ตามตร.นนท์จับแก๊งโจ๋ ฝ่าเคอร์ฟิว-ยกพวกตี ปาบึ้มสนั่นบางบัวทอง : สดจากสนามข่าว
สายวันที่ 17 มิ.ย. พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรเทพ เพ็ชรรักษ์ ผกก.สภ.บางบัวทอง, พ.ต.ท.สมชาย ขำสัจจา รอง ผกก.สส.สภ.บางบัวทอง และ พ.ต.ท.วรวุฒิ นุริตมนต์ สว.สส.สภ.บางบัวทอง นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูล พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเหตุการณ์ 2 กลุ่มวัยรุ่นยกพวกใช้อาวุธไล่ตีกันและขว้างระเบิดดังติดต่อกันหลายครั้ง ชนิดเย้ยเคอร์ฟิวอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เหตุเกิดหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเรือวัดดงมูลเหล็กลุงโค้กภายในซอยวัดละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี นำทีมสืบ
ต้นทางของคดีดังกล่าวมาจากมีผู้โพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นกับวัยรุ่นต่างถิ่นยกพวกไล่ตีกันภายในซอยวัดละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ก่อนมีเสียงคล้ายระเบิดดังติดต่อกันหลายครั้ง ไล่มาถึงหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเรือวัดดงมูลเหล็กลุงโค้ก
ผู้โพสต์ระบุว่าเหตุเกิดช่วงเวลา 23.00 น. เมื่อคืนวันที่ 16 มิ.ย. 2564 ที่ผ่านมา มีกลุ่มวัยรุ่น 2 ฝ่ายประมาณเกือบ 20 คน ยกพวกไล่ตีและใช้อาวุธไล่ทำร้ายกันภายในซอยวัดละหาร อ.บางบัวทอง ซึ่งไล่ทำร้ายจากปากซอยถึงท้ายซอย และยังขว้างปาระเบิดขวด พร้อมกับมีเสียงดังคล้ายอาวุธปืนดังมาเป็นระยะอีก 4-5 ครั้ง ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 ฝ่ายจะแยกย้ายกันไป
กลับมาที่การตรวจสอบ ตำรวจพบรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ มิวเซเว่น สีขาว ทะเบียน 2 กฆ 4068 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่ภายในซอยดังกล่าวได้รับความเสียหายที่ท้ายรถด้านขวา พบรอยคล้ายถูกสะเก็ดระเบิด 1 จุด
ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 23.00 น. เห็นกลุ่มเด็กวัยรุ่น 2 กลุ่มยกพวกวิ่งไล่ตีกัน ต่อจากนั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดดังตามมา ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นเสียงอะไร แต่เป็นเสียงที่ดังมาก จากนั้นก็มีระเบิดไฟลุกตามมาอีกเป็นระยะอีกหลายครั้ง ก่อนกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 ฝ่ายจะแยกย้ายกันไป
12 โจ๋ ซ.รุ่งเรือง 6
“เหตุมันน่ากลัวมาก เหมือนอยู่ในสนามรบเลย มีเสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่ว หลังเสียงระเบิดสงบลงแล้วก็ออกมาดูกัน บอกเลยว่าน่ากลัวมาก วิ่งตีกันอย่างกับในหนังไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง มีรถที่จอดไว้ได้รับความเสียหายกันหลายคัน” พยานกล่าว
พฤติการณ์ที่อุกอาจซึ่งเติมวิกฤตโควิดเช่นนี้ตำรวจจึงต้องเร่งสืบสวนติดตามตัวให้ได้โดยเร็ว กระทั่งวันที่ 22 ก.ค.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนพร้อมหมายค้นของศาลจังหวัดนนทบุรีเข้าตรวจค้นยังบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง หลังจากสืบทราบว่าบ้านพักหลังนี้เป็นที่รวมตัวกันของ “กลุ่มออฟไลน์” และ “นครปาร์ควิว” ที่นัดหมายยกพวกไปปะทะกับ “กลุ่มหลังบาง” ในคืนดังกล่าว
ระเบิดทำเอง
จากการตรวจค้นภายในบ้านพักพบกลุ่มผู้ก่อเหตุ 12 คน เป็นเยาวชนวัยรุ่นชาย 6 คน หญิง 6 คน พร้อมวัตถุระเบิดปิงปอง 2 ลูก, ประทัดบอลที่ผ่าเอาดินปืนออกแล้ว 16 ลูก, ปืนปากกา 1 ด้าม, ตะปูเข็ม 1.5 เซนติเมตร 1 ห่อ, ก้อนหิน 5 ก้อน, เทปพลาสติกสีดำ 1 ม้วน, รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ทะเบียน 1 ขณ 4345 กทม., หมวกกันน็อก 1 ใบ และเสื้อคลุมแขนยาวสีน้ำเงิน-ขาว 1 ตัว
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านี้สมาชิกของแก๊งนครทอง ช.รุ่งเรือง 6 จำนวน 2 คน ถูกแก๊งหลังบาง+บางศรีเมือง อุ้มขึ้นรถจักรยานยนต์ไปทำร้ายร่างกายแล้วปล่อยให้เดินกลับบ้าน ทำให้นายตี๋ หัวหน้าแก๊งโกรธและไม่พอใจ จึงโทร.ท้าทายและนัดหมายให้แก๊งหลังบางมาเจอกันที่หน้าสถานีรถไฟฟ้าคลองบางไผ่ในคืนดังกล่าว ก่อนจะก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์แล้วใช้ระเบิดปิงปองที่ทำเองไล่ขว้างปาใส่กันแล้วแยกย้ายกันหลบหนี
พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 แถลงจับ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันทำวัตถุระเบิดและร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค อันเป็นความผิดตามกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 28
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังตามไปจับกุมแก๊งหลังบางอีก 9 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุปาระเบิดในคืนดังกล่าว ส่วนผู้ต้องหา 12 รายที่ควบคุมตัวได้ในบ้านพัก พบว่ามี 11 คนที่เกี่ยวข้องกับเหตุปาระเบิดในคืนดังกล่าวด้วย ซึ่งจะต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
เหตุการณ์แก๊งโจ๋ยกพวกตีกันครั้งนี้ทำเอาชาวบ้านผวา บางรายถึงกลับเปรยว่า “อยากจะให้มีประกาศเคอร์ฟิวต่อ อย่าเพิ่งเลิกเลย”
สันติ ประหร่ำภากรณ์-ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ-เรื่อง/ภาพ
