สดจากสนามข่าว : อุทาหรณ์สยอง‘บ้านแพ้ว’ หนุ่มวิวาทสาวหวั่นปันใจ พี่แฟนห้าม-ถูกกะซวกดับ

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

โดย…ณัฎฐนันท์ ศิรสันติวรกุล – เรื่อง/ภาพ

อุทาหรณ์สยอง‘บ้านแพ้ว’ หนุ่มวิวาทสาวหวั่นปันใจ พี่แฟนห้าม-ถูกกะซวกดับ

นับเป็นอีกครั้งที่คดีอาชญากรรมที่มีจุดเริ่มต้นมาจากปมพิษรักแรงหึงนำมาซึ่งความตาย

เพียงแค่ครั้งนี้ผู้เสียชีวิตไม่ได้มีส่วนร่วมในปัญหาหัวใจของคู่กรณี กลับเป็นผู้ที่เข้าไปห้ามปราม ก่อนเหตุการณ์จะบานปลายกลายเป็นต้องสังเวยด้วยชีวิต

พ.ต.ท.ยุทธศาสตร์ จันเจือ สว.สอบสวน สภ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร รับแจ้งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทและมีผู้ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 122/7 ม.5 ต.สวนส้ม ในเวลา 4 ทุ่ม วันที่ 19 ธ.ค.

หลังรับแจ้งจึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ก่อนนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อม พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.กมลาสน์ อรุณภาคมงคล ผกก.สภ.บ้านแพ้ว พ.ต.ท.พิชญุตม์ โกสุม รองผกก.สส. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.บ้านแพ้ว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.ภ.จว.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่

ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พฐ. แพทย์ร.พ.บ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร

ภายในบ้านที่เกิดเหตุ พบศพนายนรินทร แดงจีน อายุ 34 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน 12 ม.4 ต.ท่าเสา อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พนักงานขับรถของสำนักงานโครงการฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 2 (ดำเนินสะดวก) หรือประตูน้ำบางยาง สำนักชลประทานที่ 13 กรมชลประทาน

มีบาดแผลถูกมีดแทงเข้าที่ชายโครงด้านขวา ทะลุอวัยวะสำคัญภายใน 1 แผล

ในที่เกิดเหตุยังพบมีดทำครัวความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร 1 เล่ม เปื้อนเลือดถูกทิ้งไว้ใต้กรงนก

ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อว่า นายสหผล สืบม่วงไทย อายุ 26 ปี ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ พนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ และเป็นแฟนของน้องสาวผู้ตาย

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสหผลมาหาแฟนสาวที่บ้านพักตามปกติ แต่เกิดมีปากเสียงกันรุนแรงในเรื่องหึงหวง เพราะระแวงว่าฝ่ายหญิงจะปันใจเป็นอื่น

แต่ไม่ว่าฝ่ายหญิงรวมถึงพ่อแม่จะอธิบายอย่างไร นายสหผลไม่ยอมฟังท่าเดียว

เสียงโต้เถียงที่ดังลั่น ทำให้นายนรินทรที่อยู่ในบ้านเดินออกมาห้ามปราม แต่กลายเป็นทะเลาะกับแฟนหนุ่มของน้องสาวไปอีกคน

ย้อนนาทีกระซวก

พยานในที่เกิดเหตุให้การว่า หลังมีปากเสียงกันสักพักนายสหผลวิ่งกลับไปที่หอพัก ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 100 เมตร แล้วย้อนกลับมาพร้อมมีดทำครัวในมือ ก่อนพุ่งแทงนายนรินทรในช่วงที่ไม่ทันระวังตัว ทำให้อีกฝ่ายหลบไม่ทันถูกแทงเข้าชายโครงด้านขวาจนมิดด้ามเสียชีวิตคาที่

ส่วนมือมีดที่วิ่งกลับไปเก็บข้าวของที่ห้องพักเตรียมหลบหนี แต่ถูกชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ล้อมไว้ ก่อนที่ตำรวจจะเข้าไปควบคุมตัวในที่สุด

แต่ยังไม่ทันได้สอบปากคำก็ต้องรีบนำตัวออกนอกพื้นที่ทันที เพราะญาติผู้เสียชีวิตที่ทราบข่าวร้ายต่างพากันมาล้อมกรอบด้วยความโกรธแค้น

เมื่อถึงโรงพักนายสหผลก็เปิดปากรับสารภาพแต่โดยดีว่า มักมีปากเสียงกับแฟนสาวอยู่บ่อยครั้ง

เนื่องจากรู้สึกระแวงว่าฝ่ายหญิงกำลังตีตัวออกห่าง ในคืนเกิดเหตุนั้นหลังเลิกงานเดินข้ามมาหาแฟนสาวแล้วเกิดมีปากเสียงกันขึ้นอีก

จากนั้นมีญาติคนหนึ่งของฝ่ายหญิงเข้ามาห้าม แล้วจะทำร้ายจึงพยายามต่อสู้ป้องกันตัวเอง

หนุ่มขี้ระแวงโดนรวบทันควัน

แต่ว่าผู้ตายออกมาพบเข้าแล้วก็ใช้อาวุธมีดสปาร์ตาทำร้ายก่อน แต่หลบได้ทันจึงวิ่งกลับเข้าไปเอามีดทำครัวในห้องพักย้อนกลับมาแล้วก็แทงผู้เสียชีวิตตรงข้างลำตัวจนมิดด้าม แล้ววิ่งกลับมาที่ห้องพัก

ส่วนผู้เสียชีวิตก็หนีเข้าไปในบ้านก่อนจะล้มลงเสียชีวิตดังกล่าว

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อยากจะขอโทษครอบครัวของแฟนสาวและผู้เสียชีวิต ไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เกิดการสูญเสียชีวิตแต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่ที่ทำลงไปเพราะแค่ต้องการป้องกันตัวเท่านั้น

ช่วงบ่ายวันที่ 20 ธ.ค. เจ้าหน้าที่คุมตัวนายสหผลไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยมีเพียงชาวบ้านข้างเคียงมาดูและวิพากษ์วิจารณ์เท่านั้น

ส่วนฝั่งผู้เสียชีวิตปิดบ้านเงียบ เนื่องจากญาติๆ ต้องไปติดต่อรับศพนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนา

หลังเสร็จสิ้นทำแผนฯ โดยไร้เหตุวุ่นวาย เจ้าหน้าที่พาผู้ต้องหาขึ้นรถตู้ตำรวจนำกลับไปควบคุมไว้ที่ สภ.บ้านแพ้ว ก่อนส่งศาลดำเนินคดีในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พกพาอาวุธมีด ไปในเมือง/หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”

สำหรับข้อกล่าวอ้างเรื่องป้องกันตัวจะรับฟังได้มากน้อยแค่ไหน ต้องขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของศาลสถิตยุติธรรม

แต่ที่แน่ๆ เพียงข้อหา ‘ฆ่าผู้อื่น’ ก็ทำให้ไอ้หนุ่มขี้ระแวงรายนี้ต้องสูญสิ้นอิสรภาพไปอีกนาน