คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

สำราญ แสงสงค์ – ณัฐวัตร ลาพิงค์ – สราวุฒิ ศรีเพ็ชรสัย / เรื่อง-ภาพ

ย้อนคดีตร.กวาดล้างค้ายา จับตายเอเยนต์เชียงใหม่! 191รวบบิ๊กล็อตกลางกรุง

ทุกคนต้องเคยได้รับคำพร่ำสอนมาตั้งแต่ยังเล็กเป็นเด็กว่า ยาเสพติดไม่เคยให้คุณกับใคร ซึ่งความหมายที่แฝงอยู่ก็คือหากเข้าไปยุ่งเกี่ยวชีวิตคงต้องพบแต่ความวิบัติ เพราะนอกจากเป็นภัยต่อชีวิตตัวเองยังเป็นพิษต่อสังคม

แม้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะกวดขันจับกุมตลอดเวลา บ้างก็เหิมเกริมต่อสู้จนถึงจับตายมานับไม่ถ้วน แต่แก๊งอุบาทว์ยังไม่เคยหมดไป

ล่าสุด พ.ต.อ.ศันย์ชัย พานิชกุล ผกก.สภ.ฝาง จ.เชียงใหม่ นำกำลังตำรวจในสังกัดไปล้อมกระท่อมภายในสวนลิ้นจี่ท้ายหมู่บ้านใกล้โรงเรียนบ้านห้วยหมากเลี่ยม พื้นที่ ม.9 ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง ในวันที่ 5 ต.ค.

เนื่องจากสืบทราบว่า นายพงษ์ เซียมลาย อายุ 57 ปี ชาวต.สันทราย อ.ฝาง เอเยนต์ยาเสพติดรายสำคัญหลบกบดานอยู่

แม้เจ้าหน้าที่จะกระจายกำลังล้อมกรอบไว้ทุกทิศทาง ก่อนประกาศให้นายพงษ์ออกมามอบตัว แต่แทนที่อีกฝ่ายจะยอบรับการจับกุมกลับเลือกที่จะยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่แบบไม่มียั้ง หวังเปิดทางหลบหนี

ตำรวจจำต้องยิงตอบโต้อยู่พักใหญ่ ก่อนที่เสียงปืนในกระท่อมจะเงียบไป

แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่มีผู้ถูกคมกระสุนปืนคนร้ายได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือร.ต.อ.ไพรัช ฟองจันทร์ รองสว.สส.สภ.ฝาง และ ด.ต.ศุภสิทธิ์ ถาบุญเรือง ผบ.หมู่ สส.สภ.ฝาง ถูกกระสุนปืนคนร้ายเข้าที่แขนและหน้าท้อง เพื่อนตำรวจต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งรักษาที่ร.พ.ฝาง ก่อนส่งรักษาต่อที่ร.พ.นครพิงค์เชียงใหม่ ล่าสุดทั้งคู่อาการปลอดภัย

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ส่วนที่เหลือเข้าไปตรวจสอบในกระท่อม ก็พบร่างนายพงษ์นอนไร้ลมหายใจในสภาพที่มือขวายังกำอาวุธปืนพก ขนาด .38 ไว้แน่น ใกล้กันพบยาบ้า 4 ถุง และฝิ่นดิบอีก 1 ก้อน

นอกจากจับตายวายร้ายแก๊งค้ายาแล้ว

ถัดมาอีก 2 วัน ในวันที่ 7 ต.ค. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. มอบหมายให้ พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.5 ตำรวจทางหลวง พ.ต.ท.กรกฤช งามวงศ์วาน สว. สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 5 นำกำลังพร้อมหมายจับของศาลจังหวัดเวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี

เข้าจับ น.ส.สมจิต หรือโสภิต สันธิ อายุ 46 ปี ชาว ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย ขณะกำลังขายปลาเผาอยู่ริมถนนหน้าบ้านตนเอง

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณต้นปี 2562 ตำรวจ สภ.บ้านนาสาร และอีกหลายท้องที่ใน จ.สุราษฎร์ธานี จับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรวมแล้วกว่า 5 คดี ได้ของกลางเป็นยาบ้าหลายแสนเม็ด

เจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลพบว่ามีเส้นทางการเงินเกี่ยวเนื่องและเชื่อมโยงกับ น.ส.สมจิต พนักงานสอบสวน สภ.บ้านนาสาร จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา แต่เจ้าตัวหลบหนีหมายจับ และกลับมาอาศัยที่บ้านหลังดังกล่าว

สอบสวนรับสารภาพ อ้างว่า คบหาและอาศัยอยู่กับแฟนสาวชาวเมียนมา ชื่อน.ส.จ ันทร์หอม คำแดง และเปิดบัญชีธนาคารให้มีการโอนเงินเข้าบัญชี ก่อนให้ถอนเงินนำไปมอบให้แฟนสาว ครั้งละ 1-2 ล้านบาท หลายครั้งรวมเป็นเงินกว่า 5 ล้านบาท แต่ละครั้งจะนัดหมายส่งมอบเงินกันที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย

แต่ยืนยันไม่ทราบที่มาของเงินดังกล่าว และปฏิเสธว่าไม่ได้รู้เห็นกับขบวนการค้ายาเสพติด

ไม่ว่าจะให้การอย่างไร เจ้าหน้าที่ก็คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เวียงสระ ดำเนินคดีตามหมายจับ

ไม่เพียงตำรวจภูธรเท่านั้นที่โชว์ฝีมือไล่ล่าแก๊งยาเสพติด ตำรวจนครบาลก็ไม่ยอมน้อยหน้าเช่นเดียวกัน

เมื่อพล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ป้ายแดงที่เพิ่งรับตำแหน่งหมาดๆ ควงพล.ต.ต. นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต. สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. (191) พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์, พ.ต.อ.วรวิทย์ ญาณจินดา, พ.ต.อ. ศุภวัช ปานแดง รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ. ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ รอง ผกก. สายตรวจ บก.สปพ.

ตั้งโต๊ะที่บช.น. แถลงข่าวตำรวจ 191 จับกุมขบวนการค้ายารายใหญ่ 2 คดี เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ 191 จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 7 กิโลกรัม ภายในซอยลาดปลาเค้า 48 พื้นที่ สน.โคกคราม จึงขยายผลเพิ่มเติมจนพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวรับยา เสพติดจากย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี

ตำรวจ 191 จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม ก่อนชาร์จจับผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมจัดเรียงไอซ์ 400 กิโลกรัม และเค 160 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 190 ล้านบาท

นอกจากนั้นยังจับยาบ้า 374,000 เม็ด ยาไอซ์ 7 กิโลกรัม มูลค่า 16,600,000 บาท พร้อม 3 ผู้ต้องหาวัยรุ่นชายหญิงที่บ้านพักย่านบางแค กรุงเทพฯ ผลจากการสอบสวนขยายผลการกวาดเอเยนต์ยาเสพติดในหลายท้องที่ที่ให้การซัดทอดถึง

อีกบทพิสูจน์ตำรวจไทยที่ไม่ยอมปล่อยให้อาชญากรสร้างความเดือดร้อนแก่สุจริตชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน