ย้อน2คดีจับไอซ์ส่งนอก – แม้ทางการไทยจะประสานเสียงหนักแน่นว่า ไทยเป็นเพียงทางผ่านของยาเสพติดจำนวนมากที่ไปถูกจับกุมได้ตามประเทศต่างๆ แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือยาเสพติดจำนวนดังกล่าวมีบางส่วนถูกบรรจุและส่งออกจากไทย
ย้อนไปเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการ ปราบปรามยาเสพติด ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด น.อ.ธนวิทย์ ธีรชาติธำรง ผู้แทนศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงจับบิ๊กล็อต
พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายบัณทิต สาครวิศวะ ผู้อำนวยการท่าเรือกรุงเทพ ผู้แทนการท่าเรือแห่งประเทศไทย และนายโจเอล คาร์รูเทอร์ ที่ปรึกษาสำนักงานพิทักษ์เขตแดนออสเตรเลีย (Australian Border Force – ABF) ประจำสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าวตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 193.5 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 116 ล้านบาท
นายพชรเปิดเผยว่า กองสืบสวนและปราบปรามกรมศุลกากรประมวลความเสี่ยงการลักลอบนำยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักร พบการส่งสินค้าที่มีรูปแบบของความเสี่ยงดังกล่าวโดยมีปลายทางที่ประเทศออสเตรเลีย ดังนั้น ชุดปฏิบัติการร่วมสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดประจำท่าเรือสากล หรือ Seaport Interdiction Task Force : SITF ประกอบด้วยกรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย จึงร่วมกันตรวจสอบสินค้าต้องสงสัยดังกล่าว ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ
กระสอบทรายของกลาง
พบลังกระดาษสีน้ำตาลจำนวน 30 ลัง โดยสินค้าที่บรรจุอยู่ในชุดกระสอบทรายแบบตั้งพื้นสำหรับฝึกซ้อมชกมวย จำนวน 15 ชุด (กระสอบทราย ลังละ 1 ชุด จำนวน 15 ลัง และฐานสำหรับติดตั้งกระสอบทราย ลังละ 1 ชุด จำนวน 15 ลัง รวม 30 ลัง) ภายในกระสอบทราย พบถุงพลาสติกบรรจุวัตถุต้องสงสัยลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวขุ่นซุกซ่อนอยู่
จากการตรวจสอบเบื้องต้นด้วยเครื่อง Raman Spectrometer และน้ำยาเคมี ONCB 051 MARQUIS REAGENT แสดงผลเป็น ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) น้ำหนักรวม สิ่งห่อหุ้มประมาณ 193.5 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 116,100,000 บาท จึงยึดเอาไว้และเตรียมขยายผลถึงผู้ส่งต่อไป
วันเดียวกัน พล.ต.ต.สถาพร เอมโอษฐ์ ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี พ.ต.อ.นิพล บุญเถิด รองผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี พ.ต.อ.ชัยกฤต โชติวรรณ ผกก.สภ.เขมราฐ เจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน.จังหวัดอุบลราชธานี ทหารเรือหน่วย นรข. ร่วมแถลงการยึดยาเสพติด ล็อตใหญ่ ไอซ์หนัก 299 กิโลกรัม รถกระบะเชฟโรเลต สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน โดยตรวจยึดได้ริมถนนสายนาสะอาด-ถ้ำตาลาว บ้านนาสะอาด หมู่ 7 ต.นาแวง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี
ล่าจับกลางดึก
พล.ต.ต.สถาพรเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดข้ามแม่น้ำโขงมาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้เส้นทางถนนยุทธศาสตร์โขงเจียม-เขมราฐ จึงได้สั่งการให้พ.ต.อ.ชัยกฤต โชติวรรณ ผกก.สภ.เขมราฐ จัดกำลังพร้อมทั้งประสานหน่วยงานข้างเคียงวางแผนตรวจค้นจับกุมตามที่สายรายงาน
ต่อมาเวลาประมาณ 01.00 น.คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบรถต้องสงสัยรูปพรรณสัณฐานตรงตามที่ได้รับแจ้งขับมาตามถนนบ้านนาแวง ต.นาแวง จึงส่งสัญญาณให้หยุด แต่รถกระบะเร่งเครื่องพุ่งชนฝ่าวงล้อมหลบหนี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงสกัดที่ล้อหลังขวา แต่รถก็ยังไม่หยุดขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางอ.เขมราฐ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามไปจนไปพบรถถูกจอดทิ้งไว้ข้างทางบริเวณบ้านนาสะอาด เมื่อตรวจสอบพบกระสอบปุ๋ยอยู่กระบะท้ายรถ 10 กระสอบ เปิดออกดูพบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไอซ์ ถุงละ 1 ก.ก. รวม 299 ถุง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 299 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองรถและติดตามจับกุมตัว
พล.ต.ต.สถาพร เอมโอษฐ์ ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี นำแถลง
พล.ต.ต.สถาพรกล่าวอีกว่า สำหรับการตรวจยึดยาเสพติดครั้งนี้มาจากประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องการนำส่งในพื้นที่ภายในประเทศไทยช่วงเทศกาลปีใหม่ หากสามารถนำเข้าถึงชั้นในได้จะมีมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ซึ่งตำรวจและฝ่ายความมั่นคงจะเข้มงวดในการป้องกัน ปราบปรามขบวนการยาเสพติดที่จะนำเข้าพื้นที่ สำหรับประชาชน ที่มีเบาะแสสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง หรือฝ่าย ความมั่นคงได้ทันที ข้อมูลจะถูกเก็บเป็นความลับ หากสามารถจับกุมดำเนินคดีได้จะได้รับรางวัลสินบนนำจับด้วย
ไม่ได้ผลิตที่ไทย แต่ใช้ไทยเป็นฐานส่งออก อย่างนี้ก็มีแต่เสียกับเสีย
สมศักดิ์ ชฎารัตน์
พงษ์สันต์ เตชะเสน เรื่อง/ภาพ
