คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
“พี่สาวเคยมาปรึกษาเรื่องครอบครัวตลอด มาปรึกษาว่าเบื่อสามีมากเพราะว่าชอบใช้ความรุนแรง อยากหนีไป แต่ไม่สามารถทำได้เพราะว่าห่วงหลาน” คำให้การของน้องสาวนางมานพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี เหยื่อความรุนแรงในครอบครัวที่ให้การหลังพี่สาวและพ่อ ถูก นายจันทะวงษ์ แก้วคำ อายุ 47 ปี สามียิงเสียชีวิต ขณะที่มารดาก็ถูกยิงบาดเจ็บสาหัสด้วย
ย้อนไปเมื่อค่ำวันที่ 29 ก.ค. พ.ต.ท. พงษ์ศักดิ์ วิริยะเขษม สารวัตร สภ.ตะคร้อ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิตภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ต.ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง 2 หลังปลูกอยู่ติดกัน ภายในบ้านพบผู้บาดเจ็บสาหัสชื่อ นางนิด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี สภาพถูกยิงเข้าที่โหนกแก้ม เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลไพศาลี
ยิงพ่อตาคาบันได
ส่วนบริเวณบันไดทางขึ้นบ้านพบศพ นายทวน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี สภาพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่หน้าผาก ส่วนบ้านที่อยู่ติดกันอีกหลัง พบศพ นางมานพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี สภาพถูกยิงเข้าที่ศีรษะเสียชีวิตบนที่นอน
นอกจากนี้ ที่เกิดเหตุของบ้านทั้ง 2 หลัง พบปลอกกระสุนปืน ขนาด .22 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานก่อนจะสอบปากคำพยานแวดล้อม จนทราบว่า มือปืนผู้ก่อเหตุ คือ นายจันทะวงษ์ แก้วคำ อายุ 47 ปี สามีของนางมานพ หลังก่อเหตุได้ใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดงขาว ทะเบียน 2628 นครสวรรค์ ขับหลบหนีไป
จากการสอบปากคำพยานแวดล้อม ซึ่งเป็นชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับบ้านที่เกิดเหตุ ทราบว่า นายจันทะวงษ์มักจะชอบทะเลาะและทำร้ายนางมานพอยู่บ่อยครั้งเรื่องหึงหวง อีกทั้ง ยังทราบว่านายจันทะวงษ์มีอาการทางจิตที่เกิดจากการเคยเสพยาเสพติดมาก่อนด้วย ส่วนวันนี้นายจันทะวงษ์เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ทะเลาะทำร้ายภรรยาด้วยเรื่องเดิมอีก จนถึงขั้นใช้ปืนยิงเสียชีวิตคาที่นอน จึงทำให้นายทวน พ่อของนางมานพ ซึ่งอยู่บ้านอีกหลังติดกันรีบวิ่งลงจากบ้านมาดู ก่อนจะถูกนายจันทะวงษ์ยิงเสียชีวิตอีกราย
ชาวบ้านรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า นายจันทะวงษ์และนางมานพอยู่กินฉันสามีภรรยามานานกว่า 20 ปีแล้ว และมีบุตรสาว 1 คน ซึ่งปัจจุบันไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ก็มีหลานสาวไว้ให้นายจันทะวงษ์และนางมานพเลี้ยงดู ส่วนที่ผ่านมา ตัวนายจันทะวงษ์ ถือเป็นคนที่มีนิสัยอารมณ์ร้อน และยังมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดอยู่ อีกทั้งยังชอบดื่มเหล้าอยู่เป็นประจำด้วย จึงส่งผลทำให้เวลาเมาได้ที่ทุกครั้ง ก็มักมาหาเรื่องซ้อมทำร้ายร่างกายนางมานพอยู่ตลอด โดยหลังจากก่อเหตุสลด นายจันทะวงษ์อุ้มหลานสาวขึ้นรถจักรยานยนต์พาหลบหนี ไปด้วย แต่ในระหว่างทางเกิดเปลี่ยนใจเอาหลานไปฝากไว้ที่บ้านญาติรายหนึ่งก่อนจะขับขี่รถหลบหนีไป
ด้านน้องสาวนางมานพกล่าวว่า ที่ผ่านมานั้นพี่สาวเคยมาปรึกษาเรื่องครอบครัวตลอด มาปรึกษาว่าเบื่อสามีมากเพราะว่าชอบใช้ความรุนแรง อยากหนีไปแต่ไม่สามารถทำได้เพราะว่าห่วงหลาน
วันเกิดเหตุพี่สาวและตนก็นั่งคุยกันที่บ้าน สามีนายจันทะวงษ์ก็พยายามโทร.มาเป็นสิบๆ สาย แต่พี่สาวไม่รับสายเพราะรู้ว่านายจันทะวงษ์จะมาหาเรื่อง จึงบอกว่าจะรีบกลับบ้านเพื่อไปเคลียร์ปัญหากันทีเดียวเลย และระหว่างที่พี่สาวกำลังหวีผมให้หลานอยู่ที่บ้าน นายจันทะวงษ์นั่งดื่มเบียร์จู่ๆ ก็เดินลงมาจากบนบ้าน ใช้อาวุธปืนจ่อยิงพี่สาวจนเสียชีวิตทันที อยากถามว่ายิงพี่สาวทำไม
พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ รุดสอบ
ตำรวจปูพรมหาตัวผัวโหด กระทั่งค่ำของวันที่ 29 ก.ค. ชุดสืบสวน สภ.ตะคร้อ และ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ สนธิกำลังตำรวจชุดสืบสวนภาค 6 สามารถจับตัวนายจันทะวงษ์ ได้ในพื้นที่ต.นาขอม หมู่บ้านถนนสุด ห่างจากบ้านผู้ก่อเหตุไม่ มากนัก ซึ่งเป็นเขตรอยต่อ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปตามไร่อ้อย เพื่อไปบ้านญาติที่เพชรบูรณ์ แต่ถูกพลเมืองดีเห็นเลยแจ้งตำรวจ
หลังจับกุม พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ รองผู้บังคับการ รุดไปสอบสวนพร้อมนำตัวไปค้นอาวุธปืนที่บ้าน ก่อนที่วันรุ่งขึ้นตำรวจจะคุมตัวไปทำแผนฯ ยังบ้านที่เกิดเหตุ
คุมตัวทำแผนฯ
ปรากฏว่ามีชาวบ้านจำนวนมากพยายามฮือเข้ามาประชาทัณฑ์ แต่ตำรวจกันและคุมสถานการณ์ไว้ได้ไม่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น แต่มีน้องสาวนางมานพผู้ตาย ปรี่เข้ามาถามนายจันทะวงษ์ว่ายิงพี่สาวทำไม ทั้งที่รักพี่สาวตนมาก ยิงทำไม แต่นายจันทะวงษ์ไม่ตอบ มีสีหน้าเรียบเฉยก่อนเดินจากไป
พอมีเรื่องยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องร้ายไปได้ทุกที
วสุกิจจ์ เหล่าอินทร์
เรื่อง/ภาพ
