สดจากสนามข่าว : จับตาคดีฝรั่งตื้บโจรดับ บุกบ้านปืนขู่แต่ถูกสวน ญาติยังคาใจคำให้การ

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

วัฒนชัย จำนงค์ทอง – เรื่อง/ภาพ

จับตาคดีฝรั่งตื้บโจรดับ บุกบ้านปืนขู่แต่ถูกสวน ญาติยังคาใจคำให้การ

เพราะคนตายพูดอะไรไม่ได้ การค้นหาความจริงที่ถูกต้องจึงเป็นการให้ความยุติธรรมกับคนตาย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด

ย้อนไปเมื่อเวลา 00.05 น. วันที่ 3 ต.ค. ร.ต.อ.สุขอินทร์ ราจันทร์แก้ว รอง สว. สอบสวน สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 213 หมู่ 4 บ้านขมิ้น ต.กุดสระ จึงพร้อมด้วย ร.ต.อ.ปรีชา กังขอนนอก รอง สวป.สภ.นาข่า, แพทย์เวร ร.พ.ศูนย์อุดรธานี เจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ

ตรวจที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 ก.ม. พบร่างของนายเสถียร (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ชาวบ้าน ต.สร้างแป้น อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี สภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่บริเวณห้องครัวที่เปิดโล่งหลังบ้าน มีบาดแผลแตกที่แก้มขวาและคิ้ว ใบหน้ามีร่องรอยฟกช้ำ มีเชือกมัดมือและมัดเท้า

โดยภายในบ้านยังมีนายรูดอล์ฟ (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของบ้านยืนรอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมให้การว่าเป็นคนชกต่อยนายเสถียรจนสลบ แต่ไม่ตั้งใจให้ตาย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำศพไปโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุของการเสียชีวิต

นายรูดอล์ฟให้การว่า อาศัยอยู่บ้านหลังนี้กับภรรยาชาวไทย ก่อนเกิดเหตุเวลา 22.30 น. ขณะที่ตนนั่งดื่มกาแฟอยู่ที่โต๊ะห้องครัวหลังบ้าน ส่วนภรรยากลับมาจากดื่มสังสรรค์กับเพื่อนแล้วเข้านอนไปแล้ว

ผู้ตายปีนรั้วคอนกรีตถืออาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้ามา พร้อมกับเล็งปืนมาที่ตน พร้อมกับพูดว่าส่ง “money money” ตนจึงเดินเข้าไปจับแขนผู้ตายทุ่มลงกับพื้นและแย่งปืน ขณะกำลังแย่งปืนกันปืน เกิดลั่น 1 นัด แต่ไม่ถูกใคร ตนแย่งปืนมาได้ก็โยนทิ้งลงสระน้ำข้างบ้าน และชกต่อยและเตะผู้ตายจนสลบหมดสติแน่นิ่งไป ตนเกรงว่า ผู้ตายจะฟื้นขึ้นมาทำร้ายตนอีก จึงนำเชือกมามัดมือ มัดเท้าไว้ เสร็จแล้วไปปลุกภรรยา ให้แจ้งผู้ใหญ่บ้านให้แจ้งตำรวจ แต่พอผู้ใหญ่บ้านมาตรวจก็พบว่านายเสถียรเสียชีวิตแล้ว

ส่วนนางลักษณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ภรรยานายรูดอล์ฟ ให้การว่า ตนแต่งงานอยู่กินกับสามีซึ่งมีอาชีพเป็นสถาปนิกมาประมาณ 10 ปี และสามีมีเงินเดือนหลังเกษียณหลายหมื่นบาท ไว้สำหรับใช้จ่าย พวกตนไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใครและไม่เคยมีศัตรู แต่ตนเป็นคนชอบสังสรรค์กับเพื่อน ตนมักจะไปสังสรรค์ที่บ้านเพื่อนตามหมู่บ้านต่างๆ จึงมีเพื่อนมาก และเมื่อ 2 ปีก่อนรู้จักกับนายเสถียร ผู้ตายเพราะเป็นเพื่อนของเพื่อน ผู้ตายชวนตนและเพื่อนไปดื่มเหล้าที่บ้านและทราบว่ามีใจชอบพอตนและโทร.หาประจำ แต่ตนไม่เล่นด้วย เห็นที่ไหนก็ทักทายกันธรรมดา แปลกใจไม่คิดว่าผู้ตายจะบุกมาก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์สามีตน และต่อสู้กันจนถึงแก่ความตาย

หลังสอบสวนตำรวจแจ้งข้อหานายรูดอล์ฟ “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” พร้อมกับงมหาอาวุธปืนในสระน้ำหน้าบ้าน จนพบอาวุธปืนสั้นขนาด .38 มีกระสุนอยู่ในลูกโม่ 5 นัด และปลอกกระสุนปืน 1 ปลอก ตามที่ผู้ต้องหาบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และควบคุมตัวพร้อมของกลางไปโรงพัก

สายวันเดียวกัน พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.ศักดา เหมือนโพธิ์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี, พ.ต.ท.นพดล วิเศษศรี รอง ผกก.สส.หน.สภ.นาข่า, พ.ต.อ.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี, ตำรวจพิสูจน์หลักฐานนำกำลังควบคุมตัวนายรูดอล์ฟไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพใช้เวลาประมาณ 30 นาที

พล.ต.ต.พิษณุเผยว่า การดำเนินคดีแยกออกเป็นสองส่วน คดีแรกตั้งข้อหานายเสถียรผู้ตาย “บุกรุกในเวลากลางคืน พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้าน และพยายามฆ่า” ส่วนคดีที่ 2 ตั้งข้อหานาย รูดอล์ฟ “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ถึงอย่างไรก็ตาม เราต้องคำนึงถึงเหตุแห่งการป้องกันตัว ตามหลักกฎหมาย ซึ่งตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

คดีที่น่าจะปิดลงง่ายๆ ดูวุ่นวายขึ้นมา พลันที่ฝ่ายนางขัน (สงวนนามสกุล) อายุ 74 ปี แม่นายเสถียร ผู้ตายรวมทั้งญาติพี่น้อง ออกมาประสานเสียงว่าไม่เชื่อว่านายเสถียรเข้าไปจี้ชิงทรัพย์ โดยนางขันเปิดเผยว่า ลูกชายคบหากับเมียของฝรั่งฉันชู้สาวมากว่า 2-3 ปีแล้ว เคยพามาหาตนที่บ้าน 3-4 ครั้ง แต่ก็พากันไปอยู่ที่กระท่อมนา ตนไม่เชื่อว่าลูกชายจะเข้าไปจี้ชิงทรัพย์ฝรั่ง เพราะมีแต่ลูกชายเอาเงินให้เมียของฝรั่ง 4 หมื่นบาท

ส่วนสาเหตุที่ลูกชายเข้าไปในบ้านฝรั่งก็เพราะว่า เมียฝรั่งโทร.เรียกให้ไปหา จนไปพบกับฝรั่งจึงเกิดการทะเลาะและทำร้ายร่างกายกัน แพทย์ชันสูตรว่าเสียชีวิตเนื่องจากตับแตก คงจะถูกซ้อมจนตาย ให้ความเป็นธรรมด้วย อย่าว่าลูกชายไปปล้นไปจี้เอาเงินฝรั่ง มันเสียหายนามสกุลญาติพี่น้อง

ด้านนายถาวร ภูมิเพชร อายุ 65 ปี ลุงผู้ตายกล่าวว่า ประมาณ 1 เดือน ที่ผ่านมาผู้ตายขายที่นา 2 ไร่ ราคา 5 แสนบาท จึงไม่เชื่อว่าผู้ตายเข้าไปจี้ชิงทรัพย์ฝรั่งเพราะผู้ตายมีเงิน คิดว่าผู้ตายเข้าไปหาเมียของฝรั่งมากกว่า แต่ไปพบฝรั่งเข้าจึงทะเลาะวิวาทและต่อสู้กันจน เสียชีวิตดังกล่าว

จะเข้าไปชิงทรัพย์หรือเพราะเมียฝรั่งโทร.ตามดังที่ญาติคนตายอ้าง จะทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายหรือเป็นการป้องกันตัว เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เอาความจริงออกมาให้ได้