ความปรารถนาดีต่อผู้อื่นนั้นเป็น สิ่งที่ดี แต่การจะพูดจะเตือนผู้ใดต้องดูให้ดีว่าเจ้าตัวเขามีนิสัยเช่นไร หรือพร้อมจะรับฟังสิ่งที่เราจะพูดเตือน หรือไม่ มิฉะนั้นอาจเป็นเช่นกรณีของ ด.ต.ปรีชา พูพะเนียด ที่ต้องจบชีวิตลงเพราะความหวังดีของตัวเองแท้ๆ

เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. วันที่ 30 พ.ย. ร.ต.อ.สมคิด โพธิ์ขาว รอง สว.(สอบ สวน) สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม รับแจ้งพบศพชายเสียชีวิต บริเวณคันบ่อกุ้ง ข้างบ้านเลขที่ 49 หมู่ 1 ต.พะเนียด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.นครชัยศรี พ.ต.ท.ยุทธนา จันทร์มีศรี รอง ผกก.ป.สภ.นครชัยศรี พร้อมชุดสืบสวน

บริเวณโคนกอกล้วย คันบ่อกุ้ง ตำรวจพบศพ ด.ต.ปรีชา พูพะเนียด อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 1 ต.พะเนียด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.นครชัย ศรี เป็นเจ้าของบ่อกุ้งที่เกิดเหตุ ในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงลายพรางทหาร นอนหงายจมกองเลือด มีบาดแผลถูกของมีคมไม่ทราบชนิดฟันใบหน้า ศีรษะด้านหลัง ฝ่ามือข้างซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์หลายแห่ง มีไฟฉายคาดศีรษะ ตกอยู่ด้านขวา นอกจากนี้ยังพบรอยเลือดหยดเป็นทางยาวบริเวณจุดเกิดเหตุ

จากการสอบสวน นางผ่องศรี พูพะเนียด อายุ 54 ปี ภรรยา ด.ต.ปรีชา ที่ยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ ให้การทั้งน้ำตาว่า ก่อนเสียชีวิตสามีออกมาตรวจดูบ่อเลี้ยงกุ้งตั้งแต่ยังไม่สว่าง ก่อนที่จะมีนายเนตร เชี่ยวท่านา หรือ ใหม่ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 1 ต.พะเนียด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชาย วิ่งมาบอกว่าพบศพสามีถูกฆ่าตายอยู่ริมบ่อกุ้งข้างบ้าน จึงรีบวิ่งมาดูก็พบศพจริงๆ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ตำรวจสอบสวนพยานแวดล้อมทราบว่า ช่วงเกิดเหตุ ไม่เห็นใครผ่านไปมาบริเวณดังกล่าวนอกจากนายเนตรซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเท่านั้น ประกอบกับนายเนตรมีประวัติเคยดมกาว และเมาสุราอาละวาด โดยผู้ตายที่เป็นลุงเคยว่ากล่าวตักเตือนไปบ่อยครั้งเรื่องพฤติกรรมดังกล่าว เนื่องจากหากเวลาปกติก็จะเป็นคนอัธยาศัยดี มักอาสาสมัครช่วยโบกรถ จัดการจราจรตามงานวัด งานในหมู่บ้านเป็นประจำ แต่พอเมาสุราแล้วจะกลับกลายเป็นคนละคนกันเลย

ชุดสืบสวนตรวจสอบที่บ้านของนายเนตร พบมีเสื้อผ้าถูกซักใหม่ๆ ตากอยู่ พบว่ามีร่องรอยคล้ายคราบเลือดเปื้อนเปรอะอยู่ ขณะที่หลังตู้กับข้าวในบ้านยังพบมีดอีโต้หัวตัดซุกซ่อนอยู่ จึงนำตัวนายเนตรไปสอบเค้นที่โรงพัก จนในที่สุดก็เปิดปากรับสารภาพว่าเป็นผู้ใช้มีดฟันศีรษะด.ต.ปรีชาจนเสียชีวิตสยองด้วยตัวเอง

นายเนตรให้การว่า สาเหตุมาจากไม่พอใจที่ ผู้ตายชอบต่อว่าเรื่องดื่มสุราแล้วเมาอาละวาด อีกทั้งเวลามาตรวจดูบ่อกุ้งยังชอบเอาไฟฉายส่องเข้ามาในบ้านที่ตนนอนอยู่สร้างความรำคาญให้เป็นอย่างมาก

ก่อนเกิดเหตุ ช่วงเช้ามืดผู้ตายมาตรวจบ่อกุ้งได้ใช้ไฟฉายส่องไปทั่ว แสงไฟฉายได้กระทบตนขณะนอนอยู่ข้างห้องครัวหลังบ้านซึ่งอยู่ติดกับคันบ่อกุ้งที่เกิดเหตุ ทำให้เกิดบันดาลโทสะ ประกอบกับมีปากเสียงทะเลาะกันอยู่ประจำจึงคว้ามีดอีโต้ย่องเข้าไปด้านหลังแล้วฟันเข้าที่ศีรษะของผู้ตายจนล้ม แล้วกระหน่ำฟันซ้ำที่ท้ายทอย ใบหน้า แผ่นหลัง แขน และมือจำนวน 10 แผล จากนั้นก็นำอาวุธสังหารไปล้างทำความสะอาดแล้วนำไปซ่อนที่หลังตู้กับข้าว จากนั้นจึงอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะไปบอกป้าให้ทราบว่าลุงเสียชีวิตแล้ว

เวลา 11.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ รักษาราชการแทนผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ปรีดา อิ่มเจริญ รองผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ไชยา สุนทรกิจ รอง ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.นครชัยศรี ร่วมกันนำตัวนายเนตร ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุทุกขั้นตอน โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งจากสถานีตำรวจท้องที่ ภูธรภาค 7 ตำรวจ นปพ.นครปฐม กว่า 50 นาย คอยดูแลความปลอดภัย เพราะหวั่นว่าจะถูกชาวบ้านและญาติๆ ผู้ตายรุมประชาทัณฑ์

ขณะที่นางผ่องศรี ภรรยาด.ต.ปรีชาที่ยังอยู่ในอาการเสียใจเผยถึงความรู้สึกว่า อยากให้กฎหมายลงโทษผู้ก่อเหตุอย่างรุนแรงที่สุด แต่ไม่อยากให้ถึงกับประหารชีวิต แค่อยากให้ติดคุกตลอดชีวิต ไม่อยากให้ออกมาอยู่ในหมู่บ้านนี้อีกเพราะเกรงว่าถ้ากลับออกมาจะต้องลงมือก่อเหตุลักษณะนี้กับคนอื่นอีก เพราะที่ผ่านมาพฤติกรรมของคนๆ นี้เคย ก่อเหตุใช้อาวุธมีดไล่ฟันเพื่อนบ้านและอาละวาดคนในละแวกบ้านมาหลายครั้งแล้ว

เมื่อไม่เคารพกฎกติกาที่ดีของสังคมก็เข้าไปสำนึกผิด อยู่ในคุกนั้นแหละควรแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน