คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
พนม คงเจริญ – พิรยุทธ นิ่มนนท์ / เรื่อง-ภาพ
ย้อนคดีจับหนุ่มทรพี แทง-ฆ่าพ่อดับสยอง อ้างเป็นเหตุป้องกันตัว
“เป็นคนดีมาก ไม่เคยพบใครดีกว่านี้แล้ว” คำยืนยันจากปากของหลานสาว ถึงนิสัยใจคอของนายสมบูรณ์ ทิพหา อายุ 66 ปี ที่ขัดแย้งกับคำให้การของ นาย หัทเมธ ทิพหา ลูกชายนายสมบูรณ์ที่อ้างว่าถูกพ่อทำร้ายทุบตี จนต้องใช้มีดแทงพ่อจนเสียชีวิตคาบ้าน
เรื่องราวสยองถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 17 ต.ค.2564 โดย พ.ต.ท.อนุรักษ์ รามสูตร สว. (สอบสวน) สน.บางชัน รับแจ้งเหตุแทงกันตาย ที่บ้านเลขที่ 21/201 หมู่บ้านคลองจั่นวิลล่า 4 ถนนรามคำแหง แขวงและเขตสะพานสูง กรุงเทพฯ จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์นิติเวช ร.พ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น บริเวณหน้าบ้านพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีดำ ทะเบียน กบ 7622 นครปฐม จอดอยู่ ภายในมีรถยนต์อีกคันจอดโดย คลุมผ้า บริเวณประตูทางเข้าบ้านพบศพนายสมบูรณ์ ทิพหา หรือลุงแดง อายุประมาณ 66 ปี มีบาดแผลถูกมีดแทงที่หน้าอก และตามร่างกายหลายแห่ง เจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าที่เกิดเหตุ
ด้านนางศรีไว สายนาค 57 ปี กรรมการหมู่บ้าน เล่าว่า ได้รับแจ้งจากคนในหมู่บ้านที่อยู่ใกล้บ้านที่เกิดเหตุว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงทะเลาะกัน และเสียงตะโกนว่า “อย่าฆ่าๆ” ด้วยความกลัวไม่กล้ามาดูจึงแจ้งตน ตนก็เรียก รปภ.ให้มาช่วยตรวจสอบ เมื่อมาถึงเสียงก็เงียบไปแล้ว แต่พบรอยเท้าเปื้อนเลือดลักษณะเดินออกมาจากบ้าน จึงแจ้งตำรวจ
คุมลูกทรพีทำแผน
ขณะที่จากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายพักอยู่บ้านเพียงคนเดียว เนื่องจากเลิกรากับภรรยาไปหลายปีแล้ว โดยมีลูกชาย 2 คน ก่อนหน้านี้ผู้ตายทำงานเป็นตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) แต่ด้วยอายุที่มากขึ้น จึงออกจากงานมา
ตำรวจตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ พบว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.54 น. มีชาย 1 ราย ผิวเหลือง ผมรอง ทรงสั้น สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนส์ รองเท้าหนัง เดินออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุแล้วทำของตก ก่อนจะหยิบของแล้วรีบออกไป โดยมีท่าทีลุกลนต้องสงสัย
เมื่อไล่เช็กข้อมูลไปก็พบว่าชายคนดังกล่าวเดินไปซื้อหน้ากากอนามัยจำนวน 3 ชิ้น กับผ้าก๊อซปิดแผลจำนวนหนึ่ง ที่ร้านขายยาบริเวณปากซอยรามคำแหง 142 เมื่อซื้อเสร็จแล้วได้เรียกรถแท็กซี่หลบหนีไป
ชี้จุดหลบหนี
สิบเอ็ดโมงวันรุ่งขึ้น ที่ สน.บางชัน พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สินเลิศ สุขุม รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.กิตติ แสงศิริวุฒิ ผกก.สน.บางชัน พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.ท.เด่นโดม ลาภานันต์ รอง ผกก.สส.สน.บางชัน ร่วมแถลงข่าวจับกุมนายหัทเมธ หรือดิว ทิพหา อายุ 33 ปี คนร้ายซึ่งเป็นลูกชายแท้ๆ ของนายสมบูรณ์ผู้ตาย หลังบุกไปจับกุมตัวได้ที่ห้องพักในแมนชั่นแห่งหนึ่ง ซอยนวมินทร์ 54 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม พร้อมของกลางเป็นอาวุธมีด เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าที่ใส่ในวัน เกิดเหตุ ภายในห้องพักดังกล่าว
พล.ต.ต.พรชัยกล่าวว่า ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุไปเอาสิ่งของที่บ้าน ก่อนจะมีปากเสียงกับพ่อ ซึ่งพ่อเป็นคนคลั่งไคล้ไสยศาสตร์ และเคยทำของใส่ตนกับแม่ และมักจะมีอารมณ์ร้ายฉุนเฉียวบ่อย จนเป็นสาเหตุให้ตนออกจากบ้านไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ตนถูกพ่อทุบตีทำร้าย และไม่ให้ออกจากบ้าน จึงเกิดการยื้อยุดกันจึงคว้ามีดของพ่อ ซึ่งลงอักขระอาคมแทงไปที่ร่างกายหลายแผล โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันตัว จากการตรวจสอบประวัตินายหัทเมธ ไม่พบประวัติอาชญากรรม หรือเสพยาเสพติด ซึ่งทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ จึงให้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ ทั้งพยานแวดล้อม พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป โดยเบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าบุพการีและพกพาอาวุธมีดไปในเมืองและหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร
บ้านที่เกิดเหตุ
ต่อมาเวลา 13.00 น. ตำรวจนำตัวนายหัทเมธไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านที่เกิดเหตุจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญามีนบุรี
แม้คำให้การเรื่องสาเหตุดูไม่น่าเชื่อถือ แต่จากหลักฐานและคำรับสารภาพก็น่าเชื่อว่านายหัทเมธเป็นคนฆ่าพ่อตัวเองจริงๆ ไม่ผิดตัวแน่
