คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

โดย…ยุวนิต สังวาลย์พานิช – เรื่อง/ภาพ

ย้อนคดีล่าจับ9นช.แสบ ตัดลูกกรง-แหกโรงนอน ไล่ออกผู้คุมรู้เห็นเป็นใจ

เกือบ 3 ทุ่มคืนวันที่ 14 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 7 บุกเข้าจับกุม นายบำรุง วงศ์สว่าง อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในสวนมะพร้าวถนนเลียบคลองรางยาว ต.บางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นการปิดฉากการไล่ล่ากลุ่มนักโทษแหกคุกที่สร้างความวุ่นวายไปทั่วนครปฐม

ย้อนไปเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 11 ธ.ค. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 (สส) พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.ท.ธนิศร เอกรัตนณัฐ สว.(สอบสวน) สภ.สามควายเผือก จ.นครปฐม นำกำลังเข้าตรวจสอบเหตุผู้ต้องขังหลบหนีออกจากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย (มทบ.11) ต.ทุ่งน้อย อ.เมือง นครปฐม

ย้อนคดีล่าจับ9นช.แสบ ตัดลูกกรง-แหกโรงนอน

ตรวจจุดเกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่เรือนจำพลเรือนให้ข้อมูลว่า ได้รับแจ้งว่ามีผู้ต้องขังเข้าใหม่ ที่ถูกแยกกักตัวตามมาตรการป้องกันโรคโควิดหลบหนีไปจากเรือนนอนชาย (พลเรือน) จำนวน 9 คน ประกอบด้วย นายวัชระ นะโมมั่น อายุ 28 ปี ความผิดฐานทำร้ายร่างกาย, นายเอกราช แป้งกลั่น อายุ 18 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด, นายวีรเชษฐ์ เทพชู อายุ 28 ปี ความผิดฐานลักทรัพย์, นายนัถกร มาตรวังแสง อายุ 24 ปี ความผิดฐานลักทรัพย์, นายไพฑูรย์ มีคลองแบ่ง อายุ 36 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด, นายบำรุง วงศ์สว่าง อายุ 43 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด, นายพัชรวุฒิ มูลทองสงค์ อายุ 38 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด, นายจำรูญ คล้ายสุบรรณ อายุ 33 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด และ นายพานิช บัวศร อายุ 35 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด

ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้ต้องขังใช้ใบเลื่อยตัดเหล็ก ตัดซีกลูกกรงห้องขังเรือนนอนเป็นช่องขนาด 30 X 19 ซ.ม. และพบใบเลื่อยตัดเหล็กถูกวางทิ้งไว้ใกล้ห้องน้ำ บริเวณกำแพงรั้วของเรือนจำ ซึ่งมีลวดหนามตั้งอยู่ด้านบน มีเสื้อผ้าของผู้ต้องขังจำนวนหลายชิ้นวางพาดลวดหนามไว้ คาดเป็นเส้นทางหลบหนี โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้

สำหรับผู้ต้องขังที่หนีทั้งหมดเพิ่งถูกจับกุมดำเนินคดี ซึ่งผู้ต้องหาใหม่ที่ถูกจับนี้จะต้องนำตัวไปกักกันโรคโควิด-19 ก่อน 14 วัน ก่อนส่งเข้าเรือนจำ โดยทางเรือนจำขอพื้นที่ของ มทบ.11 ค่ายทองฑีฆายุ นครปฐม เรือนจำขอพื้นที่เพื่อนำตัวผู้ต้องขังไปกักตัวโดยแบ่งเป็น 2 โซน โซนควบคุมของทหารขังผู้ต้องหาทหาร และโซนของเรือนจำที่ไปขอใช้สถานที่กักตัว โดยมีกำแพงกั้นกลางและมีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์คอยควบคุมดูแล

ย้อนคดีล่าจับ9นช.แสบ ตัดลูกกรง-แหกโรงนอน

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 นำแถลงปิดคดี

ตำรวจเปิดปฏิบัติการไล่ล่าจับกุมผู้ต้องขังทั้งเก้าในทันที โดยเชื่อว่าทั้งหมดยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ ใช้เวลาไม่นานก็เริ่มทยอยจับกุมกลับมาได้ ซึ่งพวกที่ถูกจับมาซัดทอดว่านายพัชรวุฒิ มูลทองสงค์ อายุ 38 ปี หรือแจ็ค คอลาย เป็นหัวโจกนำทีมแหกคุกในครั้งนี้ โดยนายแจ็คถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางหลวง อ.บางเลน จับกุมเมื่อ 14 พ.ย.2564 พร้อมยาบ้า 18,396 เม็ด ไอซ์ 148.4 กรัม ยาอี 577 เม็ด ยาเค 41 กรัม อาวุธปืนขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก

ขณะที่การไล่ล่าดำเนินต่อไป ในส่วนของกรมราชทัณฑ์ก็สั่งให้สอบสวนทันทีโดยเฉพาะประเด็นใบเลื่อยว่าถูกนำเข้าไปในเรือนจำได้อย่างไร จนพบว่ามีการนำใบเลื่อยแอบใส่มาในขวดโลชั่น โดยมีเจ้าหน้าที่เรือนจำนวนหนึ่งแอบนำมาส่งให้แลกกับเงิน 1 แสนบาท

วันที่ 15 ธ.ค. ที่ สภ.สามควายเผือก อ.เมืองนครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการไล่ล่าจับกุมตัวนักโทษที่หลบหนีจากเรือนจำหลังตามจับกุมกลับมาได้ทั้งหมด โดยนายพัชรวุฒิ หัวโจกถูกจับได้เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 ธ.ค. ห้องพักโรงแรม 59 รีสอร์ท อ.บางเลน จ.นครปฐม โดยพบยาบ้า 100 เม็ด จึงถูกตั้งข้อหาเพิ่มเติมว่า จำหน่ายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายยาบ้าโดยผิดกฎหมาย

ย้อนคดีล่าจับ9นช.แสบ ตัดลูกกรง-แหกโรงนอน

นายพัชรวุฒิ มูลทองสงค์ หัวโจกจนมุม

สำหรับนักโทษแหกคุกรายที่ 9 คือนายบำรุง มีชาวบ้านแจ้งเบาะแสว่ากลับไปบ้านในเขตพื้นที่ อ.นครชัยศรี และติดต่อญาติให้นำรถจยย.มาให้เพื่อใช้หลบหนีต่อ ตร.ติดตามไล่ล่าจนพบรถจยย.จอดทิ้งไว้สถานีอนามัยเกาะแรต ต.บางปลา อ.บางเลน จ.นครปฐม ก่อนตามไปจับกุมได้ที่สวนมะพร้าวถนนเลียบคลองรางยาว ต.บางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

พ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ ผบ.เรือนจำกลางนครปฐม เปิดเผยว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้แจ้งข้อหาและดำเนินคดี ขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ในอำนาจของศาลในคดีทุจริต โดยจะขยายผลต่อ หากพบว่ามีผู้ใดที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของเรือนจำ ประชาชนผู้เกี่ยวข้องหรือผู้ต้องขังที่ช่วย มีส่วนรู้เห็นในการสนับสนุน จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดทุกราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน