ตร.ปกป้องศีลธรรม บุกจับ‘น้องไข่เน่า’ ครีเอเตอร์คลิปหวิว เช็กกระแสเห็นต่าง : แฟ้มคดี

น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับคดีตำรวจไซเบอร์บุกจับกุมน้องไข่เน่า คนดังในโลกออนไลน์ ที่ตั้งตัวเป็นเซ็กซ์ครีเอเตอร์ ผลิตคลิปวิดีโอสำหรับผู้ใหญ่ในเว็บไซต์ onlyfans.com

ก่อนคุมตัวมาสอบสวนแจ้ง 2 ข้อหาหนักในเรื่องการผลิตสื่อลามกและความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

พร้อมยืนยันสาเหตุที่ต้องบุกจับเพราะหวั่นเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี แถมเป็นคดีที่ละเมิดศีลธรรมอันดีของสังคมไทย

ซึ่งแน่นอนเมื่อกฎหมายกำหนดว่าเป็นความผิดแล้ว ก็เป็นอำนาจของตำรวจในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมายจะต้องดำเนินการ

แต่ท่าทีของสังคมกลับตั้งคำถาม!??

ว่าการอ้างถึงศีลธรรมอันดี ปราบปรามจับกุมเรื่องเหล่านี้อย่างเอาเป็นเอาตาย เหมือนกับการไม่ยอมรับความจริงว่าเรื่องเพศเป็นแรงขับของสังคม

และในไทยเองก็มีปัญหาเช่นนี้ การปฏิเสธที่จะยอมรับจึงเป็นการซุกขยะเอาไว้ใต้พรมหรือไม่

ยิ่งไปกว่านั้น ยังตั้งคำถามถึงโครงสร้างทางสังคม ที่สะท้อนสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอยจากพิษโควิด ทำให้คนหันไปหารายได้ด้วยวิธีอื่นๆ

การแสดงท่าทีเช่นนี้ จะเป็นการแก้ปัญหา หรือซ้ำเติมให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น คงต้องรอดูผลสรุปในอนาคต

แฟ้มคดี

คุมตัวชี้จุดทำแผน

• ตร.ไซเบอร์บุกจับน้องไข่เน่า

เป็นข่าวร้อนแรงขึ้นมาทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ หรือ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นำหมายศาลจังหวัดสมุทรปราการ บุกเข้าจับกุม ‘น้องไข่เน่า’ อายุ 19 ปี พร้อมแฟนหนุ่ม อายุ 20 ปี ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่จ.สมุทรปราการ

เมื่อเคาะประตูเรียกทั้งคู่ออกมา ก็อ่านหมายจับพร้อมแจ้งข้อหา ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาร่วมกันทำผลิต มีไว้ หรือนำเข้าหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ อันลามก เพื่อความประสงค์แห่งการค้าเพื่อแจกจ่าย หรือเพื่อการแสดงโอวาทแก่ประชาชน ความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้

พร้อมคุมตัวมาดำเนินคดีที่บช.สอท. เมืองทองธานี จ.นนทบุรี โดยมีพล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท.สอบปากคำด้วยตัวเอง

จากนั้นพล.ต.ท.กรไชยเปิดเผยว่า จากการสอบสวนพบผู้ต้องหาเริ่มทำคลิปวิดีโอตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ได้รับเงินส่วนแบ่งมาแล้วอย่างน้อย 500,000 บาท ซึ่งในการแจ้งข้อหา ทั้งคู่โดยยอมรับเพียงข้อหา ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าหรือส่งออก ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี รูปภาพ ฯลฯ หรือสิ่งอื่นใดอันลามก โดยมีวัตถุประสงค์แก่การค้าเพื่อแจกจ่าย หรือการแสดงอวดแก่ประชาชน

ส่วนข้อหาพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ยังคงให้การภาคเสธ อ้างเหตุผลว่าเว็บไซต์ดังกล่าว เป็นระบบสมาชิกที่ต้องมีการจ่ายเงินเพื่อเข้ารับชม ไม่ใช่เว็บไซต์เปิดทั่วไปที่ใครก็สามารถเข้าถึงได้

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าแม้ผู้ต้องหาจะปฏิเสธ ก็ยังถือว่าเข้าข่ายความผิด เพราะจากพยานหลักฐานของตำรวจที่ใช้ในการขอหมายจับ พบว่าบุคคลทั่วไปก็สามารถเข้าถึงได้โดยการใช้เงินในการเข้าถึง ซึ่งใครก็สามารถเข้าถึงได้

“สิ่งที่เราทำเพื่อจะจรรโลงวัฒนธรรมอันดี ขบบธรรมเนียบประเพณี ศีลธรรม ไม่เช่นนั้นคนในประเทศไทยก็จะหลงผิด ส่วนที่มาคอมเมนต์ว่าจับเก่งจัง ต้องชี้แจงว่าผมจับโจรไซเบอร์ ไม่ใช่โจรชิงทรัพย์ เราจับโจรไซเบอร์ และส่งผลต่อวัฒนธรรมสังคม เราเป็นคนมีศีลธรรม บอกผู้ต้องหาว่าวันหนึ่งมีลูก ลูกไปโรงเรียน แล้วมีผู้ปกครองจำได้ ลูกคุณจะเป็นโรคซึมเศร้า”

หลังสอบปากคำนาน 5 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้ง 2 ไปทำแผนรับสารภาพที่คอนโดฯ แห่งหนึ่ง ที่จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำคลิปดังกล่าว ซึ่งพบอุปกรณ์ขาตั้งกล้อง และอุปกรณ์ประกอบฉาก

ก่อนคุมตัวกลับมาที่บช.สอท. เพื่อทำเรื่องให้ประกันในชั้นพนักงานสอบสวน แต่มีเงื่อนไข ให้รับปากว่าจะไม่กลับไปมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายการยุยง หรือส่งเสริมให้มีการกระทำผิดศีลธรรมอันดีงามอีก ทั้งคู่ยอมรับ จึงให้ประกันโดยยื่นเงินค่าประกันคนละ 1 แสนบาท

สู้คดีในชั้นศาลต่อไป

แฟ้มคดี

บุกจับกลางดึก

• ย้อนที่มาคนดังโอนลี่แฟน

สำหรับการจับกุมดังกล่าว มีจุดเริ่มจากกระแสในโลกออนไลน์ จากเว็บไซต์ onlyfans.com ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้เหล่าครีเอเตอร์วิดีโอเข้าไปทำผลงาน และให้มีผู้ติดตามจ่ายเงินเพื่อดูผลงานนั้น ทั้งนี้ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นเรต 18+ โดยในเว็บไซต์มีทั้งคอร์สสอนการเรียน ศิลปะ และเนื้อหาสาระอีกมากมาย

อย่างไรก็ตาม หัวข้อยอดนิยมยังคงเป็นเนื้อหาวิดีโอสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งมี ‘น้องไข่เน่า’ เป็น 1 ในครีเอเตอร์ ที่มีผู้ติดตามมากและพร้อมจ่ายค่าคลิปลับเฉพาะเข้าไปดูเนื้อหา

ขณะที่น้องไข่เน่า หลังจากที่โด่งดังในสังคมแบบปิด ก็ไม่ได้ทำตัวเหมือนนักแสดงวาบหวิวทั่วไปที่โลว์โปรไฟล์ตนเอง แต่กลับเดินสายออกรายการทางออนไลน์ ให้สัมภาษณ์เปิดตัวตนของตัวเอง

โดยในการออกรายการจากเพจ ‘บ้านกูเอง’ น้องไข่เน่า เล่าว่า มีชื่อจริงว่า ตะวัน เป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และมีมุมมองเกี่ยวกับเซ็กซ์และร่างกายว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ และเธอนั้นชอบที่จะถ่ายรูปแนวเซ็กซี่อยู่แล้ว ทำให้เธอมีแฟนคลับติดตามบนโลกทวิตเตอร์อยู่เป็นจำนวนมาก

เริ่มทำ Onlyfans โดยเป็นคนชักชวนแฟนหนุ่ม จนกระทั่งมีคนนำผลงานของน้องไข่เน่า ออกไปเผยแพร่ภายนอกทำให้มีหลายคนได้รู้จักมากขึ้น และมีคนที่อยากเข้ามาสนับสนุนเธออย่างถูกต้อง ทำให้น้องไข่เน่าสามารถทำรายได้หลักล้านได้ในระยะเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น

น้องไข่เน่าระบุอีกว่า หากเรียนจบก็ทำหน้าที่นักกฎหมายตามที่เรียนมา หรือไม่ก็เปิดคาเฟ่ เป็นแฟชั่นดีไซน์

รวมทั้งระบุว่าอาชีพตัวเอง คือ เซ็กซ์ครีเอเตอร์ อยากผลักดันทางด้านอาชีพด้านนี้ เพราะอาชีพนี้ไม่ได้ทำความเสียหายให้ใครและยังเป็นที่ยอมรับได้ในหลายประเทศ

ท่ามกลางความโด่งดังที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ในกลุ่มที่เห็นต่างกลับมองว่าเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ และต้องมีใครเข้าไปจัดการ

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ตำรวจไซเบอร์ได้ออกหมายเรียก น้องไข่เน่า ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เรื่องการชักชวนให้ผู้อื่นกระทำอนาจาร ซึ่งโทษสูงสุดมีถึงจำคุก 5 ปี และโทษปรับ โดยวิเคราะห์ว่าการบอกถึงเงินรายได้ที่สูงเกือบล้านบาทนั้น เป็นการชักชวนให้ผู้อื่นทำอนาจาร

ด้านน้องไข่เน่าเข้าพบตำรวจพร้อมยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับที่เผยแพร่ในคลิปยูทูบจริง กระแสแรงจนน้องไข่เน่าต้องประกาศเลิกทำคลิปลง Onlyfans

แต่ก็ไม่เพียงพอ จนกระทั่งคืนวันที่ 20 ก.ย. ตำรวจยกกำลังบุกจับกลางดึก

ผดุงไว้ซึ่งสังคมแห่งศีลธรรม

• แนะแก้ปัญหาเซ็กซ์เวิร์กเกอร์

อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวยังมีความเห็นหลากหลาย โดยเฉพาะมุมมองเรื่องปัญหาสังคมปากท้องว่าเกิดวิกฤตจากโควิด ทำให้คนต้องดิ้นรนหารายได้ในทางอื่น ซึ่งทางแก้ไขควรจะเป็นในรูปแบบการปรับโครงสร้างสังคมมากกว่าการไล่จับเป็นกรณีๆ ไป

แนท-เกศริน ชัยเฉลิมพล นางแบบสาวเซ็กซี่รุ่นใหญ่ ระบุว่า คนทำคอนเทนต์ใช่ทุกคนจะนำเสนอคลิปลามกอนาจารเสมอไปทุกคน เพราะฉะนั้นไม่ควรปิดกั้นช่องทางเหล่านั้น เพราะช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่ดี เห็นน้องๆ หลายคนหันมาทำคอนเทนต์เพื่อสร้างรายได้ที่หายไป และหลายคนก็แค่ทำแนวเซ็กซี่ทั่วไป โซเชี่ยลเปิดกว้าง เราต้องเข้าใจตรงจุดนี้ อย่าแก้ที่ปลายเหตุ

นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ ระบุว่า ระบบเทคโนโลยีปัจจุบันสามารถกำหนดเงื่อนไขหรืออายุของผู้เข้าถึงได้

การที่ทำให้อาชีพนี้ขึ้นมาบนดินโดยมีกฎหมายรองรับและกำกับน่าจะแก้ไขปัญหาการล่อลวงเด็กและเยาวชน การค้ามนุษย์ การเรียกรับสินบน ไปจนถึงการลดปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ อีกทั้งกลุ่มดังกล่าวยังสนับสนุนเรื่องเซ็กซ์ทอยในฐานะวัตถุทางการแพทย์ สนับสนุนการสอนเรื่องเพศวิถีศึกษาที่เข้าใจและเคารพความแตกต่างของมนุษย์ทุกเพศสภาพ

“แทนที่รัฐบาลและผู้บังคับใช้กฎหมายจะแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศในสังคมอย่างเข้าใจและเป็นระบบ แต่กลับเลือกไม่ยอมรับความเป็นจริง พยายามทำให้ผู้ให้บริการทางเพศไม่มีตัวตน เป็นผู้ผิดต่อกฎหมาย เป็นความเสื่อมโทรมของสังคม ยิ่งนำไปสู่ช่องทางที่ลงใต้ดินมากยิ่งขึ้น ยากต่อการควบคุม เป็นช่องทางในการเรียกรับผลประโยชน์ และท้ายสุดปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราหรือการล่วงละเมิดทางเพศก็ไม่ได้ลดลงแต่ประการใด ท่านอาจหยุดยั้งศีลธรรมบางอย่างที่ท่านเชื่อเช่นนั้นในระยะเวลาหนึ่งได้ แต่ไม่อาจหยุดยั้งความเปลี่ยนแปลงของกาลเวลาได้”

เป็นความเห็นอีกด้านที่อยากเห็นการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน