ใบอนุญาตมีอาวุธปืนติดตัว หรือ ใบป.12 ภาครัฐมีหลักเกณฑ์ที่เคร่งครัดเป็นอย่างมาก ใช้ว่าประชาชนคนธรรมดาจะมีกันได้ แต่ก็มีข้อยกเว้นข้อหนึ่งที่สามารถออกให้บุคคลที่ได้ช่วยเหลือ หรือทำประโยชน์อย่างมากให้แก่ทางราชการ ในการจับกุมปราบปรามผู้กระทำผิด

ย้อนไปเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ขณะเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.สิงหนคร จ.สงขลา ตั้งด่านตรวจสิ่งผิดกฎหมายและหาตัวคนร้ายที่ยังหลบหนีจากกรณีคนร้ายยิงใส่จนท.ตร.เสียชีวิตที่จ.พัทลุง ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา พบมีรถกระบะฟอร์ด 4 ประตู สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ขับเข้ามายังจุดตรวจ ตร.จึงโบกให้หยุดเพื่อตรวจค้น โดยในรถพบอาวุธปืน 2 กระบอก เป็นปืน CMMG ใช้กระสุนปืน 9 ม.ม.และ 11 ม.ม.

นายธนาศักดิ์ ชีวะสาโร อายุ 40 ปี คนขับรับเป็นผู้ครอบครองอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอก พร้อมแสดงเอกสารใบอนุญาตพกพาและครอบครองอาวุธปืนดังกล่าวที่หน่วยงานฝ่ายปกครอง อ.สิงหนคร เป็นผู้ออกให้ซึ่ง เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2565 และ 17 ก.พ.2565 โดยมีนายปัญญา จินดาวงศ์ นายอำเภอสิงหนคร เซ็นใบอนุญาตให้

เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่า นายธนาศักดิ์ หรือชื่อเดิม นายจงรักษ์ ชีวะสาโร หรือ ‘จง สิงหนคร’ เคยถูกจับในคดีใช้ปืน 11 ม.ม. ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 6 นัด เพื่อเปิดทางหลบหนี หลังถูกล่าซื้อยาเสพติด บริเวณสามแยกทางควาย ม.3 ต.สทิงหม้อ อ.สิงหนคร จ.สงขลา เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ก่อนจะถูกจับกุมตัวอยู่ระหว่างดำเนินคดี ขณะที่การตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอื่นใดตำรวจจึงปล่อยตัวไปด้วยความงุนงง

ห ลังเรื่องราวแพร่ออกไปจนเกิดคำถามว่าเหตุใดฝ่ายปกครองจึงออกใบอนุญาตให้บุคคลที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับ ยาเสพติดและยิงเจ้าหน้าที่ได้ ทำเอานายปัญญา จินดาวงศ์ นายอำเภอสิงหนคร คนเซ็นอนุมัติ ต้องรีบออกมาชี้แจงว่า สาเหตุที่มีการออกใบอนุญาตให้พกพาอาวุธปืนแก่นายธนาศักดิ์นั้น เนื่องจากทางอำเภอเห็นว่านายธนาศักดิ์น่าจะทำประโยชน์ให้กับหน่วยงานได้ จึงได้มีการดึงเข้ามาเป็นสายข่าวให้กับทางอำเภอที่มีการตั้งหน่วยเฉพาะกิจขึ้นมา เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบ ในพื้นที่อำเภอสิงหนคร ในอนาคตอาจมีการทำงานเชิงลึกในด้านข้อมูลข่าวสาร จึงได้ออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน เพื่อความปลอดภัยแก่นายธนาศักดิ์

แต่เมื่อปรากฏเป็นกระแสข่าวว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ที่ออกใบอนุญาตให้กับนายธนาศักดิ์พกพาอาวุธปืนได้ จึงได้เรียกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนกลับคืนเพื่อลดความกังวลจากสังคมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นได้ไปพูดคุยและชี้แจงเรื่องดังกล่าวกับทางผู้กำกับการตำรวจ สภ.สิงหนคร แล้ว

นัยว่าเป็นโจรกลับใจ แม้จะเคยทำผิดแต่ก็กลับตัวกลับใจหันมาช่วยเหลือราชการ ประมาณนั้น คล้อยหลังมาไม่กี่วันความจริงก็ปรากฏว่านายธนาศักดิ์หาใช่โจรกลับใจแต่อย่างใดไม่

คํ่ าวันที่ 22 มี.ค. ตำรวจกองปราบฯ ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัด นครศรีฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวน ภ.จว.นศ., ชุดตำรวจสันติบาล, ชุดยาเสพติดนครศรีฯ, หน่วยปฏิบัติการพิเศษราชเดช, ปปส.ภาค 8 ได้ปิดล้อมและจับกุมตัวก่อนบุกจับกุมตัวนายธนาศักดิ์และน.ส.อารีย์ ช่วยทอง แฟนสาวที่บ้านเช่าทาวน์เฮาส์ เลขที่ 321/17-18 ต.ท่าวัง อ.เมือง นครศรีฯ บริเวณหลังวิทยาลัย เทคนิคนครศรีฯ

โดยเป็นการจับกุมตามหมายจับของสภ.ห้วยไร่ จ.แพร่ ในข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” โดยจนท.ตร.ได้มีการสืบทราบว่า นายธนาศักดิ์มีส่วนพัวพันกับการขายยาบ้าจำนวน 5.6 ล้านเม็ดและยาไอซ์ 20 ก.ก.ได้มีการขนจากจ.เชียงรายโดยรถบรรทุก 10 ล้อลงมาเมื่อกระจายขายยาเสร็จแล้ว ได้หนีมามากบดานที่ จ.นครศรีธรรมราช และจากการบุกจู่โจมจับกุมได้มีการตรวจค้นภายในบ้านเช่าพบยาบ้า 80 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพ เงินสดจำนวนเกือบ 3 แสนบาท, สมุดบัญชีธนาคารที่มีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนชนิดร้ายแรงจำนวนมากเหมือนคลังแสงย่อมๆ รวมทั้งรถยนต์หรูป้ายแดงอีก 5 คัน ซึ่งจนท.ได้ตรวจยึดไว้ทั้งหมด

หลังตำรวจจับกุมนายธนาศักดิ์ในคดียาเสพติด วันที่ 24 มี.ค. นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง มีคำสั่งด่วน ให้นายปัญญา จินดาวงศ์ นายอำเภอสิงหนคร จ.สงขลา ไปช่วยราชการที่กรมการปกครอง โดยมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ที่วิทยาลัยการปกครองเป็นการประจำ ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.2565 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

คงไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ว่าย้ายเพราะอะไร

นุชจรี แรกรุ่น เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน