โลกทุกวันนี้จะหาซื้ออะไรก็ง่ายเพียงปลายนิ้วจิ้ม ไม่เว้นแม้สิ่งผิดกฎหมายหรือ อาวุธปืน

ย้อนไปเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 25 มี.ค. 2565 พ.ต.อ.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.สปพ. พร้อมเจ้าหน้าที่งานสายตรวจ 3 บก.สปพ. แถลงข่าวจับกุมนายสุวพนธ์ ไพศาลพานิช อายุ 28 ปี ชาวจ.สมุทรปราการ พร้อมของกลางอาวุธปืน 4 กระบอก ปลอกลดเสียง 2 อัน กระสุนปืน 126 นัด หลังลักลอบเปิดโรงงานผลิตและซ่อมแซมปืนเถื่อน ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง หมู่ 4 ซอยศรีบุญเรือง 1 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

พ.ต.อ.ชัยกฤตเผยที่มาที่ไปของการจับกุมครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2564 ตำรวจงานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ จับกุมนายนาถภูมิ (ขอสงวนนามสกุล) ในพื้นที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมของกลางอาวุธปืนสงคราม AK47 จำนวนมาก

จากการสอบสวนขยายผลทราบว่าในเครือข่ายนี้ยังมีนายสุวพนธ์ทำหน้าที่เป็นช่างซ่อมอาวุธปืน จึงขยายผลจับกุมนายสุวพนธ์ได้ที่บ้านพักในจ.สมุทรปราการ พร้อมของกลางจำนวนหนึ่ง ผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำหน้าที่เป็นช่างปืนคอยซ่อมปืนให้ลูกค้า โดยลูกค้าจะส่งปืนมาทางไปรษณีย์เอกชน เมื่อมาถึงมือจะซ่อมและทดลองยิงปืนในถังทดสอบ ทำมา 1 ปีแล้วก่อนถูกจับในที่สุด เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “มีอาวุธและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวดำเนินคดีต่อไป

ข ณะที่อีกคดี ตำรวจจับกุมนายจตุพล สีจาง หรือ ช่างบี อายุ 27 ปี ช่างซ่อมปืนชื่อดัง และนายกฤษฎา นิรี อายุ 25 ปี ทั้งคู่เป็นชาว จ.นครปฐม และนายเฮ่อเลิ่น (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ชาวจีนไต้หวัน พร้อมของกลางเครื่องกลึง 1 เครื่อง อาวุธปืนทั้งสั้นและยาว รวมทั้งสิ่งเทียมอาวุธปืนรวม 8 กระบอก กระสุนปืนขนาดต่างๆ รวม 156 นัด และอุปกรณ์เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน อาทิ ลำกล้องปืนขนาดต่างๆ อีกหลายรายการ

โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวไทยได้ที่บ้านพักถนนพุทธมณฑลสาย 4 ซอย 3 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.นครปฐม และขยายผลจับกุมชาวจีนได้ที่บ้านพักซอยรามคำแหง 150 แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ

พ.ต.อ.ชัยกฤตเผยเบื้องหลังการจับกุมว่า สืบเนื่องจากตำรวจสืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาลักลอบผลิตอาวุธปืน ลำกล้องปืน และชิ้นส่วนอาวุธปืนผิดกฎหมาย โดยใช้แอพพลิเคชั่นขายสินค้าออนไลน์ชื่อดังในการประกาศขายสินค้าให้ลูกค้าซึ่งบุคคลทั่วไปเข้าถึงได้ จากการตรวจสอบพบว่านายจตุพลเคยถูกจับกุมตัวหลังก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2564 ก่อนก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง

โดยตั้งแหล่งผลิตอาวุธปืนที่บ้านพักในจ.นครปฐม จึงขออนุมัติหมายค้นบ้านหลังดังกล่าว พบของกลางจำนวนมากจึงยึดไว้เป็นของกลางและจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย ก่อนขยายผลพบชายชาวจีนมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นจับกุมได้เพิ่มเติม

พ.ต.อ.ชัยกฤตกล่าวต่อว่า ผู้ต้องหารับสารภาพว่าผลิตอาวุธปืนและส่วนต่างๆ ของปืนจริง โดยนำเสนอขายผ่านแอพพลิเคชั่นขายสินค้าออนไลน์ และจัดส่งสินค้าผ่านบริษัทขนส่งเอกชน ได้รับการสั่งซื้อจากลูกค้าสัปดาห์ละ 50-60 รายการ กำไรชิ้นละ 1,000 บาท ยอดเงินหมุนเวียน 2 แสนบาทต่อเดือน ทำมาแล้ว 3 เดือน ส่วนนายเฮ่อเลิ่นรับสารภาพว่าส่งปืนแบลงก์กันไปให้นายจตุพลดัดแปลงให้ใช้งานได้เหมือนปืนจริง รู้จักกับนายจตุพลผ่านแอพพลิเคชั่นขายสินค้าออนไลน์

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหานายจตุพล “ร่วมกันผลิตอาวุธปืน (ไทยประดิษฐ์) เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีอุปกรณ์ส่วนควบอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืน (ไทยประดิษฐ์) ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ฯ และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร”

แจ้งข้อหานายกฤษฎา “ร่วมกันผลิตอาวุธปืน (ไทยประดิษฐ์) เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีอุปกรณ์ส่วนควบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และแจ้งข้อหานายเฮ่อเลิ่น “มีอาวุธปืน (ไทยประดิษฐ์) ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ฯ, มีสิ่งเทียมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

หากตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบยังหาซื้อได้ทางเน็ต ตำรวจก็ต้องรับบทหนักกันต่อไป

อดิษัยต์ พรวนพิมพ์ เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน