คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
เปิดคำสารภาพลูกจ้างโฉด ปีนหน้าต่างฆ่าเปลือยสาว ปิดคดีสยองวารินชำราบ
เปิดคำสารภาพลูกจ้างโฉดปีนหน้าต่างฆ่าเปลือยสาว : “ทีแรกตั้งใจจะใช้สายชาร์จรัดคอ แต่ไม่ถนัด จึงใช้มือบีบคอ ใช้หมอนมากดหน้า และใช้เข่ากดแขนของคนตายเพื่อไม่ให้ต่อสู้ เสียใจที่ได้พลั้งมือฆ่า แต่ไม่ไปขอขมาศพ เพราะกลัวตัวเองได้รับอันตราย”
คำสารภาพของ นายทศพล หรือ ดิว พรบูลย์ อายุ 27 ปี ลูกจ้างร้านเกมใน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ที่ก่อเหตุฆ่าเปลือยลูกสาวนายจ้าง ก่อนเผ่นหนีไปจนมุมขณะกบดานที่รีสอร์ตต่างอำเภอในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
นายทศพล พรบูลย์ ผู้ต้องหา
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงสายวันที่ 14 ก.ย. ร.ต.อ.ณรงค์ เกษหอม รอง สว. สอบสวน สภ.วารินชำราบ รับแจ้งมีหญิงถูกฆ่าเปลือยที่ห้องนอนในบ้านย่านชุมชนท่าบังมั่ง ต.วารินชำราบ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พฐ. แพทย์ร.พ.วารินชำราบ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบูชาธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุพบศพหญิงสาวอายุ 26 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้าน สภาพเปลือยอยู่บนที่นอน ใบหน้าถูกคลุมด้วยผ้าเช็ดตัว ลำคอถูกรัดด้วยสายชาร์จโทรศัพท์มือถือหลายรอบ เสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 4-5 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น ก่อนส่งให้แพทย์นิติเวช ร.พ.สรรพสิทธิประสงค์ ผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด อีกครั้ง
ตร.พาตัวแหกหนีชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์
พี่เขยผู้ตายที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกันให้การว่า ภรรยาและแม่ยายผิดสังเกตที่ผู้ตายยัง ไม่ออกจากห้องนอนไปทำงานตามปกติ เคาะประตูเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับจึงเดินเลียบข้างบ้านไปเคาะเรียกที่หน้าต่างห้องนอน พบร่องรอยหน้าต่างถูกเปิดทิ้งไว้ และน้องภรรยากลายเป็นศพเปลือยกายอยู่บนเตียง
ครอบครัวผู้ตายให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนายทศพล ลูกจ้างร้านเกมที่ให้นอนพักในร้านช่วงที่ต้องปิดกิจการในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งหายตัวไปพร้อมรถจักรยานยนต์ของร้าน
หลังทราบเบาะแสผู้ต้องสงสัยเจ้าหน้าที่กระจายกำลังออกตามล่าตัว ตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาเส้นทางหลบหนีของคนร้าย
จนท.ตรวจที่เกิดเหตุ
เพียงไม่กี่ชั่วโมง พ.ต.อ.ชาญชัย อินนรา ผกก.สส.บก.ภ.จว.อุบลราชธานี พร้อม พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังษี รอง ผกก.สภ.วารินชำราบ นำกำลังล้อมรีสอร์ตแห่งหนึ่งในอ.พิบูลมังสาหาร หลังรับแจ้งว่าพบคนต้องสงสัยรูปพรรณคล้ายคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าเปลือยสาวที่วารินชำราบมาเปิดห้องพักอยู่
เมื่อเจ้าหน้าที่บุกชาร์จเข้าไปในห้องพักก็พบว่าคนที่อยู่ภายในคือนายทศพลจริงๆ ตามเบาะแสที่พลเมืองดีแจ้งมา จึงคุมตัวกลับไปให้พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี สอบปากคำอย่างละเอียดที่ สภ.วารินชำราบ
นายทศพลเปิดปากรับสารภาพอ้างว่าเคยคบหาผู้ตายเมื่อ 4-5 ปีก่อน ต่อมาผู้ตายไปทำงานที่จ.ระยอง จึงเหินห่างกัน ระหว่างนั้นเป็นลูกค้าประจำที่ร้านเกมของแม่ผู้ตาย ก่อนจะได้รับว่าจ้างให้เป็นคนดูแลร้าน
นาทีจนมุม
กระทั่งเมื่อ 3 เดือนก่อน อีกฝ่ายย้ายกลับมาทำงานที่บ้านเกิด จากสถานการณ์โควิด-19 จึงกลับมาแอบคบกันใหม่โดยคนในครอบครัวผู้ตายไม่รู้เรื่อง
คืนเกิดเหตุแอบปีนหน้าต่างห้องนอน ผู้ตายเข้าไปมีความสัมพันธ์กันแต่เกิดมีปากเสียงกันขึ้น ปมที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีคนคบหาดูใจกันอยู่แล้ว
นายทศพลอ้างอีกว่า ด้วยความโมโหจึงใช้สายชาร์จโทรศัพท์มือถือพันคอผู้ตาย แต่ไม่ถนัดจึงใช้หมอนกดหน้า มือบีบคอ แล้วใช้ขากดแขนอีกฝ่ายไม่ให้ต่อสู้ร้องขอความช่วยเหลือจนสิ้นใจตายคามือ แล้วขโมยกระเป๋าสตางค์กับรถจยย.ขี่หนีไปจนถูกจับในที่สุด
ขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตยืนยันไม่เชื่อว่าผู้ตายแอบคบหากับฆาตกรเพราะมีแฟนอยู่แล้ว แล้วช่วงเกิดเหตุไม่มีใครในบ้านได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเลยทั้งที่ในบ้านอาศัยอยู่ด้วยกันหลายคน ขอให้ลงโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต เพราะมีเจตนาฆ่า และทางบ้านไม่รับการขอขมา ไม่ให้อภัยผู้ต้องหาแน่นอน
หลังสอบปากคำเสร็จจึงนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในบ้านที่เกิดเหตุ ท่ามกลางบรรดาชาวบ้านจำนวนมากที่รุมตะโกนสาปแช่ง พยายามแหวกวงล้อมเจ้าหน้าที่เข้ารุมประชาทัณฑ์ ตำรวจต้องเข้าล็อกตัวกันวุ่นวายอยู่สักพัก ก่อนรีบนำผู้ต้องหาออกจากพื้นที่หลังเริ่มทำแผนฯ ไปได้ไม่ถึง 3 นาที
ก่อนส่งตัวฝากขังต่อศาล ปิดคดีสะเทือนขวัญชาวเมืองดอกบัวได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
พงษ์สันต์ เตชะเสน
เรื่อง/ภาพ
