คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ปัจจุบันแนวโน้มอาชญากรรมมีมากขึ้น เพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ‘บิ๊กปั๊ด’ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่มีความเชี่ยวชาญงานสืบสวนและเทคโนโลยี
จึงได้ริเริ่มโครงการติดตั้งกล้อง CCTV ที่สาธารณะและอาคารเอกชนที่ร่วมมือกัน ระวังภัยในเมือง เพิ่มศักยภาพงานสืบสวน ป้องกันปราบปรามเพื่อจับกุมคนร้ายหลังก่อเหตุ โดยวิเคราะห์เชื่อมโยงพฤติกรรมคนร้ายในที่เกิดเหตุได้เร็วและมีประสิทธิภาพ
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.
สำหรับโครงการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ได้ขอความร่วมมือในการติดตั้งจากการไฟฟ้านครหลวง และบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัทห้างร้านเจ้าของอาคาร นำกล้อง CCTV ไปติดตั้งจุดล่อแหลมทั่วกรุงเทพฯ
โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะทำงานพัฒนาเทคโนโลยี ตร. พล.ต.ท.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบช.สทส. พล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา รอง ผบช.สทส. และเลขานุการฯ ผบช.น. และ ผบช.ภ.1-9 ร่วมทีม
เริ่มจากวางเป้าหมายพื้นที่กรุงเทพฯ นำกล้องวงจรปิดระบบเซลลูลาร์ติดตั้งบนเสาไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง และความร่วมมือเจ้าของอาคารเอกชน ตามจุดเสี่ยง จุดล่อแหลมทั่วพื้นที่ 5,929 จุด ใช้กล้องวงจรปิด 9,138 ชุด ใช้กล้อง CCTV ระบบ Network Attached Storage (NAS) ที่รวดเร็วและจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ 9,138 ตัว ที่ติดตั้งแล้ว ซึ่งจะมีการเพิ่มเติมอีก อยู่ในความดูแลของบช.น. ที่กำหนดจุดเสี่ยง จุดล่อแหลม ที่จะนำกล้องไปติดตั้ง ควบคุมโดยผู้ปฏิบัติงานจริง ทั้งฝ่ายป้องกันปราบปราม ฝ่ายสืบสวน เมื่อเกิดเหตุวิเคราะห์เชื่อมโยงพฤติกรรมคนร้ายในที่เกิดเหตุรวดเร็ว
ภาพหลักฐานที่ได้
โครงการดังกล่าวนำร่องไปแล้วหลายพื้นที่ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.ผบช.ภ.2 ก็ได้นำกล้อง CCTV กว่า 200 ตัว ไปติดไว้ตามจุดเสี่ยงไว้ จำนวน 124 จุด ที่พัทยา เมืองท่องเที่ยว เพื่อช่วยป้องกันเหตุอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัทยา ดูแลกล้อง CCTV ตลอดเวลา สามารถใช้ดูในโทรศัพท์ มือถือได้ เมื่อเกิดเหตุสามารถติดตามเส้นทางหลบหนีและยานพาหนะของคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว
หลังมีนโยบายให้ทุกหน่วยนำระบบกล้อง CCTV มาติดใช้ในทุกพื้นที่ ไม่นานเริ่มเห็นผลงานอย่างเป็นรูปธรรม ปิดคดีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งในกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัดได้ผลอย่างรวดเร็ว
อาทิ ที่ สน.พลับพลาไชย 2 จับนักวิ่งราวทรัพย์ที่ก่อเหตุมาหลายท้องที่ ที่ทาง พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 พร้อมทีมสืบสวนได้ประสานงานติดตั้งกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ตามนโยบายของผบ.ตร. เพื่อใช้สืบสวนหลังเกิดเหตุและประสานงานระหว่างท้องที่ต่างๆ
ผลงาน สน.พลับพลาไชย 2
รวมถึงปิดคดีคนร้ายปาหินใส่รถที่วิ่งผ่านอุโมงค์ข้ามแยกสุทธิสาร-รัชดาภิเษก และพื้นที่ใกล้เคียงได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหายหลายราย สน.สุทธิสาร ก็ได้จากการตรวจสอบกล้อง CCTV ใช้เวลา 2 วันเท่านั้น ก่อนจับมือปาหินพร้อมของกลาง
ขณะที่ สน.พหลโยธินก็สามารถจับกุมคนร้ายวิ่งราวสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท จากร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ในห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขาลาดพร้าว ได้ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งก็สืบสวนภาพคนร้ายจากกล้อง CCTV
ยังมีอีกหลายคดีที่จับกุมคนร้ายได้ด้วยกล้อง CCTV จากโครงการนี้
ศูนย์ควบคุมวงจรปิด
พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า อาชญากรรมมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบตามสังคมยุค 5G เพื่อให้การแก้ไขอาชญากรรมมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงมีนโยบายนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงานให้ทันสมัยและช่วยดูแลบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน และกล้อง CCTV ขาดไม่ได้ในงานสืบสวน บางอย่างนิติวิทยาศาสตร์ทำ ไม่ได้ไม่มีพยานหลักฐาน
ที่ผ่านมา CCTV ไม่ตอบโจทย์เพราะส่วนราชการอื่น เอกชนเป็นเจ้าของ แต่ตำรวจแทบไม่มี จุดติดตั้งไม่เหมาะสม ตนคิดว่าจะทำอย่างไรให้สามารถตอบโจทย์ได้ ราคาถูก เหมาะสมและไม่ยุ่งยาก จึงนำโมเดลทางจังหวัดชายแดนใต้มานำร่องใช้
ให้ตำรวจท้องที่เป็นเจ้าของและดูแลเองโดยกระจายความรับผิดชอบตำรวจ 1 คน ต่อกล้องวงจรปิด 5 ตัว เพราะไม่มีใครรู้จุดติดตั้งได้ดีเท่ากับฝ่ายสืบสวน ซึ่งจะพัฒนาให้เพิ่มขึ้นเพื่อพี่น้องประชาชนทั้งในเมืองหลวง และต่างจังหวัดตามโครงการกล้อง CCTV ระวังภัยในเมือง
เป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ จากไอเดียของ ผบ.ตร.คนนี้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชน
อดิศร จิตตเสวี
เรื่อง/ภาพ
