คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
โดย…อดิศร จิตตเสวี – ไตรรัตน์ มีวงษ์ – ประสาน โพธิ์ทอง / เรื่อง-ภาพ
“งานสบาย เงินดีมาก ไม่เอาวุฒิ ไม่จำกัดอายุ 20,000-300,000 บาทต่อเดือน” โฆษณารับสมัครงานที่พบได้ทั่วไปตามสื่อโซเชี่ยล ภายใต้ข้อความสวยหรู กว่าจะรู้ความจริงก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น
บ่ายวันที่ 24 พ.ย. บริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ด่านผ่านแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร. ในฐานะผู้อํานวยการ ศพดส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบช.ปส. พล.ต.ท.ปัญญา ปิ่นสุข ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร./หน.ชป.TATIP. เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย กระทรวงมหาดไทย ให้การต้อนรับ พล.ต.ท.ยี เพียลี รองอธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่กัมพูชาและ สห. ซึ่งร่วมกันนำคนไทยที่ได้รับความช่วยเหลือจากขบวนการค้ามนุษย์ใน จ.โพธิสัตย์ จำนวน 103 ราย มาส่งกลับบ้าน โดยบรรยากาศชื่นมื่นไปด้วยมิตรภาพ
พล.ต.อ.รอยกล่าวถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า จากกรณีปรากฏข่าวทางสื่อ โซเชี่ยลมีเดียและสื่อโทรทัศน์ต่างๆ ว่ามีคนไทยถูกหลอกลวงและบังคับให้ทำงานผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา และได้ร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยราชการไทยให้ช่วยเหลือเดินทางกลับประเทศไทยผ่านทางสื่อโซเชี่ยลมีเดีย
พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร. ต้อนรับ พล.ต.ท.ยี เพียลี รองอธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือ พร้อมทั้งขยายผลถึงเครือข่ายผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ถือโอกาสที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจในช่วงโควิด-19 ซ้ำเติมประชาชน หลอกลวงไปบังคับใช้แรงงาน ทำงานผิดกฎหมายในต่างประเทศ
การกระทำในลักษณะดังกล่าวอาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ กระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปในสังคม โดยได้ประสานงานกับสถานทูตไทยประจำประเทศกัมพูชา และผู้ช่วยทูตตำรวจไทย ประจำประเทศกัมพูชา จนกระทั่งสามารถช่วยเหลือคนไทยซึ่งถูกหลอกลวงกลับมาได้อย่างปลอดภัย จำนวน 103 คน หลังจากได้รับสั่งการจากผบ.ตร. ทางศพดส.ตร.ได้ประสานงานไปยังสถานทูตไทย ประจำประเทศกัมพูชา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การช่วยเหลือคนไทยกลุ่มนี้เป็นการด่วน
จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าขบวนการดังกล่าวมีชาวจีนเป็นหัวหน้าเคลื่อนไหวอยู่ที่ จ.โพธิสัตย์ ตรงข้ามเกาะกง ประเทศกัมพูชา โดยพฤติการณ์จะมีการลงโฆษณารับสมัครงานบนสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก กลุ่มไลน์ หลอกลวงว่ามีงานในประเทศกัมพูชา จ่ายค่าตอบแทนในอัตราที่สูงเดือนละ 20,000-30,000 บาท หลังจากมีผู้หลงเชื่อมาสมัครได้มีการว่าจ้างขบวนการนำพาคนเดินทางเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมายทางช่องทางธรรมชาติ
เหยื่อรอช่วยเหลือ
กลุ่มผู้เสียหายให้การว่า พวกตนต้องเดินเท้าผ่านป่าตามแนวตะเข็บชายแดนข้ามไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา หลังจากนั้นจะมีรถมารับไปกักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งไม่ทราบชื่อ ต่อมามีการส่งตัวต่อให้กับนายทุนชาวต่างชาติในพื้นที่ จ.โพธิสัตย์ ประเทศกัมพูชา บังคับให้ทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์, แก๊ง SMS หลอกลวง, เว็บไซต์รับพนันผิดกฎหมาย
หลังจากทราบว่าไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันทั้งในส่วนลักษณะงาน สวัสดิการและค่าตอบแทน จึงแจ้งกับนายจ้างขอเดินทางกลับ แต่ได้ถูกนายจ้างปฏิเสธ มีการทำร้ายร่างกาย ข่มขู่เอาทรัพย์ กักขัง ให้อดอาหาร จึงแอบติดต่อไปที่ญาติในประเทศไทย จนกระทั่งเช้าวันที่ 23 พ.ย.64 เจ้าหน้าที่ สห.จว.โพธิสัตย์ได้บุกทลายบริษัทเถื่อน ช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งควบคุมตัวนายจ้างและผู้ดูแลสถานที่ทั้งชาวต่างชาติและชาวกัมพูชา
สองประเทศร่วมมือ
พล.ต.อ.รอยเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้สั่งการให้พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผบ.ตร. และรอง ผอ.ศพดส.ตร. ประสานกับทางการกัมพูชาเพื่อช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานผิดกฎหมายในกรุงพนมเปญ โดยเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ช่วยมาได้จำนวน 99 คน และช่วยเหลือนำส่งมาชุดที่ 2 จำนวน 43 คน และถูกส่งตัวกลับไทยแล้วเมื่อวันที่ 23 พ.ย. จำนวน 36 คน ซึ่งช่วยเหลือออกมาจากบ่อนกาสิโนออนไลน์ในกรุงพนมเปญและกรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย เพื่อขยายผลผู้อยู่เบื้องหลังและผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์มาดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ ทางกัมพูชายังแจ้งว่าอยู่ระหว่างช่วยเหลือและส่งกลับอีก 2,000 คน
เบื้องต้นหลังจากที่คนไทยกลุ่มนี้กลับเข้ามาแล้วจะต้องเข้า กักตัวตามมาตรการของสาธารณสุข หลังจากนั้นสำนักงานตำรวจ แห่งชาติจะมีการสอบปากคำผู้เสียหายทุกรายอย่างละเอียด เพื่อขยายผลดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งหมดทั้งในส่วนของผู้ชักชวน นายหน้า ผู้นำพาพร้อมทั้งประสานกับทางการกัมพูชาเพื่อดำเนินคดีกับนายจ้างชาวจีนต่อไป
ท่องไว้งานสบาย เงินดี ไม่มีอยู่จริง จะได้ไม่ตกนรกทั้งเป็น
