายใช้เป็นรถเก๋งโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ ทะเบียน ขก 2704 สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีชื่อมารดาของนายก่อเกียรติ อินทรักษ์ อดีตรองนายกอบจ.สุราษฎร์ธานี และเป็นสามีของผู้ตายเป็นเจ้าของ ก่อนจะพบถูกขับไปจอดทิ้งอยู่กลางซอยสวนถั่ว ซอย 7 ภายในรถพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่บนเบาะคนขับจำนวน 1 ปลอก และที่พื้นยังพบกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ยังไม่ได้ใช้งาน ตกอยู่อีกหนึ่งนัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ชุดจับกุม

วันรุ่งขึ้นตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ นายพิษณุ อินทรักษ์ อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นน้องสามีของผู้ตาย ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร

สำหรับสาเหตุการก่อเหตุสยองครั้งนี้คาดว่าเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว หรือเรื่องภายในครอบครัว ที่ทางนายพิษณุ มีปัญหากับพี่ชายและพี่สะใภ้ ซึ่งหลังก่อเหตุตำรวจพบว่าในเฟซบุ๊กของนายพิษณุได้โพสต์ข้อความถึงความขัดแย้งดังกล่าวเอาไว้ ขณะที่การสอบสวนพบว่าก่อนเกิดเหตุทั้งนายพิษณุและนางสุชาวดีผู้ตาย มีปากเสียงกันในงานเผาศพที่วัดโพธิ์นิมิตร ก่อนจะมาเกิดเหตุสยองขึ้น

นายพิษณุ อินทรักษ์ มือปืน

ขณะที่ทางฝ่ายญาติๆ ก็ออกมาให้ข้อมูลว่าทางครอบครัวไม่เคยมีปัญหากับนายพิษณุ แต่เป็นเพราะนายพิษณุมีปัญหาด้านสุขภาพจิต ทำให้คิดมากไปเองจนทะเลาะระหองระแหงกับทางญาติพี่น้อง และไม่ใช่ขัดแย้งเรื่องมรดกแต่อย่างใด

กลางดึกวันที่ 1 มิ.ย. ตำรวจก็จับกุมตัวนายพิษณุได้หลังไปหลบซ่อนตัวในพื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ฯ เบื้องต้นเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา

ตำรวจมีทั้งประจักษ์พยาน ทั้งวิดีโอขณะเกิดเหตุที่มันแน่น งานนี้คงยากที่จะดิ้นหลุด

ธนภัทร ชีระจินต์ – เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน