คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

โดย…อดิษัยต์ พรวนพิมพ์/พุฒิสรรค์ แก้วบัวดี – เรื่อง/ภาพ

อุทาหรณ์วัยรุ่นหัวร้อน แค่ขี่รถปาด-บานหนัก หนุ่มมีดคู่ฟันแทง2ศพ

พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า คนที่โกรธคนอื่นนับว่าเป็นคนเลวอยู่แล้ว แต่ใครโกรธตอบเขากลับเป็นคนเลวกว่า เพราะความโมโหโกรธาจนขาดสติ ใช้ความรุนแรงเข้าใส่กันมันไม่เคยแก้ปัญหาอะไรได้ มีแต่สร้างปัญหาให้มากขึ้น สุดท้ายเมื่อเห็นผลของการขาดสติของตนก็ได้แต่มานั่งเสียใจว่าไม่น่าทำเลย

“ก็มาดิวัยรุ่น” คำพูดที่หนุ่มบาส หรือ นายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี อายุ 21 ปี ตะโกนใส่ก่อนควงมีดคู่ปรี่เข้าใส่กลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีที่ยกพวกมาหาเรื่องถึงหน้าบ้าน

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.50 น. วันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา พ.ต.อ.วิศิษฐ์ วัฒนพงษ์พิทักษ์ ผกก.สน.เพชรเกษม พร้อมด้วยพ.ต.ท.สุนทร มาลาเวช รองผกก.สส. และ พ.ต.ท.พิสิษฐ์ มีวิริยกุล รองผกก.ป. ระดมกำลังตำรวจสน.เพชรเกษม เข้าตรวจสอบเหตุทะเลาะวิวาท ระหว่างกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 7-8 คน มีอาวุธมีด ที่หน้าบ้านพักซอย 39 ถนนกาญจนาภิเษก มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย ถูกเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งโรงพยาบาลทั้งหมด ประกอบด้วยนายสมเดช หรือต้น ดุลยพัฒน์ อายุ 25 ปี เสียชีวิตที่ร.พ.บางปะกอก 8 นายธิติวุฒิ หรือแซม กลิ่นโพธิ์ อายุ 19 ปี เสียชีวิตที่ร.พ.เกษมราษฎร์บางแค และนายพันกร อึ่งโต อายุ 20 ปี ถูกนำส่งร.พ.ราชพิพัฒน์ ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ผู้ก่อเหตุรอมอบตัวอยู่ภายในบ้านใกล้กับที่เกิดเหตุ พร้อมอาวุธมีดสปาร์ตา ยาว 18 นิ้ว และอาวุธมีดปลายแหลมยาว 15 นิ้ว รวม 2 เล่ม

วงจรปิดบ้านที่เกิดเหตุ

พ.ต.อ.วิศิษฐ์ นำกำลังควบคุมตัวนายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี หรือบาส อายุ 21 ปี ผู้ต้องหา สอบสวนเบื้องต้นให้การว่าขี่รถจยย.มากับแฟนสาวเพื่อจะกลับบ้าน แต่ระหว่างทางมีปัญหารถปาดกันกับ วัยรุ่นเจ้าถิ่นรายหนึ่ง จนทะเลาะกันแต่มีคนมาห้ามจึงแยกย้ายกัน ซึ่งตนไม่ติดใจอะไรคิดว่าน่าจะจบไป แต่ต่อมาฝ่ายคู่กรณีตามพรรคพวกรวม 7 คนยกพวกมาหาเรื่องถึงหน้าบ้าน ตะโกนด่าเสียงดัง ท้าทายให้ออกมาเคลียร์กัน แถมยังเขวี้ยงราวตากผ้าเข้ามาในบ้าน ด้วยความกลัวว่าคู่กรณีจะบุกเข้ามาในบ้านจึงคว้าอาวุธมีดวิ่งออกไปไล่ แต่ถูกฝ่ายคู่กรณีรุมใช้กระถางต้นไม้ ไม้ทำร้ายเลยใช้มีดฟันแทงใส่ฝ่ายคู่กรณีไปเพื่อป้องกันตัว ซึ่งตนก็ถูกฝ่ายคู่กรณีใช้ไม้ตีทำร้ายจนแขนหักด้วย

ขณะที่จากการสอบสวนเพื่อนบ้าน ให้การว่า เห็นคนขี่รถจยย. และวิ่งไล่กัน ผ่านมาหน้าบ้าน ตนตกใจเลยรีบเข้าบ้าน เห็นคนที่วิ่งเข้ามาคนแรกคือคนที่พักอยู่บ้านใกล้กัน สักพักก็ได้ยินเสียงปาข้าวของเสียงดัง แล้วก็มีการตะลุมบอนกันตรงหน้าบ้านของตน ส่วนหลานขายของอยู่ข้างนอกเล่าให้ตนฟังว่า ก่อนหน้านี้มีการขับรถปาดหน้ากัน กลุ่มวัยรุ่น 6 คนก็เลยตามเข้ามาที่บ้าน ปกติแล้วบ้านหลังนั้นเป็นคนทำมาหากิน ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวหรือสุงสิงกับใคร แต่กลุ่มที่วิ่งไล่เป็นพวกวัยรุ่นที่อยู่ในพื้นที่

นายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี รอมอบตัว

 

หลังสอบสวนตำรวจควบคุมตัวนายณัฐวุฒิ ไปดำเนินคดีในข้อหา “ฆ่าผู้อื่น”

วันรุ่งขึ้นที่ สน.เพชรเกษม เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายณัฐวุฒิไปฝากขังต่อศาลอาญาธนบุรี โดยสภาพของมือมีดมีอาการอิดโรยและมีผ้าปิดแผลตามที่ต่างๆ ตามร่างกายและใบหน้า เจ้าตัวมีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา

นายณัฐวุฒิเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อยากขอโทษแม่กับแฟนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น รวมถึงผู้เสียชีวิต ตนเองไม่ได้ตั้งใจทำแต่ทำไปเพื่อป้องกันตัวและอยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับฝั่งคู่กรณีด้วยเพราะเรื่องราวทั้งหมดมาจากคู่กรณียั่วยุก่อน

จนท.ช่วยพยาบาล

 

ทางด้านทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ให้ความเห็นในคดีนี้ในรายการโหนกระแสว่า ต้องแยกเป็นสองกรณี เรื่องการป้องกัน จะไม่มีความผิด แต่ดูลักษณะแล้ว ฝ่ายหนึ่งมาท้า อีกฝ่ายรับคำท้า เดินออกจากบ้านเอามีดไปแทงเขา ถ้าเป็นลักษณะมีคนท้า อีกคนรับคำท้า แบบนี้ เรียกว่าสมัครใจวิวาทกัน เป็นผู้ต้องหาทั้งหมดเลย ใครทำอะไรไปก็รับตามนั้น

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นฝ่ายที่เขาตายหรือได้รับบาดเจ็บ ถ้าคิดว่าเขาป้องกันตัว ก็ต้องไปพิสูจน์กัน ผมมองว่าเป็นลักษณะบันดาลโทสะ แต่บันดาลโทสะก็ต้องดูว่าเรามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดด้วยมั้ยหรือไม่อย่างไร คดียังไม่ยุติ ต้องไปต่อสู้กัน แล้วแต่กล้องวงจรปิด ประจักษ์พยาน ต้องไปพิสูจน์กัน แต่ถ้าใครเอาของมาเขวี้ยงบ้านเราแล้วเราไปฆ่าเขาก็อาจเกินกว่าเหตุ หรือบันดาลโทสะยังไง ยังไม่ชัด ต้องให้ตร.แจ้งข้อหา ส่วนตร.จะแจ้งหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

เรื่องราวคงเปลี่ยนไป ถ้าหนุ่มมีดคู่รายนี้เลือกกดโทรศัพท์แจ้ง 191 แทนการควงมีดวิ่งเข้าชน

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน