คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ธานี ทวีเกิด/สมภพ สนเวส – เรื่อง/ภาพ
เกาะติดตร.ปิดอ่าว-ล่า!! ลุยล้างบาง’น้ำมันเถื่อน’ ราคาพุ่ง-ลอบค้าเกลื่อน :
สถานการณ์ไวรัสมรณะ ‘โควิด-19’ ที่คลี่คลายลงทุกหย่อมหญ้า ส่งผลให้นานาประเทศทั่วโลกเริ่มผ่อนคลายความเข้มงวดให้ประชากรกลับมาใช้ชีวิตแทบจะเป็นปกติ
ประกอบกับการย่างเข้าสู่ฤดูหนาวในประเทศฝั่งตะวันตก ทำให้ปริมาณการบริโภคเชื้อเพลิงจากฟอสซิลอย่างน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ยึดเรือไว้ตรวจสอบน้ำมันของกลาง
ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงพุ่งพรวดต่อเนื่องรวมถึงประเทศไทย
ล่าสุดกลุ่มผู้ประกอบการรถบรรทุกขนส่งที่แบกรับต้นทุนราคาน้ำมันไม่ไหว ออกมาแสดงพลัง ‘ทรัก เพาเวอร์’ ชุมนุมบนถนนสายหลัก 7 สายทั่วประเทศ เรียกร้องรัฐบาลตรึงราคาน้ำมันดีเซลเหลือลิตรละ 25 บาท
ขณะที่ภาครัฐยืนยันไม่มีทางจะให้ราคานั้นได้ แต่ช่วยได้แค่ตรึงราคาให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร
พร้อมๆ กับสินค้าจำเป็นที่ราคาขยับสูงขึ้น กลุ่มธุรกิจมืดก็สบช่องทางหาผลประโยชน์
น้ำมันเถื่อน หรือที่ผู้อยู่ในวงการเรียกติดปากว่า ‘นมถ.’ ก็กลับมาสู่วงจรอีกครั้ง
เฉพาะเพียงรอบสัปดาห์เดียวก็จับได้แล้วเกือบ 2 ล้านลิตร
ตรวจพิสูจน์น้ำมันเถื่อน
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 ต.ค. ‘บิ๊กปั๊ด’ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รองผบช.ก. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผบก.รน. นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร ร่วมตรวจสอบผลการจับกุมขบวนการลักลอบนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงโดยผิดกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำได้รับแจ้งจากสายลับเมื่อช่วงสาย วันที่ 14 ต.ค. ว่า จะมีการลักลอบขนน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลผิดกฎหมายเข้ามาเพื่อจำหน่ายในพื้นที่อ่าวไทยตอนบน จึงนำเรือออกลาดตระเวนไปจนถึงบริเวณปากร่องน้ำเจ้าพระยา
พบเรือบรรทุกน้ำมันสีดำ หัวเรือเขียนชื่อ MITA 1 กำลังแล่นเข้ามาในร่องน้ำเจ้าพระยา จึงสั่งให้หยุดเพื่อเข้าตรวจสอบ พบนายนิมิตร์ เพชรรัตน์ เป็นกัปตันเรือ พร้อมลูกเรืออีก 8 คน
จากการตรวจสอบพบของเหลวใส สีเหลืองคล้ายน้ำมันดีเซลบรรทุกอยู่ในระวางเรือจำนวนหนึ่ง เมื่อตรวจสอบทะเบียนเรือ พบว่ามีระวางเรือความจุ 1.2 ล้านลิตร แต่ไม่มีเอกสารการได้มาของสิ่งของดังกล่าว ไม่สามารถนำเอกสารทะเบียนเรือ และใบอนุญาตใช้เรือ มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ได้
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จับน้ำมันเถื่อน 1.2 ล้านลิตร
ถัดมาเมื่อวันที่ 19 ต.ค. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง (ศปนม.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รองผบช.ก. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผบก.รน. พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.5 บก.รน. ร่วมกับนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ว่าที่ ร.ต.ยงยุทธ ภูมิประเทศ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม กรมสรรพสามิต
แถลงข่าวจับกุมนายสุวรรณ อินทองปาน อายุ 56 ปี นายมนตรี สุขจิตร อายุ 41 ปี นายสุริยันต์ เมฆแสน อายุ 34 ปี พร้อมของกลางเรือเทคซ่า หรือเรือเหนือสมุทร 9 ซึ่งเป็นเรือบริการรับของเสียลักลอบขนน้ำมันดีเซลเถื่อน 4 แสนลิตร
หลังจับกุมได้ที่บริเวณใกล้เกาะสีชัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ห่างจากชายฝั่งไปประมาณ 1.6 ไมล์ทะเล
การจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ต.ค. หลังตำรวจน้ำและ ศปนม.ตร.ได้รับแจ้งจากสายลับ จึงนำเรือตรวจการณ์ออกลาดตระเวนกระทั่งพบเรือเหนือสมุทร 9 ซึ่งเป็นเรือบริการรับของเสีย มีลักษณะตรงตามรายงาน
พบผู้ดูแลเรือและลูกเรือรวม 4 คน เบื้องต้นพบน้ำมันดีเซลถูกบรรทุกมา 4 แสนลิตร ขอดูเอกสารเกี่ยวกับการได้มา แต่ไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงได้จึงลากจูงเรือทั้ง 2 ลำไปจอดทิ้งสมอบริเวณปากคลองสรรพสามิต ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ให้เจ้าหน้าที่ศุลกากร และเจ้าหน้าที่สรรพาสามิต ร่วมตรวจสอบ
รถบรรทุกประท้วงน้ำมันแพง
เจ้าหน้าที่ตรวจเก็บตัวอย่างของเหลวพบว่าเป็นน้ำมันดีเซล และพบค่าสารมาร์กเกอร์ มีความเข้มข้น 31
สารดังกล่าวจะใช้สำหรับเติมน้ำมันส่งออกไปต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิต เมื่อนำส่งออกไปแล้วจะนำกลับเข้ามาในราชอาณาจักรไม่ได้อีก
ถือว่าเป็นการลักลอบนำน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาในราชอาณาจักร โดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร และพ.ร.บ.สรรพสามิต มีโทษ ทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนั้นยังมีความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินอีกด้วย
จากทั้ง 2 คดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่คาดว่ามีความเชื่อมโยงกัน เนื่องจากแผนประทุษกรรมมีความใกล้เคียงกัน จะเร่งสืบสวนขยายผลเพื่อตามจับตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
เพื่อกวาดล้างขบวนการนอกกฎหมายให้หมดไปจากสังคมไทย
