กฤษณะ เชิญธงไชย
เรื่อง/ภาพ
ปัง ปัง ปัง…
เสียงปืนสงครามรัวยิงใส่กันชนิดหูดับตับไหม้ ดังลั่นสนั่นป่าบ้านท่ามะแกง ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อหัวค่ำคืนวันที่ 5 ธ.ค.ที่ ผ่านมา ทำเอาสัตว์ป่าต่างแตกตื่นหนีตายกันวุ่นวาย
หลังดวลสู้กันนานกว่า 15 นาที เสียงปืนจากอีกฝ่ายหนึ่งก็สงบลง พร้อมกับเสียงเหยียบกิ่งไม้ใบหญ้าหนีหายออกจากจุดปะทะไป
เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ 4 โดยกองบังคับการควบคุมทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ก็เริ่มออกจากที่กำบังออกตรวจรอบบริเวณ
พร้อมวิทยุสื่อสารถึงต้นสังกัด แจ้งเหตุที่เกิด ก่อนกระจายกำลังควบคุมพื้นที่ไว้ โดยไม่ผลีผลามเข้าไปเนื่องจากยังมืดอยู่เกรงว่า จะถูกคนร้ายซุ่มโจมตี
เมื่อแสงแรกของรุ่งเช้าวันที่ 6 ธ.ค. เริ่มสาดส่องทั่วบริเวณจนสว่างไสว เจ้าหน้าที่จึงเริ่มเข้าเคลียร์พื้นที่ปะทะ ก่อนพบกับร่างไร้ลมหายใจรวม 4 ศพ ในสภาพยังนอนกอดปืน และเป้เดินป่า สีเขียวจำนวน 6 ใบไว้แน่น
เมื่อเปิดเป้ทั้งหมดออกดูก็พบยา เสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมกันจำนวน 600,000 เม็ด
เจ้าหน้าที่ชุดปะทะจึงรีบรายงานสถานการณ์ถึงหน่วยเหนือ พร้อมประสานพนักงานสอบสวนสภ.แม่อาย เจ้าของท้องที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมถึงติดต่อแพทย์นิติเวชร.พ.แม่อาย มาร่วมชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นตามกฎหมาย
ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ล้วนพรุนไปด้วย คมกระสุนปืนของทหารชุดปะทะ ส่วนฝั่งเจ้าหน้าที่ไร้ผู้บาดเจ็บ แต่รอยกระสุนปืนตามต้นไม้ที่กำบังตัวของเจ้าหน้าที่ ต่างถูกยิงพรุนเป็นรูโหว่ บ่งบอกถึงความรุนแรงของอาวุธฝั่งคนร้ายได้เป็นอย่างดี
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ของทหารตามคำสั่งของ พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 และผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาค 3 ซึ่งมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการป้องกัน และสกัดกั้นปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน
พล.ต.จิรเดช กมลเพ็ชร ผู้บัญชาการ กองกำลังผาเมือง จึงได้สั่งการให้หน่วย ในพื้นที่เปิดยุทธการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งทราบข้อมูลเชิงลึกว่า ในห้วงระหว่างวันที่ 1-6 ธ.ค. ขบวนการค้ายาเสพติดจะลักลอบลำเลียงยาเสพติดมายังช่องทางบ้านสันต้นดู่ ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่ง ยังปลายทางที่อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ก่อนลักลอบส่งต่อเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของประเทศ
จึงได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ 4 โดยกองบังคับการควบคุมทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 จัดกำลังเพื่อลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ และซุ่มจับตา ในพื้นที่ดังกล่าว
ขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจ ลาดตระเวนถึงที่เกิดเหตุ ได้พบกับกลุ่มลักลอบลำเลียงยาเสพติดประมาณ 20 คน จึงกระจายกำลังเข้ากำบังหลังต้นไม้เฝ้าระวังซุ่มโจมตี
กระทั่งกลุ่มคนดังกล่าวเดินเข้าในเขตที่เฝ้าระวังซุ่มโจมตี เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นกลุ่มบุคคลดังกล่าว
แต่แทนที่จะยอมแพ้โดยดี กลุ่มคนร้ายกลับใช้อาวุธปืนที่พกมายิงถล่มใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ จนเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง จนเสียงปืนฝ่ายตรงข้ามเงียบ หายไป
เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าปลอดภัยจึง เข้าตรวจสอบ ผลปรากฏว่าฝ่ายกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดถูกวิสามัญฆาตกรรมจำนวน 4 คน ส่วนที่เหลืออาศัยความชำนาญพื้นที่แฝงตัวกับความมืดหลบหนีไป
นอกจากนี้พบกระเป๋าเป้จำนวน 6 ใบ ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ตรวจสอบภายใน พบว่ามียาบ้าจำนวนประมาณ 600,000 เม็ด ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
หลังการยิงปะทะกับกลุ่มลักลอบลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ พล.ต.จิรเดชได้เน้นย้ำให้ในพื้นที่เพิ่มความเข้มข้น ในการปฏิบัติงานปราบปรามยาเสพติด เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ซึ่งกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียง ยาเสพติดจะอาศัยช่องว่างอำพราง เป็นนักท่องเที่ยว เข้ามาลักลอบลำเลียง ยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนเข้าสู่พื้นที่ตอนใน
ส่วนของกลางยาเสพติดทั้งหมด ที่สามารถตรวจยึดได้ในครั้งนี้ เบื้องต้นได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่อาย เข้าดำเนินการตามกฎหมาย
พร้อมขยายผลติดตามจับกุมตัว ผู้หลบหนีในเหตุการณ์ปะทะดังกล่าว รวมถึงกลุ่มผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง เพื่อกวาดล้างขบวนการอุบาทว์ให้สิ้นซาก ไปจากแผ่นดิน