คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

เปิดคำสารภาพหนุ่มอุดร – ‘ก่อนเกิดเหตุผมดื่มเหล้าจนเมารู้สึกคับแค้นใจที่สะสมมานาน และน้อยใจที่น้องชายไล่ลูกชายผมไปกักตัว จึงถือมีดอีโต้เข้าไปทำร้ายร่างกายน้องชายฟันแบบไม่ยั้ง’

นายจรัญ ธาตุทำเล หนุ่มขาพิการวัย 40 ปี ก้มหน้าสารภาพความผิดต่อตำรวจ หลังถูกจับกุมตัวคดีฆาตกรรมน้องชายแท้ๆ ของตัวเอง

เปิดคำสารภาพหนุ่มอุดร

นาทีจนมุม

โดยมีจุดเริ่มต้นจากปมในใจที่เก็บกดมานาน เพราะพ่อแม่ยกบ้านและที่ดินเป็นมรดกให้ผู้ตายเพียงคนเดียว

คดีสลดครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงค่ำวันที่ 19 ก.ค. เมื่อพ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.หนองหาน จ.อุดรธานี รับแจ้งจากนายวรินทร บุญเสริม กำนันตำบลบ้านเชียง ว่า เกิดเหตุทำร้ายร่างกายกันภายในบ้านเลขที่ 177 หมู่ 1 ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี มีผู้บาดเจ็บสาหัส

ผู้กำกับสรายุทธรีบนำกำลังตำรวจไปตรวจสอบทันที

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูงทรงไทยพวน ชั้นล่างก่ออิฐฉาบปูนแบ่งเป็นห้องไว้ใช้สอย บริเวณในห้องชั้นล่าง พบเพียงรอยเลือดกองใหญ่

ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อนายสุรศักดิ์ ธาตุทำเล อายุ 32 ปี ถูกอาวุธมีดฟันศีรษะ 2 แผล แผ่นหลังและหน้าอกอีกแห่งละ 1 แผล รวม 4 แผลฉกรรจ์

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลบ้านเชียงนำส่งรักษาที่ ร.พ.หนองหาน ไปก่อนหน้าแล้ว แต่อาการสาหัสมากเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เพื่อนบ้านที่เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ให้เบาะแสตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงคนทะเลาะกันดังมาก ก่อนที่จะมีเด็กชายวัย 9 ขวบ ลูกนายสุรศักดิ์เปิดประตูวิ่งหนีออกมาด้วยท่าทีหวาดกลัว

จากนั้นเห็นนายจรัญวิ่งถือมีดปลายแหลมตามออกมาในลักษณะคล้ายคนเมาสุรา ตรงเข้าจี้เด็กชายพาตัวขึ้นรถจักรยายนต์ยามาฮ่าฟีโน่ สีขาว-น้ำเงิน หลบหนีไป

เมื่อเข้าไปดูในบ้านพบร่างนายสุรศักดิ์นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพมาช่วยเหลือ และแจ้งกำนันทันที

เปิดคำสารภาพหนุ่มอุดร

บ้านมรดกเลือด

หลังทราบเบาะแสทั้งหมด เจ้าหน้าที่กระจายกำลังออกติดตามพร้อมประสานตำรวจในพื้นที่ข้างเคียงช่วยสกัดจับตัวนายจรัญให้เร็วที่สุด ด้วยเกรงว่าอาจเกิดอันตรายกับเด็กชายที่เป็นตัวประกัน

ในที่สุดก็จับตัวนายจรัญได้ที่ถนนในหมู่บ้านภูตะคาม ต.ท่าศิลา อ.ส่องดาว จ.สกลนคร ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกัน ในช่วงเช้าวันที่ 20 ก.ค.

โดยที่เด็กชายวัย 9 ขวบ ปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน แต่มีอาการตื่นตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายจรัญรับสารภาพถึงสาเหตุที่ฆ่าน้องชายแท้ๆ ว่า มีหลายเรื่องรวมทั้งเรื่องคับแค้นใจ

เหตุจากก่อนหน้านี้นายจรัญไปทำงานเรือประมงในทะเลเป็นเวลาสิบๆ ปี ส่งเงินมาให้แม่และน้องๆ สม่ำเสมอ

เมื่อแม่เสียชีวิตก็ยกมรดกที่ดินและบ้านให้นายสุรศักดิ์น้องชายเพียงคนเดียว

นายจรัญยืนยันว่า ไม่เคยติดใจอะไรในเรื่องดังกล่าว กระทั่งเมื่อ 3 ปีก่อนเกิดอุบัติเหตุบนเรือประมงทำให้ขาพิการจึงกลับมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิด

เปิดคำสารภาพหนุ่มอุดร

ย้อนนาทีก่อเหตุ

ตั้งแต่กลับมาร่วมชายคาเดียวกัน เมื่อไหร่ที่น้องชายเมาเหล้ามักหาเรื่องชวนทะเลาะและไล่ออกจากบ้านทุกครั้ง อ้างว่ามีสิทธิ์เพราะพ่อและแม่ยกให้ ต้องเก็บความคับแค้นใจไว้ตลอดมาเพราะบ้านหลังนี้ตนเองก็มีส่วนส่งเงินมาสร้างบ้านด้วย

แล้วก็มาถึงจุดที่ทำให้สุดจะทน เพราะเมื่อ 2 วันก่อนเกิดเหตุ ลูกชายนายจรัญซึ่งทำงานที่ จ.ระยอง ขอมาอาศัยด้วยอีกคน นายสุรศักดิ์กลับดุด่าโวยวายให้ไปกักตัวอยู่ที่อื่นเพราะกลัวนำเชื้อโควิดมาติดคนในบ้าน จึงพาลูกชายไปส่งกักตัวที่โรงเรียนบ้านดงเย็น ก่อนไปนั่งดื่มสุราหวังดับความกลุ้มใจ

หลังจากดื่มจนเมาความรู้สึกคับแค้นใจที่สะสมมานานและน้อยใจที่น้องชายไล่ลูกชายของตนเองไปกักตัวก็ระเบิดออกมา คว้ามีดอีโต้บุกก่อเหตุ

เปิดคำสารภาพหนุ่มอุดร

ไหว้ขมารูปน้องชาย

ส่วนหลานชายวัย 9 ขวบ ไม่ได้จับเป็นตัวประกัน แต่บังคับให้ขี่รถจักรยานยนต์พาหลบหนีเท่านั้น โดยตั้งใจให้ไปส่งบ้านญาติที่ จ.กาฬสินธุ์ แต่ไปได้แค่ อ.ส่องดาว จ.สกลนคร น้ำมันก็หมดจนถูกจับกุมในที่สุด

ต่อมาเช้าในที่ 21 ก.ค. เจ้าหน้าที่ก็คุมตัวนายจรัญไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางชาวบ้านที่แห่มามุงดูการทำแผนทั้งหดหู่และสงสารผู้ต้องหา ที่มาก่อเหตุสลดดังกล่าวด้วยคับแค้นใจมานาน แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับชดใช้กรรมที่ตัวเองก่อไว้

ส่วนบ้านมรดกเลือดญาติๆ กำลังปรึกษาหารือว่าจะยกให้ลูกชายนายสุรศักดิ์ผู้ตาย หรือขายแล้วนำเงินมาแบ่งให้กับทายาทหรือญาติพี่น้องและนายจรัญหลังพ้นโทษออกมา

อุดม ปิดตาทานัง-เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน