หลังผ่านมา 8 วัน ครอบครัวอานไธสงก็ได้นอนหลับสนิท ไม่ต้องคอยหวาดผวาเสียที

ย้อนไปเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. วันที่ 13 มี.ค. พ.ต.ท.อภิศักดิ์ แสงดาว สารวัตร (สอบสวน) สภ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันเสียชีวิตที่ร้านขายของชำเลขที่ 178 ม.8 ต.หูทำนบ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะประสานแพทย์เวรฯ ร.พ.ปะคำ และหน่วยกู้ภัย ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบร่าง นายณัฐพงษ์ อานไธสง อายุ 20 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านนอนหงายเสียชีวิตอยู่ภายในห้องในสภาพสวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงขาสั้นสีดำ บริเวณลำคอและใต้ใบหูข้างซ้ายมีรอยถูกกระสุนปืนยิงเป็นแผลฉกรรจ์ เลือดไหลนองเต็มพื้น ข้าวของกระจัดกระจาย ทั้งนี้ ยังพบรอยกระสุนปืนตามผนังบ้านหลายจุด และปลอกกระสุนตกกระจายเกลื่อนทั้งในและนอกบ้านมากกว่า 20 ปลอก นอกจากนั้นยังพบรถยนต์ 2 คัน มีรอยถูกกระสุนยิงถล่มคล้ายกั[ระบายความแค้นจนเป็นรูพรุนมากกว่า 10 รู

จากการสอบสวน น.ส.กัลยา อานไธสง อายุ 37 ปี แม่ผู้เสียชีวิตให้การว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายพิทพิรุณ พิรภพ หรือ แกลบ อายุ 45 ปี ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ สามีคนที่สองที่เพิ่งเลิกรากันไป เนื่องจากอยู่กินด้วยกัน 2 ปี นายพิทพิรุณก็มีนิสัยใจร้อน โมโหร้าย โดยเฉพาะเวลาเมา และหึงหวงมาก เห็นคุยกับใครก็ไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย ที่ผ่านมาเคยทำร้ายและถือปืนมาขู่ฆ่าตนเอง จึงได้แจ้งความกับตำรวจก็ถูกจับเข้าห้องขังแค่คืนเดียวก็ปล่อยออกมาก็มาขอโทษ ตนก็ให้โอกาส แต่ยังมีนิสัยเหมือนเดิม ตนก็เลยขอเลิกเพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว ก็ไม่ได้ติดต่อกันมาประมาณเดือนกว่าแล้ว ประกอบกับตนเองก็มีแฟนใหม่ที่เพิ่งคบหาดูใจกันได้ประมาณ 1 เดือน

ส่วนปมก่อเหตุเพราะความหึงหวงเนื่องจา ก นายพิทพิรุณเห็นตนอยู่กับแฟนใหม่ในบ้าน จึงใช้อาวุธปืนลูกซองที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนป้องกันรักษาป่าก่อเหตุกระหน่ำยิงบ้าน รถยนต์ และหวังจะยิงตน แฟนใหม่ อดีตแม่ยาย และลูกติดอดีตภรรยาอีก 2 คน เพื่อระบายความแค้น แต่ตน แฟนใหม่ และลูกคนเล็กกระโดดหนีออกหน้าต่างได้ทันจึงรอดตาย แต่ลูกคนโตหนีไม่ทันจึงถูกยิงเสียชีวิตคาบ้าน ทั้งนี้นายพิทพิรุณยังจะยิงแม่ตนด้วยแต่เปลี่ยนใจ

ด้วยนิสัยขี้โมโหของนายพิทพิรุณ ทำให้ครอบครัวของน.ส.กัลยาต่างพากันหวาดผวาเกรงว่าจะถูกย้อนกลับมาฆ่ายกครัว โดยในงานศพยังต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยป้องกันเหตุร้าย

ต่อมา นายสมส่วน รักสัตย์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าไปแจ้งความที่สภ.ปะคำ กล่าวหา นายพิทพิรุณในข้อหาลักทรัพย์ที่เอาปืนหลวงและรถหลวงออกมาก่อเหตุ ก่อนให้ข้อมูลว่านายพิทพิรุณมีตำแหน่งพนักงานพิทักษ์ป่าจะใช้อาวุธปืนลูกซองได้อย่างคล่องแคล่ว

ขณะที่การไล่ล่าตัวตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์, ชุดสืบสวน สภ.ปะคำ, ทหาร และตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้นำกำลังติดตามอย่างกระชั้นชิด โดยมีข้อมูลว่านายพิทพิรุณตระเตรียมเสบียงใส่เป้หลบไปด้วย คาดว่าจะหลบไปซ่อนตัวในป่าร้อยรูที่ตนชำนาญทาง

กระทั่งวันที่ 21 มี.ค. ปฏิบัติการไล่ล่าก็ปิดฉากลงเมื่อเจ้าหน้าที่พบศพนายพิทพิรุณผูกคอตัวเองกับต้นเคียด หรือต้นสุรามีฤทธิ์ ริมลำธารอ่างเก็บน้ำลำนางรองทางทิศตะวันออก หน่วยพิทักษ์ละเลิงร้อยรู ประมาณ 1 ก.ม. เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาไม่น้อยกว่า 5 วัน

นายผาย เชิดรัมย์ อายุ 57 ปี จนท.หน่วยพิทักษ์ป่าน้ำผุดและซับหวาย อ.ปะคำ เล่าว่า ชุดของตนออกลาดตระเวนด้วยกัน 7 คน เพื่อค้นหานายแกลบ ช่วงที่พบอยู่ระหว่างนั่งพักประจำชั่วโมงเพื่อดื่มน้ำ ได้กลิ่นโชยมาก่อน จากนั้นจนท.อีกคนบอกว่าพบคนผูกคอตาย เมื่อเข้าไปดูมั่นใจว่าเป็นนายแกลบเพราะจำได้เคยทำงานมาด้วยกันกว่า 20 ปี

สันนิษฐานว่าหลังเกิดเหตุนายแกลบได้เตรียมเสบียงและอาวุธหนีเข้าป่า ต่อมาเสบียงอาจจะหมด ประกอบกับคิดมากที่ถูกเจ้าหน้าที่กดดันหลายด้านจึงตัดสินใจผูกคอตัวเองตาย จนมีคนมาพบร่าง ดังกล่าว

ใจร้อน ขี้หึง โมโหร้าย โดยเฉพาะเวลาเมา มีครบทุกองค์ประกอบของทางสู่ความหายนะ

เรืองรุจ วังแจ่ม
เอกพงษ์ พุทธา
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน