แฟ้มคดี – ฎีกาตัดสินปิดฉากคดีดัง จ้างฆ่าเอ็กซ์-จักรกฤษณ์ จำคุก‘แม่หมอนิ่ม’25ปี ลงมือเพราะทุกข์สาหัส

เป็นอีก 1 คดีที่สังคมให้ความสนใจ สำหรับการฆาตกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม เมื่อปี 2556

ที่มีต้นเหตุเกิดจากความขัดแย้งและความรุนแรงในครอบครัว จนทำให้ครอบครัวฝ่ายภรรยาอดทนไม่ได้ และไม่มั่นใจในความปลอดภัยของตัวเอง

กลายเป็นการจ้างวานฆ่า เพื่อชิงลงมือก่อน แล้วทำเป็นคดีความขัดแย้งทั่วไป

แต่ในที่สุดอาชญากรรมย่อมทิ้งร่องรอย ด้วยการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ ทำให้ทุกอย่างคลี่คลาย

เมื่อไปถึงชั้นศาลก็ต้องต่อสู้กันไปตามกระบวนการยุติธรรม

และในที่สุดคดีก็ถึงบทสรุป เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษา ยืนยกฟ้องหมอนิ่ม และแก้โทษ จำคุกแม่หมอนิ่ม จากตลอดชีวิตเป็น 25 ปี

โดยให้เหตุผลว่ามีเหตุควรบรรเทาโทษ ปิดคดีดังที่ต่อสู้กันมายาวนาน

 

● ย้อนคดีฆ่าโหดเอ็กซ์ จักรกฤษณ์

สำหรับคดีโหดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 ต.ค. 2556 ขณะที่เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ขับรถหรูปอร์เช่ ก็ถูกคนร้ายขี่จยย.ประกบจ่อยิงหลายนัด เสียชีวิตคารถ บนซอยรามคำแหง 166 ถนนรามคำแหง แขวงและเขตมีนบุรี

หลังเกิดเหตุพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ในขณะนั้น จัดทีมงานชุดใหญ่เข้าคลี่คลายคดี ซึ่งจากคำให้การของพยานและภาพวงจรปิดพบคนร้ายเป็นชาย 2 คน โดยขณะที่รถของเอ็กซ์ขับออกจากบ้าน คนร้ายที่ดักรออยู่อีกจุดหนึ่งก็ขี่จยย.สวนเลนย้อนมาดักรอลงมือในจังหวะพอดิบพอดี

จึงแน่ใจว่ามือปืนน่าจะรู้เวลาที่เอ็กซ์ขับรถออกจากบ้าน หรือกระทั่งมีคนในเฝ้าจับตาอยู่และส่งสัญญาณให้ทีมสังหารทันทีว่า เป้าหมายเคลื่อนตัวแล้ว

ครั้งแรกเจ้าหน้าที่สันนิษฐานสาเหตุการสั่งตายครั้งนี้ไว้หลายประการ เพราะผู้ตายถือเป็นผู้ที่มีประวัติโลดโผน รู้จักกันหลากหลายวงการ พร้อมพุ่งไปที่ความขัดแย้งวงการพระเครื่อง ความขัดแย้งในสมาคมยิงปืน และธุรกิจอื่นๆ

แต่ก็ไม่ทิ้งประเด็นความขัดแย้งในครอบครัว เพราะก่อนหน้าเกิดเหตุมีเหตุความรุนแรง จนภรรยาต้องแจ้งความและร้องทุกข์กับ นางปวีณา หงสกุล รมว.พม.ในขณะนั้น ว่าถูกทำร้าย-ข่มขู่

จนเอ็กซ์-จักรกฤษณ์ ถูกจับเข้าเรือนจำทหาร ต่อมาพบว่าพี่ชายหมอนิ่มก็ติดต่อพรรคพวกให้คนมีสีมาเดินคุ้มกัน

ในที่สุดจากการสอบสวนที่เข้มข้นก็ตัดประเด็นสงสัยไปหลายปม และพบตัวละครใหม่คือน.ส.วรพรรณภูรี หรือแหม่ม มนตรีอารีกูล พนักงานบริษัทหลักทรัพย์ที่สนิทสนมกับหมอนิ่ม

ถึงขนาดไปเยี่ยมหมอนิ่ม ที่รักษาตัวจากอาการแท้งลูกช่วงปลายเดือนก.ค. 2556

นอกจากนี้ยังพบว่าวันที่เอ็กซ์ถูกยิงเสียชีวิต แหม่มโทร.ติดต่อกับนายสันติ หรือทนายอี๊ด ตลอดทั้งวัน ต่อมาก็พบผู้ต้องสงสัยอีกก็คือนายจิรศักดิ์ ชาวอ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ฯ ที่รู้จักกับทนายอี๊ด ซึ่งมีรูปพรรณคล้ายกับมือปืนที่พบในวงจรปิด

จึงขออนุมัติหมายจับ แล้วบุกจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในจ.ชลบุรี เมื่อนำตัวมาสอบสวนก็เปิดปากสารภาพทั้งหมด

โดยระบุว่าได้รับการติดต่อจากทนายอี๊ด ให้สังหารเหยื่อขับเก๋งปอร์เช่ ในจุดที่เกิดเหตุในราคา 2 แสนบาท โดยแบ่งกับนายธวัชชัย คนขี่จยย.คนละครึ่ง

ขณะที่เจ๊แหม่มบอกว่า ได้รับการติดต่อจากนางสุรางค์ แม่หมอนิ่ม ให้ติดต่อทนายอี๊ดเพื่อหามือปืนมาสังหารเอ็กซ์ โดยมีค่าจ้าง 1.2 ล้านบาท เพราะทนไม่ไหวที่เอ็กซ์ทำร้ายร่างกายลูกสาวอย่างรุนแรง จนแท้ง ต้องเข้าร.พ.

โดยตอนแรกจ่ายเงินให้ทนายอี๊ด 6 แสนบาท แต่ยังไม่มีโอกาสลงมือ กระทั่งปลายเดือนก.ย. 2556 ทนายอี๊ดขอเงินเพิ่มอีก 6 แสนบาท และลงมือสำเร็จในที่สุด

เป็นคดีที่เกิดจากปัญหาครอบครัว

 

● ลดโทษแม่หมอนิ่ม-คุก 25 ปี

คดีดังกล่าวสู้กันในศาลถึงชั้นฎีกา โดยเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2564 มีรายงานระบุว่าเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2564 ศาลอาญามีนบุรี ถ.สีหบุรานุกิจ อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีความผิดต่อชีวิต ในคดีจ้างวานฆ่าเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อายุ 40 ปี อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติ หมายเลขดำ อ.383/57

ซึ่งคดีดังกล่าวอัยการศาลจังหวัดมีนบุรี และนายมานพ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติ บิดา เป็นโจทก์ร่วมฟ้อง นายจีรศักดิ์ หรือจี กลิ่นคล้าย อายุ 50 ปี มือปืนผู้ลั่นกระสุน ที่ 1 น.ส.สุรางค์ ดวงจินดา อายุ 79 ปี มารดา พญ.นิธิวดี ที่ 2 พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม ภู่เจริญยศ อายุ 45 ปี ที่ 3 นายสันติ หรืออี๊ด ทองเสม อายุ 35 ปี ทนายความที่ 4 และนายธวัชชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 38 ปี คนขี่ จยย.ร่วมกันเป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ จ้างวานฆ่าผู้อื่นฯ พ.ร.บ.อาวุธปืน

แม่และหมอนิ่มมอบตัว

ขณะที่นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม มารดา เอ็กซ์-จักกฤษณ์ ยื่นคำร้อง ขอให้พวกจำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 4.4 ล้านบาทด้วย

โดยศาลจังหวัดมีนบุรีพิพากษา เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2559 ให้ประหารชีวิตสถานเดียว พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม จำเลยที่ 3 และนายสันติ หรือทนายอี๊ด จำเลยที่ 4 ฐานร่วมกันใช้จ้างวานฆ่าผู้อื่น

ขณะที่จำเลยที่ 1 และ 5 มือปืน และคนขี่จยย. ให้จำคุกตลอดชีวิต ส่วนน.ส.สุรางค์ มารดาหมอนิ่ม พิพากษายกฟ้อง ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 2.5 ล้านบาท แก่ผู้ร้อง พร้อมให้ประกันตัวพญ.นิธิวดี 2.5 ล้านบาทสู้คดีในชั้นอุทธรณ์

ต่อมาวันที่ 7 ส.ค. 2561 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องพญ.นิธิวดี แต่ให้ลงโทษประหารชีวิต น.ส.สุรางค์ มารดา ฐานใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้ตาย เห็นแก่คำให้การมีประโยชน์ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

โดยศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า ฎีกาจำเลยที่ 1 และที่ 2 ที่ต่อสู้ในประเด็นการร่วมจำเลยที่ 4 และที่ 5 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 2.5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย จนกว่าจะชำระเสร็จให้กับโจทก์ร่วมและผู้ร้องนั้น ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมชดใช้ตามจำนวนดังกล่าวนั้นชอบด้วยเหตุผลแล้ว

ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย และฎีกาข้ออื่นที่ต่อสู้ประเด็นการรับฟังคำให้การพยานที่มาลงโทษจำเลยก็ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 มานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

นอกจากนี้พิพากษาแก้เป็นว่า คำให้การชั้นสอบสวนของน.ส.สุรางค์ จำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา และกระทำความผิดเพราะตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ประกอบมาตรา 52 (2)

คงลงโทษจำคุก จำเลยที่ 2 ไว้ 25 ปี นอก จากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

ลดโทษเหลือจำคุก 25 ปี!!

 

● แจงเหตุควรบรรเทาโทษ

ทั้งนี้ ศาลฎีกาให้เหตุผลว่า เนื่องจากพฤติการณ์การกระทำผิดของน.ส.สุรางค์ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นแม่ยายผู้ตาย เกิดจากการที่ผู้ตายกระทำต่อ พญ.นิธิวดี จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นบุตรคนเดียวของจำเลยที่ 2 ครั้งแล้วครั้งเล่า

บางครั้งยังกระทำต่อหน้าหลานเล็กๆ ของจำเลยที่ 2 อีก ซึ่งปัญหาทั้งหมดเนื่องมาจากปัญหาการควบคุมอารมณ์ของผู้ตาย

ครั้งศาลอุทธรณ์ตัดสิน

อีกทั้งก่อนเกิดเหตุ มีความไม่แน่นอนว่า ผู้ตายซึ่งเป็นนักกีฬายิงปืน มีอาวุธปืนอาจ ใช้อาวุธปืนของตน กระทำต่อจำเลยที่ 3 และครอบครัวในขณะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ก็เป็นได้ เพราะก่อนเกิดเหตุเพียง 2 เดือน ผู้ตายยังใช้อาวุธปืนยิงไปทางคนรับใช้และบุตรคนเล็ก จนผู้ตายถูกจับและถูกควบคุมตัวที่เรือนจำ และเพิ่งได้รับการประกันตัวมา ไม่นาน

การกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 ที่ขณะเกิดเหตุเป็นหญิงมีอายุถึง 72 ปีและบัดนี้มีอายุเกือบ 80 ปีแล้ว และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน จึงเข้าลักษณะของผู้กระทำความผิดที่ตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ที่ศาลอาจลดโทษได้ให้ไม่เกินกึ่งหนึ่ง และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 52 ในการลดโทษประหารชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการลดมาตราส่วนโทษหรือลดโทษที่จะลง ให้ลดดังต่อไปนี้ โดยถ้าจะลดกึ่งหนึ่งให้ลดเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือโทษจำคุกตั้งแต่ 25 ปีถึง 50 ปี

ที่ศาลอุทธรณ์ลดโทษให้น.ส.สุรางค์จำเลยที่ 2 เพียงหนึ่งในสาม และคงจำคุกจำเลยที่ 2 ตลอดชีวิต ด้วยเหตุเพียงคำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา

ศาลฎีกายังไม่เห็นพ้องด้วย เห็นควรลดโทษให้จำเลยที่ 2 อีก

จึงพิพากษาแก้เป็นว่า คำให้การชั้น สอบสวนของน.ส.สุรางค์ จำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา และกระทำความผิดเพราะตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ประกอบมาตรา 52 (2) คงลงโทษจำคุก จำเลยที่ ไว้ 25 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตาม คำพิพากษาศาลอุทธรณ์

ปิดฉากคดีฆาตกรรมที่น่าสลด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน