แม้จะเลิกรากันไปแล้ว แต่เมื่อยังมีความหวังว่าอดีตคนรักจะใจอ่อนยอมคืนดีด้วย แต่เมื่อความจริงไม่เป็นดังหวังจึงกลายเป็นชนวนเหตุของคดีสยอง!

ย้อนไปเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 9 มี.ค. พ.ต.อ.จตุพร คงเมือง ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี นำกำลังพร้อมด้วย ร.ต.ท. พิสิษฐ์ จองจารูวงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต แพทย์นิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบเหตุคนยิงกันเสียชีวิต 2 ศพ บริเวณข้างบ้านเลขที่ 27/1 ม.1 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.สุชาดา ตรีโอษฐ์ อายุ 54 ปี บ้านอยู่ ม.5 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.เข้าที่ขา แขนและศีรษะจำนวนหลายนัด และนายจณุกิตติ์ พงศ์ญพัฒน์ อายุ 49 ปี บ้านอยู่ ม.11 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ศีรษะ 1 แผล หน้าท้อง 1 แผล และหน้าอก 1 แผล และในที่เกิดเหตุพบขวดเบียร์ตั้งอยู่บนโต๊ะจำนวนหนึ่ง รวมทั้งปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่จำนวน 6 ปลอก

จากการสอบถามนางเชาว์ วงษ์มณี อายุ 64 ปี พยานให้การว่า ผู้ก่อเหตุคือนายเลิศลาภิศ แย้มชุมพร หรือตาเลิศ อายุ 60 ปี บ้านอยู่ ม.8 ต.คลองเกตุ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นอดีตสามีของน.ส.สุชาดา โดยเมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. นั่งกินเบียร์อยู่กับทั้ง 3 คน แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเกิดเรื่องเพราะทั้งหมดก็รู้จักกันมา ประกอบกับในวงมีตนนั่งดื่มเบียร์เพียงคนเดียว ส่วนคนอื่นนั้นนั่งดื่มน้ำเปล่า ก็คุยกันสนุกเฮฮาทำให้มีการนั่งคุยกันนานหน่อย

กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. ตนเห็นว่าดึกมากแล้วจึงบอกให้แยกย้ายกันกลับบ้านได้แล้วเพราะตอนเช้าต้องทำงาน จังหวะที่นายจณุกิตติ์ แฟนใหม่ของน.ส.สุชาดา ขอตัวเข้าห้องน้ำ ที่เหลือเตรียมจัดเก็บโต๊ะ ทันใดนั้นนายเลิศได้เดินไปใช้อาวุธปืนยิงที่ขาของน.ส.สุชาดา ตนตกใจจึงพากันวิ่งหนี จังหวะนั้นนายจณุกิตติ์ออกจากห้องน้ำมาพอดีจึงเข้าไปแย่งปืน ทำให้ถูกยิงจนร่างทรุดลง จากนั้นนายเลิศเดินไปยิงน.ส.สุชาดา ทางผู้หญิงพูดเป็นภาษาอีสานว่า ข่อยยอมแล้ว ข่อยยอมแล้ว แต่นายเลิศก็ยิงใส่อีกหลายนัดจนเสียชีวิต ก่อนจะวิ่งหนีไปขี่รถจยย.ออกไป

ส่วนสาเหตุนางเชาว์ให้รายละเอียดว่าน่าจะมาจากเรื่องความหึงหวง เพราะแม้นายเลิศจะเลิกกับน.ส.สุชาดามาแล้ว แต่ก็ยังวนเวียนมาหาพยายามง้อขอคืนดีอยู่เสมอ แต่อดีตภรรยาก็ไม่ยอมใจอ่อน ส่วนนายจณุกิตติ์เพิ่งคบหากับน.ส.สุชาดาได้แค่เดือนเดียว แต่ก็เคยเจอกันมาหลายครั้งแล้ว ก็พูดคุยกันสนุกเฮฮาไม่มีท่าทีว่าจะเกิดเหตุร้ายแต่อย่างใด

ในช่วงเช้าของวันเกิดเหตุนายเลิศได้เข้ามาหาขอให้ตนเป็นสื่อกลางโทร.ประสานเพื่อจะขอคืนดีกับอดีตภรรยาอีก ให้บอกว่าจะซื้อสร้อยทองให้หรือกราบเท้าก็ได้ เพราะรักฝ่ายหญิงมาก แต่ทางฝ่ายหญิงยืนยันคำเดิมว่าไม่ขอกลับมาคืนดี กระทั่งช่วงค่ำน.ส.สุชาดาโทร.มาหาตนเองว่านายเลิศเข้ามาหรือไม่ ตนเองก็บอกว่าไม่ได้เข้ามา เวลาผ่านไปไม่นานเจ้าตัวจึงเข้ามาที่บ้าน แต่หลังจากนั้นนายเลิศ ผู้ก่อเหตุก็เดินทางมา ส่วนนาย จณุกิตติ์ แฟนใหม่เดินทางมาทีหลัง ก็คุยกันตามปกติไม่คิดว่าจะมีเหตุยิงกันเกิดขึ้น

หลังสอบสวนตำรวจเร่งติดตามตัวนายเลิศ พร้อมกดดันทางญาติๆ จนในที่สุดเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 10 มี.ค. นายณรงค์ แย้มชุมพล อายุ 66 ปี และทางญาติ ได้พาตัวนายเลิศ ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี หลังหนีไปหลบอยู่บ้านเกิดที่จังหวัดลพบุรี และญาติๆ เกลี้ยกล่อมจนยอมมอบตัว

จากนั้นได้ให้ พ.ต.ท.ชัยรัตน์ แย้มวงษ์ รอง ผกก.(สส.) สภ.ปากคลองรังสิต พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต เดินทางไปรับตัวผู้ต้องหา ก่อนนำมาสอบสวนยังห้องสืบสวน สภ.ปาก คลองรังสิต จ.ปทุมธานี ทันที โดยมี พ.ต.อ.จตุพร คงเมือง ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต ร่วมสอบปากคำ

นายเลิศรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุและพบอดีตภรรยา จึงได้เข้าไปพูดคุยงอนง้อขอคืนดี แต่อดีตภรรยากลับโทร.เรียกนายจณุกิตติ์ เพื่อนชายคนสนิทให้มาหา ทำให้ตนเกิดความไม่พอใจใช้อาวุธปืนยิงอดีตภรรยาและนายจณุกิตติ์เสียชีวิต

หลังสอบสวนตำรวจแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรเร่งด่วน ตามควรแก่พฤติการณ์ และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนคุมตัวดำเนินคดีต่อไป

อีกหนึ่งเรื่องราวของความรักที่จบลงด้วยความตาย

นพรัตน์ คุ้มศรี, วสันต์ ทิพย์ประโภชน์
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน