แม้ตำรวจจะติดตามจับกุมตัวคนร้าย ที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหินกอง ได้โดยใช้เวลาไม่นาน แต่ดูเหมือนว่าการติดตามเงินยังเป็นปัญหา เพราะคนร้ายปิดปากสนิทไม่ยอมบอกว่า นำไปซุกซ่อนไว้ที่ไหน แถมยังบอกตร.ตรงๆ ว่า จะเก็บไว้ใช้ตอนออกจากคุก เอากับเขาสิ

ย้อนไปเมื่อวันที่ 7 ก.พ. พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี นำกำลังพร้อมด้วย พ.ต.ท.ปิติกรณ์ ชูพร้อม รรท.ผกก.สภ.หนองแค พ.ต.ท.ทวี เหลาเคน รอง สว.ป.สภ.ย่อยหินกอง พ.ต.ท.ชนันธร คำเกษ ร้อยเวร สภ.หินกอง สาขาย่อย อ.หนองแค เจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวนเข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายบุกจี้ ชิงเงินภายในธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหินกอง ริมถนนพหลโยธิน ต.หินกอง อ.หนองแค จ.สระบุรี

ที่เกิดเหตุตั้งอยู่ติดริมถนนพหลโยธิน ขาเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นทราบว่าคนร้าย 1 คน เป็นชาย สูงประมาณ 180 ซ.ม. สวมไอ้โม่ง หมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ ขับรถ จยย.ฮอนด้า PCX สีขาว-เทา ไม่ติดแผ่นทะเบียน มาจอดที่หน้าธนาคาร จากนั้นบุกเข้ามาในธนาคารดังกล่าวและได้ล้วงอาวุธที่เอวทำท่าหยิบอาวุธปืนข่มขู่เจ้าหน้าที่ธนาคาร โดยถือถุงให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่หน้า เคาน์เตอร์หยิบเงินใส่ถุงให้ ประมาณ 2 แสน 1 หมื่นบาท แล้ววิ่งออกมา ขับรถ จยย.มุ่งหน้าหลบหนีไปทางถนนสุวรรณศร-วิหารแดง

ขณะที่รปภ.ธนาคารให้การว่า ช่วงเวลาประมาณ 10.10 น. ได้มีคนร้ายขี่ จยย.เข้ามาจอดรถบริเวณหน้าธนาคาร แล้วได้เดินเข้ามาหาตน พร้อมบอกว่าให้ตนเองอยู่เฉยๆ ซึ่งตนเองมองดูแล้วคนร้ายไม่มีอาวุธจึงพยายามดึงเอาไว้แต่สู้แรงคนร้ายไม่ได้ จากนั้นคนร้ายได้ดันประตูเข้าไปภายในธนาคารพร้อมกับเดินไปที่เคาน์เตอร์ จากนั้นข่มขู่เอาเงินจากพนักงาน ตนเองพยายามใช้เหล็กมาขวางประตูเอาไว้ แต่คนร้าย ดันออกมาได้ ตนจึงได้หลบออกมาเกรงว่าคนร้ายจะมีอาวุธ พอได้เงินคนร้ายก็วิ่งมาขี่จยย.หลบหนีไป โดยใช้เวลาลงมือไม่ถึง 3 นาที

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.พีระพงษ์ วงษ์สมาน ปฏิบัติราชการ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.กิตติ สุขสมภักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี และพ.ต.ท.ปิติกรณ์ ชูพร้อม รรท.ผกก.สภ.หนองแค ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุก่อนประชุมวางแนวทางติดตามตัวคนร้าย

ชุดสืบสวนไล่ตรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี จนพบว่าหลังคนร้ายก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ PCX สีขาวไม่ทราบทะเบียน ที่จอดหน้าธนาคารหลบหนีไปทางถนนสุวรรณศร (หินกอง- นครนายก) และวกรถย้อนกลับมา เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ กระทั่งไปสิ้นสุดในพื้นที่ ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี

เมื่อนำภาพคนร้ายไปหาข่าว ก็ได้เบาะแสจากพลเมืองดีว่า ลักษณะคนร้ายและรถจยย.ที่ใช้คล้ายกับ นายวีระชัยหรือเบิ้ม อัคชาติ อายุ 33 ปี อาศัยอยู่ในบ่อดินลูกรังแห่งหนึ่งใน อ.หนองแค จ.สระบุรี ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร

ตำรวจเดินทางไปตรวจสอบก็พบว่าทั้งรถจยย. PCX หมายเลขทะเบียน 1 กธ 371 สระบุรี และลักษณะรูปร่างตรงกับคนร้าย ยิ่งกว่านั้นยังพบเสื้อชุดที่ก่อเหตุและหมวกกันน็อกซุกซ่อนอยู่ภายในโอ่ง รวมทั้งเงินสดราว 7 พันบาทซุกอยู่ใต้หมอน จึงนำตัวนายวีระชัย มาสอบสวน

ทั้งที่เจอหลักฐานมัดขนาดนี้นายวีระชัยก็ยังยืนกรานปฏิเสธไม่รู้ ไม่เห็นอะไร สุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องนำหลักฐานทั้งหมดไปตรวจดีเอ็นเอ เพื่อใช้เป็นหลักฐานมัดตัวให้ดิ้นไม่หลุด พอเจอหมัดนี้เข้าไปเจ้าตัว ถึงยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุจริง สาเหตุเพราะตกงานไม่มีเงินใช้

แม้จะรับสารภาพ แต่ในส่วนของเงินของกลางที่เหลือ เจ้าตัวก็ยังปฏิเสธที่จะบอกว่าซุกซ่อนเอาไว้ที่ไหน โดยให้การว่าจะขอเก็บเงินบางส่วนไว้ใช้ ถ้าออกจากคุกมาก็จะใช้เงิน

เสรี สุพรรณ์นอก
ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ – เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน