คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

“แม่ แม่ แม่ต้องหาเงินโอนมาให้ก้อยนะ เขาให้เวลาก้อยถึงแค่เที่ยงวันนี้” แล้วก็มีเสียงผู้ชายตะโกนเข้ามาในสายว่า “มึงบอกแม่มึงนะ ให้รีบโอนเงินมาก่อนเที่ยง” แล้วก็ตัดสายไปติดต่อกับก้อยไม่ได้อีก ถ้อยคำสนทนาสุดท้ายระหว่าง น.ส.จิราพร เพชรรัตน์ หรือก้อย อายุ 28 ปี กับ นางปรีดา เพชรรัตน์ อายุ 62 ปี ผู้เป็นแม่ ก่อนกลายเป็นคดีสยองเมืองลุง

ย้อนไปเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 2 ส.ค. 2564 ร.ต.อ.สมหมาย รักษ์ชูชื่น พงส.สภ.เมืองพัทลุง รับแจ้งเหตุพบศพ ผู้หญิงสาวนิรนาม บริเวณ ป่าริมคลองชลประทาน บ้านหนองเป็ดน้ำ หมู่ 6 ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง

สภาพศพสวมกางเกงยืดขาสั้นสีดำ สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้น ร่างถูกห่อด้วยผ้าห่มและห่อทับด้วยผ้าปูที่นอนผืนลายอีกชั้น ก่อนจะใช้เชือกไนลอนมัดบริเวณหัว และปลายเท้า ห่อหุ้มอย่างแน่นหนา คาดเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 วัน

หลังข่าวพบศพหญิงสาวแพร่ออกไป ก็มี นางปรีดา เพชรรัตน์ อายุ 62 ปี ชาว ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง เดินทางมาดูศพที่มูลนิธิพัทลุง ก่อนยืนยันว่าคือ น.ส.จิราพร เพชรรัตน์ หรือก้อย อายุ 28 ปี บุตรสาวถูกอุ้มหายจากบ้านพักสามีในพื้นที่ อ.เขาชัยสน เมื่อวันที่ 29 ก.ค.

นางปรีดาให้การว่า เวลา 15.00 น. วันที่ 29 ก.ค. ลูกสาวออกจากบ้านไปที่บ้านสามี กระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. แม่สามีโทร. มาหาบอกว่าลูกสาวถูกอุ้มไปแล้ว ตนพยายามโทร.ไปหาก้อย แต่ก็ ไม่รับสาย

จากนั้นเวลา 19.30 น. ลูกสาวโทร.กลับมาบอกว่า “แม่หาเงินให้ก้อยหน่อย 60,000 บาท ก้อยจะเอาเงินไปคืนเพื่อน” ตนก็บอกว่าจะเอาไปใช้หนี้ใคร เงินเยอะแยะขนาดนี้จะหาที่ไหน ก้อยก็บอกว่า “แม่ไม่ต้องถามหรอก หาเงินมาให้ก้อย โอนมาให้ก้อยหน่อย ถ้าหาเงินมาได้เขาจะปล่อยตัวก้อย” ต่อมาเห็นท่าไม่ดี ตนเหมารถรับจ้างคนแถวบ้านให้ไปส่งที่บ้านแม่สามีของก้อย เพื่อจะไปคุยว่าช่วยหาเงินให้ ก้อยหน่อยได้หรือไม่ แต่แม่สามีของก้อยก็บอกว่าไม่มี ไม่รู้จะไปหาจากไหน

ตอนนั้นตนยอมรับว่ามืดแปดด้าน ไม่รู้จะไปหายืมเงินใครมาไถ่ตัวก้อย จึงตัดสินใจเดินทางไปที่ สภ.เขาชัยสน ไปขอคำปรึกษากับตำรวจ แต่ในขณะที่ตนกำลังปรึกษาตำรวจอยู่นั้น ประมาณ 21.00 น. ลูกสาวก็โทร.เข้ามา แล้วก็บอกว่า “เขาลดให้เหลือ 30,000 บาท แม่หาเงินโอนมาให้ก้อยหน่อยได้ไหม เขาจะปล่อยตัวก้อยเลย” ตนก็บอกว่ากำลังหาอยู่ พรุ่งนี้ได้ไหม ตอนนี้ดึกแล้วไม่รู้จะหาที่ไหน แล้วก้อยก็วางสายปิดเครื่องหายไปทั้งคืน

จนกระทั่ง 08.30 น. วันเสาร์ที่ 31 ก.ค. ลูกสาวโทร.เข้ามาหา และได้คุยเป็นครั้งสุดท้าย ก้อยโทร.มาบอกว่า “แม่ แม่ แม่ต้องหาเงินโอนมาให้ก้อยนะ เขาให้เวลาก้อยถึงแค่เที่ยงวันนี้ ตนก็เลยตอบไปว่าขอเวลาหน่อยนะ แม่กำลังหาเงินอยู่” แล้วก็มีเสียงผู้ชายตะโกนเข้ามาในสายว่า “มึงบอกแม่มึงนะ ให้รีบโอนเงินมาก่อนเที่ยง” แล้วก็ตัดสายไปติดต่อไม่ได้อีก ตนจึงตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจ กระทั่งมาพบศพดังกล่าว

หลังเกิดคดีอุกฉกรรจ์ท้าทายกฎหมาย พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รอง ผบช.ภ.9 พร้อม พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง รีบรุดเดินทางมาควบคุมการสืบสวนติดตามคนร้าย กระทั่งได้พยานที่เห็นเหตุการณ์ขณะผู้ตายถูกชายฉกรรจ์ผมสั้นขับรถกระบะ อีซูซุสีขาวมาปาดหน้า ก่อนลงมาคุยกับผู้ตาย จากนั้นนำตัวผู้ตายขึ้นรถหายไปในเวลาประมาณ 16.40 น. ของวันที่ 31 ก.ค.

พล.ต.ต.โพธเผยว่า ขณะนี้มีพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ ขณะถูกอุ้ม พร้อมได้ภาพจากกล้องวงจรปิดรถยนต์ต้องสงสัย ขณะเดียวกันทีมสืบสวนสอบสวนเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.6 ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง ที่อยู่ใกล้สถานที่เกิดเหตุก็ได้หลักฐานที่ต้องนำไปพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดก่อนว่าตรงกับ หลักฐานที่พบในจุดพบศพหรือไม่

สำหรับสาเหตุตำรวจพุ่งเป้าไปที่การทวงหนี้เงินแชร์ที่ผู้ตายเคยบ่นให้คนใกล้ชิดฟังว่าเป็นหนี้อยู่ ก่อนหน้านี้มีการเข้าแจ้งความก็มาจากการทวงหนี้กับเพื่อนผู้หญิง และมีการขู่ฆ่ากันมาแล้ว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ตำรวจนำหมายศาลจังหวัดพัทลุงเข้าตรวจค้นบ้านของ นายสุนันท์ จิตภักดี อายุ 31 ปี และ น.ส.ยุวเรศ กลศึก อายุ 26 ปี สองสามีภรรยา หลังจากศาลจังหวัดพัทลุงออกหมายจับเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่า น.ส.จิราพร แต่ผู้ต้องหาไหวตัวหลบหนีออกจากพื้นที่ไปเสียก่อน พร้อมกับรถยนต์กระบะอีซูซุสีขาว หมายเลขทะเบียน 9826 พัทลุง

ขณะที่การสืบสวนทราบว่า ทั้งคู่ขับรถกระบะที่ใช้ในการอุ้มฆ่าหนีไปกบดานยังประเทศเพื่อนบ้านทางภาคเหนือ โดยประสานทางเพื่อนที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านมารับบริเวณชายแดน

วันนี้หนีได้ แต่ไม่มีทางหนีได้ตลอดไปแน่นอน

บุญทวี ทองร่วง/ไสว รุยันต์
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน