คอลัมน์ แฟ้มคดี

เปิดคำสารภาพ‘พิยดา’ – เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของสังคม สำหรับกรณีของ ‘พิยดา’ แม่ค้าขายของออนไลน์ ที่ถูกระบุว่าเปิดร้านหลอกขายมือถือในไอจี

เมื่อ ‘น้องก้อง’ เหยื่อคนหนึ่งที่หลงกล อยากจะซื้อโทรศัพท์มือสองเอาไว้รองรับการเรียนออนไลน์ แต่สุดท้ายก็โอนเงินเก้อ ถูกตัดทุกช่องทางสื่อสาร เกิดอาการเครียดจัด จนถึงขั้นเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตในเวลาต่อมา

การหลอกลวงขายของจึงทวีความรุนแรงจากการเสียทรัพย์ กลายเป็นเสียชีวิต

เป็นเรื่องที่ตำรวจโดยเฉพาะตำรวจไซเบอร์ ที่ตรวจตราการกระทำผิดในโลกออนไลน์ ถูกเรียกร้องให้ทำคดีดังกล่าวให้กระจ่าง

เปิดคำสารภาพ‘พิยดา’

มอบตัว

การไล่ล่ากดดันจึงเกิดขึ้น

ในที่สุด ‘พิยดา’ ก็ทนแรงกดดันไม่ไหว ขอเข้ามอบตัวตำรวจที่เชียงใหม่ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าไม่ได้เป็นคนผิด พร้อมซัดใส่ครอบครัวของแฟนหนุ่ม

ขณะที่บ้านแฟนหนุ่มเองก็ยืนยันว่าเป็นพฤติกรรมของ ‘พิยดา’ เพียงคนเดียว

เป็นมหากาพย์ที่ต้องติดตามดูว่าจะมีบทสรุปอย่างไร!??

ย้อนปม‘น้องก้อง’เครียดดับ

เป็นเรื่องที่สังคมจับตาอย่างยิ่ง สำหรับกรณีน้องก้อง นักเรียนชั้น ม.2 วัยเพียง 14 ปี นักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เสียชีวิตจากอาการเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้เกิดจากโรคภัยไข้เจ็บ แต่เป็นเพราะความเครียดที่สั่งซื้อโทรศัพท์มือถือผ่านร้านในอินสตาแกรมแล้ว ถูกโกง

กลายเป็นกระแสสังคมว่าร้านดังกล่าวเป็นของใคร ทำไมถึงโกงได้กระทั่งเด็กนักเรียน แถมยังส่งผลสูญเสียถึงชีวิต รวมทั้งคดีนี้เจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้หรือไม่

เปิดคำสารภาพ‘พิยดา’

ฝากขัง

ที่มาของเรื่องดังกล่าวเริ่มมาจากเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา นายทุน ลุงหลู่ อายุ 55 ปี และนางแฝง แสงทองคำ อายุ 28 ปี พ่อแม่ของน้องก้อง เด็กชายวัย 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง เดินทางไปขอออกเอกสารใบมรณบัตรลูกชายที่ว่าการอำเภอเชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อไปแจ้งความที่สภ.นาหวาย เอาผิดกับร้านค้าออนไลน์ที่หลอกขายโทรศัพท์มือถือลูกชาย จนทำให้เกิดความเครียดเสียชีวิต

โดยนายทุน ระบุว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน ตนและภรรยาไปรับจ้างเก็บลำไย ที่จ.ลำพูน ที่บ้านมีน้องก้องอยู่กับน้องชาย 2 คน โดยมีลุงกับป้าที่อยู่บ้านคนละหลังคอยดูแล จากนั้นวันที่ 1 ก.ย. น้องก้องโทรศัพท์มาหา บอกว่าขอเงินซื้อมือถือไว้เรียนออนไลน์ เนื่องจากโทรศัพท์เครื่องเก่าหน้าจอแตก มองไม่เห็น จึงหยิบยืมหามาส่งให้น้องก้อง 5 พันบาท

จากนั้นทราบว่าน้องก้องไปเลือกซื้อโทรศัพท์จากร้านมือถือออนไลน์ ชื่อว่า Phonebymint แล้วจึงติดต่อขอซื้อไอโฟน มือสอง ในราคา 5 พันบาท เมื่อตกลงกันแล้วก็นำเงินไปให้คนในหมู่บ้านช่วยโอนเงินให้เมื่อวันที่ 3 ก.ย.

แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นราว 1 สัปดาห์ กลับไม่ได้รับโทรศัพท์ที่สั่งซื้อไป แถมยังถูกบล็อกทุกช่องทาง ทำให้สอบถามไม่ได้ น้องก้องเสียใจมากที่ถูกโกง ร้องไห้อยู่หลายวัน เริ่มซึม กินอาหารได้น้อย เวียนหัว จนวันที่ 17 ก.ย. เริ่มปวดหัวหนัก ลุงพาไปโรงพยาบาลเชียงดาว หมอระบุว่าเส้นเลือดในสมองแตก ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ แพทย์ตรวจสอบระบุสมองตาย ช่วยไม่ทัน จึงพาลูกกลับมา จากนั้นก็เสียชีวิตที่บ้าน

จึงอยากแจ้งความตำรวจให้ช่วยติดตามตัวเจ้าของร้านออนไลน์มาดำเนินคดี

ทั้งนี้จากการตรวจสอบ พบว่าหลังเป็นข่าว ร้านค้าดังกล่าวยังเปิดขายตามปกติ และมีเหยื่อที่ถูกหลอกลวงทยอยเข้าแจ้งความ

เปิดคำสารภาพ‘พิยดา’

แบรนด์เนมเพียบ

ส่วนใหญ่ระบุว่าที่คิดว่าน่าเชื่อถือเพราะมียอดผู้ติดตามใน อินสตาแกรมเยอะ และยังมีรีวิวว่าได้ของ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นรีวิวปลอม หรือมีการซื้อยอดผู้ติดตามให้เกิดความน่าเชื่อถือ เบื้องต้นคาดว่ามีผู้เสียหายร่วมร้อยราย

เป็นอีก 1 อุทาหรณ์ที่ประชาชนต้องระมัดระวัง ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ!!!

ตร.กดดัน-‘พิยดา’มอบตัว

ภายใต้แรงกดดัน เจ้าหน้าที่ก็เร่งสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่ ในที่สุดก็ได้เบาะแส โดยช่วงเย็นวันที่ 23 ก.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือบช.สอท. ก็บุกจับน.ส.นฤมล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี และน.ส.สายน้ำผึ้ง ชนะมาร อายุ 19 ปี โดยสามารถจับกุมได้ในพื้นที่กทม.และปทุมธานี ก่อนนำตัวมาสอบสวน

ซึ่งทั้งสอง เป็นคนที่เปิดบัญชีธนาคารให้ร้านโฟนบายมินต์ ซึ่งเป็นร้านที่น้องก้อง เลือกซื้อมือถือ

อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนพบว่า ตัวการที่เป็นเจ้าของร้านชื่อ ‘พิยดา’ อายุ 19 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัว

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งย่านราชพฤกษ์ อ.เมืองนนทบุรี ซึ่งมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับ ‘พิยดา’ ซึ่งจากการตรวจค้นพบครอบครัวของแฟนหนุ่มที่พักอาศัยอยู่ในบ้าน พบรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู 1 คัน กระเป๋าแบรนด์เนมจำนวนมาก แท็บเล็ต ตู้เซฟนิรภัย ซิมโทรศัพท์มือถือ ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมประสานปปง.ติดตามยึดทรัพย์

เปิดคำสารภาพ‘พิยดา’

อายัดรถหรู

และยังพบประวัติอาชญากรรม เคยถูกจับกุมดำเนินคดีในพื้นที่สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และมีหมายจับของศาลเยาวชนและครอบครัว จ.ปทุมธานี อีกด้วย

หลังจากการกดดันอย่างหนักของเจ้าหน้าที่ ในที่สุด น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี พร้อมทนายความ ก็เดินทางเข้ามอบตัวกับพล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เมื่อช่วงสายของวันที่ 28 ก.ย. ตามข้อหาในหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ทำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน

พร้อมให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอสู้คดีในชั้นศาล!!

อ้างเป็นแพะ-ซัดครอบครัวแฟน

โดยพล.ต.ต.พิเชษฐ เผยว่า จากการสอบปากคำในเบื้องต้นน.ส.พิยดาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันไม่ได้เป็นคนกระทำผิด ไม่เคยคุยและไม่เคยหลอกเด็กชายวัย 14 ปี รวมทั้งไม่รู้จักกับผู้ต้องหาเป็นหญิง 2 คนที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ และไม่ได้จ้างให้เปิดบัญชีด้วย

แต่ยอมรับว่าตัวเองเป็นแม่ค้าออนไลน์จริง และเคยขายโทรศัพท์มือสองมาก่อน แต่หยุดขายไปแล้วตั้งแต่ปีก่อน โดยทรัพย์สินทุกอย่างได้มาจากการขายออนไลน์ทั้งนั้น

พร้อมส่งตัวไปดำเนินคดีที่สภ.นาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ขณะที่พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ระบุว่า จากการสืบสวนสอบสวนทางเทคนิคพบว่าผู้ต้องหามีการใช้บัญชีของบุคคลอื่น หรือบัญชีม้า เพื่อส่งถ่ายเงินไปยังบัญชีส่วนตัวของผู้ต้องหามากกว่า 143 บัญชี จากการเปิดอินสตาแกรม 6 บัญชี

พบว่ามีบัญชีที่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงตัวของพิยดา ชัดเจน 17 บัญชี ตำรวจทราบบุคคลที่เป็นเจ้าของบัญชีต่างๆ แล้ว และอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการ และจากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหามีการว่าจ้างบุคคลอื่นให้เปิดบัญชีและรับโอนเงินส่งต่อไปยังบัญชีส่วนตัวให้บัญชีละ 8,000 บาท โดยประกาศว่าจ้างเปิดบัญชีในโลกโซเชี่ยลอย่างชัดเจน ซึ่งพร้อมดำเนินคดีกับคนที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้พบว่า มีคดีที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความเอาผิดผู้ต้องหาเป็นจำนวนมากกว่า 40 คดีทั่วประเทศ โดยเฉพาะในบช.น.มีถึง 20 กว่าคดี บช.สอท. อยู่ระหว่างการสรุปข้อมูลพยานหลักฐานทางเทคนิคต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าสามารถใช้ในการขอศาลออกหมายจับได้ และจะส่งต่อไปยังสถานีตำรวจต่างๆ ที่มีผู้เสียหายแจ้งความไว้ เพื่อออกหมายจับและอายัดตัวมาดำเนินคดี

พร้อมกับส่งตร.สอท.ส่วนหนึ่ง นำหมายค้นไปยังห้องพักรีสอร์ตแห่งหนึ่งในอ.เชียงดาว ที่พ่อและแม่เลี้ยงของพิยดา เปิดห้องพักไว้ ตรวจสอบยึดรถบีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 1 และเงินสด 7 แสนบาท

ด้านนายกลยุทธ์ ทองคำพันธ์ พ่อของพิยดา ระบุว่า ถูกยึดรถและเงินสดที่เตรียมมาประกันตัวลูกสาว เอกสาร และโทรศัพท์มือถือ ทำให้ไม่สามารถติดต่อใครได้ ขอตำรวจให้ความเป็นธรรมด้วย

ส่วนพิยดาให้สัมภาษณ์อีกครั้งระหว่างถูกนำส่งทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง คนที่เกี่ยวข้องคือบ้านของแฟนหนุ่ม ที่โยนความผิดมาให้ตน

“บ้านโน้นซัดหนูเต็มที่ หาว่าหนูใช้เขาเป็นเครื่องมือ แต่ก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำ ส่วนน้องก้องที่เสียชีวิต ต้องขอโทษครอบครัวน้องด้วย แต่ยืนยันสู้คดีถึงที่สุด”

ตามกันต่อว่าจะมีบทสรุปอย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน