ภูษณิศา สัญญารักษกุล

ติรยา ใจแก้ว

เรื่อง/ภาพ

เมืองไทยแม้ไม่ใช่ประเทศต้นกำเนิดแห่งศาสนาพุทธ แต่ศาสนาพุทธนั้นอยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่เริ่มก่อร่างสร้างชาติ ความศัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาดูได้จากจำนวนวัดวาอารามที่มีกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีโบราณวัตถุจำนวนมาก ถูกเก็บรักษาอยู่ในความครอบครองของวัดเก่าแก่ต่างๆ โดยเฉพาะพระพุทธรูปเก่าแก่ที่ชาวบ้านในพื้นที่นับถือบูชา วัดยิ่งเก่าแก่เท่าไหร่โบราณวัตถุก็ยิ่งมีคุณค่าเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่าพันทวี

กลายเป็นที่ต้องการของนักสะสมของเก่าบางจำพวก ที่ต้องการเก็บสะสมเอาไว้ชื่นชมแต่เพียงคนเดียว เมื่อมีทั้งความต้องการและเงินทองจำนวนมาก แก๊งมิจฉาชีพที่หากินอยู่กับการลักขโมยโบราณวัตถุไปขายในตลาดมืดจึงเกิดขึ้น

ล่าสุดแก๊งโจรผัว-เมีย ก่อเหตุลอบเข้าไปลักพระพุทธรูปสำคัญของวัดศรีรองเมือง วัดเก่าแก่ในพื้นที่ ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง หายเข้ากลีบเมฆไปตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. จนถึงบัดนี้ยังไร้ร่องรอย

เหตุการณ์ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 28 พ.ย. โดยพระอธิการชลฌาทิศ เจ้าอาวาสวัดศรีรองเมือง อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมนายยุทธการ บุรพเกียรติ์ ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดศรีรองเมือง เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประภากร ทะชมพู สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลำปาง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ หลังพบว่าพระพุทธรูปซึ่งสร้างจากหินหยกขาวอายุหลายร้อยปี ถูกคนร้ายเข้ามาขโมยหายไปจากแท่นที่ประดิษฐาน บริเวณด้านหน้าพระวิหารวัดศรีรองเมือง เลขที่ 80 ถ.ท่าคราวน้อย ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง

หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.ท.ประภากรพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ร่วมกันรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุในวัดดังกล่าวโดยทันที

พระอธิการชลฌาทิศนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดที่พระพุทธรูปหยกขาวเคยประดิษฐานอยู่ ก่อนจะถูกคนร้ายขโมยไป

พระอธิการชลฌาทิศให้การว่า ตนนำพระพุทธรูปหินหยกขาว ที่อยู่คู่กับวัดมาตั้งแต่ก่อนก่อสร้างออกจากที่ประดิษฐานเดิม เพื่อมาให้พุทธศาสนิกชนปิดทองพระเพื่อความเป็นสิริมงคล ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.เป็นต้นมา โดยเอามาวางไว้ด้านหน้าใกล้ทางเข้าวิหาร ไม่มีตู้หรือกระจกกั้นไว้แต่อย่างใด ต่อมาเมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่าพระพุทธรูปหายไปอย่างไร้ร่องรอย

พระอธิการชลฌาทิศให้การต่อว่า หลังเกิดเหตุมาเปิดดูกล้องวงจรปิดที่วัดติดตั้งไว้ ปรากฏว่าสามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน

เจ้าอาวาสวัดศรีรองเมืองนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูภาพจากกล้องวงจรปิด พบภาพคนร้าย 2 คน เป็นชายและหญิง อายุระหว่าง 40-50 ปี คล้ายกับเป็นผัวเมียกัน ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันเข้ามาในวัด เมื่อเวลา 16.42 น. วันที่ 26 พ.ย.

จากนั้นทั้งสองคนเดินลงจากรถ ผู้ชายสวมเสื้อลายพรางทหารสีเขียว สวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน และรองเท้าแตะเดินนำหน้า ส่วนผู้หญิงสวมเสื้อเชิ้ตลายทางแขนสั้นสีออกม่วง สวมกางเกงยีนส์ขาลอย รองเท้าแตะสานสีขาว สะพายย่ามสีเหลืองคล้ายย่ามพระสงฆ์เดินตามมาติดๆ

สองผัว-เมียเดินหายไปจากมุมกล้อง ก่อนหายไปนานกว่าครึ่งชั่วโมง จนกระทั่งเวลา 17.38 น. กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้อีกครั้ง ขณะคนร้ายที่เป็นผู้ชายเดินขึ้นมาในพระวิหาร โดยเดินตรงเข้ามายังแท่นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหยกขาว จากนั้นใช้กระเป๋าผ้าขนาดใหญ่วางและใช้มือยกเอาพระพุทธรูปใส่ในกระเป๋า ก่อนที่จะแบกกระเป๋าที่ภายในมีพระพุทธรูปออกไปอย่างทุลักทุเล

ภายหลังลงจากพระวิหาร คนร้ายรีบตรงไปยังที่จอดรถจักรยานยนต์ ซึ่งมีคนร้ายผู้หญิงรออยู่ ก่อนทั้งคู่จะรีบพากันขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปจากวัดอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาในการก่อเหตุแค่ 3 นาที

พระอธิการชลฌาทิศได้บอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเคยเห็นสองผัวเมียคู่นี้มาครั้งหนึ่งแล้ว โดยเข้ามาเหมือนนักท่องเที่ยวมาสอบถามข้อมูลวัด ถามจำนวนพระและดูบริเวณวัด ทราบว่าทั้งคู่เป็นคนเมือง เนื่องจากตนเองสนทนาด้วยภาษาคำเมือง จนกระทั่งมาดูกล้องวงจรปิดจึงจำหน้าได้ วอนของให้นำพระพุทธรูปที่ขโมยไปมาคืน

สำหรับวัดศรีรองเมืองเป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดลำปาง วัดมีเอกลักษณ์สร้างสไตล์พม่า ตั้งแต่ปีพ.ศ.2448 รวม 112 ปี มีพระพุทธรูปศิลปะพม่าที่สวยงามและเก่าแก่ ที่ผ่านมามักจะมีคนร้ายเข้าไปขโมยเงินบริจาคหลายครั้ง แต่ครั้งนี้คนร้ายเหิมเกริมถึงกับเข้าไปขโมยพระพุทธรูปไปทั้งองค์ ซึ่งพระพุทธรูปหยกขาวที่ถูกขโมยไปเป็นพระพุทธรูปศิลปะสกุลช่างพม่า ที่มีความสวยงามและเก่าแก่ จึงเป็นที่หมายปองของกลุ่มคนในตลาดมืดที่ชอบสะสมของเก่า จนอาจมีการว่าจ้างคนร้ายเข้ามาก่อเหตุขโมยพระพุทธรูปดังกล่าว

ล่าสุดตร.พบทั้งคู่นำพระไปขายตลาดพระที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ โดยคนรับซื้อเห็นข่าว จึงกลัวความผิด นำพระมามอบให้ตำรวจ สภ.สันทราย

ก่อเหตุอุกอาจกลางวันแสกๆ ไม่ได้เกรงฟ้าเกรงดิน จนมีภาพเห็นใบหน้าชัดซะขนาดนี้ ไม่น่ายากเกินฝีมือตำรวจเมืองลำปาง!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน