“เราอยากให้ภาพพจน์ขององค์กร (ตำรวจ) ดีขึ้นในช่วงที่ผมเป็น จเรตำรวจแห่งชาติ ผมอยากเห็นภาพลักษณ์ขององค์กรเรามีมาตราฐาน อยากให้ทุกหน่วยเร่งตรวจสอบข้อร้องเรียนของประชาชน เน้นแก้ปัญหาเชิงรุก ทำทันที เพื่อรักษามาตรฐานการทำงาน” คำพูดของ ‘บิ๊กหิน’ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ที่กล่าวไว้เมื่อหลายวันที่ผ่านมา

ในการประชุมรองผู้บัญชาการที่รับผิดชอบงานจเรตำรวจ ของหน่วยที่ทำงานสัมผัสกับประชาชน รวม 14 หน่วย ได้แก่ บช.น., บช.ภ.1-9, บช.ก., บช.ตชด., บช.สอท.และ สตม.ผ่านระบบการประชุมทางไกล ( Video Conference) เพื่อติดตามการทำงานของแต่ละหน่วย ตามที่ได้ให้นโยบายงานจเรตำรวจกับทุกหน่วยไปเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 64 ที่เรียกว่า “การบ้าน 3 ข้อ”

ให้นโยบายการทำงาน

สำหรับนโยบายที่ พล.ต.อ.วิสนุได้ให้ไป หรือที่เรียกว่าการบ้าน 3 ข้อ มีดังนี้ ข้อ 1 คือ ให้แต่ละ บช. แต่ละ บก. ไปเร่งรัดการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนในความรับผิดชอบให้เสร็จสิ้นตามที่ ผบ.ตร.ได้สั่งการลงไป ต้องตรวจสอบให้เสร็จสิ้นภายใน 60 วัน หากไม่เสร็จสิ้นก็ให้ขอขยายเวลาได้อีกครั้งเดียวไม่เกิน 15 วัน ตัวชี้วัดในเรื่องนี้ก็คือ เรื่องร้องเรียนที่เกินกำหนดจะต้องเท่ากับศูนย์ เป้าหมายคือไม่ให้มีเรื่องร้องเรียนคงค้างเกินกำหนดเลย

การบ้านข้อที่ 2 คือ ให้แต่ละ บช.- บก. ตรวจราชการตามนโยบายใหม่ที่เริ่มใช้ในปีนี้เป็นปีแรก โดยให้ตรวจอย่างมีคุณภาพครบ 100% ภายในกรอบเวลาที่กำหนด แล้วให้แต่ละหน่วยจัดลำดับมา จากนั้นจึงให้สำนักงานจเรตำรวจลงไปตรวจซ้ำเฉพาะที่หน่วยจับลำดับมาในลำดับต้นๆ และลำดับ ท้ายๆ เพื่อเป็นการ Recheck จึงต้องติดตามดูความคืบหน้าว่าแต่ละหน่วยได้ตรวจไปได้มากน้อยแค่ไหน มีปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติตามนโยบายการตรวจในรูปแบบใหม่นี้หรือไม่ อย่างไร

ประชุมตรวจการบ้าน

สำหรับการบ้านข้อ 3 และเป็นข้อสำคัญเนื่องจากเกี่ยวพันกับพี่น้องประชาชน คือให้แต่ละ ผบช.- ผบก.ไปดูข้อมูลการร้องเรียนและการดำเนินการทางวินัยของหน่วย แล้วนำไปวิเคราะห์หาสาเหตุ แล้ววางแนวทาง/มาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้การบ้านทั้ง 4 ข้อครอบคลุมภารกิจในงานด้านจเรตำรวจทั้ง 4 ด้าน อันได้แก่ ด้านการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนของประชาชน ด้านการตรวจราชการ ด้านส่งเสริมความประพฤติและระเบียบวินัยของข้าราชการตำรวจ และด้านป้องกันปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ

การเรียกประชุมตรวจการบ้าน ครั้งนี้ก็เพื่อติดตามผลการปฏิบัติตามนโยบายที่ให้ไปของแต่ละหน่วยว่าเป็นไปอย่างไร มีปัญหาอุปสรรคใดบ้างหรือไม่ หรือบางหน่วยที่อาจจะมีแนวปฏิบัติที่จะสามารถนำไปเป็นแบบอย่างให้กับหน่วยอื่นๆ ได้ ก็จะได้ใช้เป็น Model เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ ต่อการทำงานในภาพรวมได้ต่อไป

ส่วนนโยบายในการพยายามลดเรื่องร้องเรียนของประชาชน ที่ให้ทุกหน่วยทำงานเชิงรุก ให้ไปดูสาเหตุที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนคับข้องใจจึงทำให้เกิดการร้องเรียนขึ้นมา แล้วให้ผู้บังคับบัญชาไปวิเคราะห์หาสาเหตุและวางแนวทาง วางมาตรการเพื่อมิให้ปัญหาเดิมๆ เกิดซ้ำๆ ขึ้นมาอีกจนเป็นสาเหตุให้เกิดการร้องเรียน

พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.วิสนุเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า การทำงานในลักษณะนี้ก็เปรียบเสมือนกับแพทย์ที่วินิจฉัยโรคและจ่ายยาให้คนไข้ได้ถูกต้อง อาการของโรคจะต้องทุเลาลง ดังนั้นหากได้นำนโยบายไปปฏิบัติอย่างจริงจังแล้ว ตัวเลขการร้องเรียนจะสะท้อนให้เห็นได้ โดยห้วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีตัวเลขที่สูงเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี โดยในปี 2562 ตัวเลขการร้องเรียนอยู่ที่ 2,379 เรื่อง ถัดมาปี 2563 เพิ่มขึ้นมาเป็น 3,267 เรื่อง และล่าสุดปี 2564 เพิ่มขึ้นมาเป็น 3,686 เรื่อง ซึ่งเมื่อวิเคราะห์ลงไปในเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามามากที่สุดก็พบว่าเป็นเรื่องขอความเป็นธรรมเช่นเดียวกันทั้ง 3 ปี คือ ซึ่งมีจำนวนสูงกว่าเรื่องอื่นๆ หลายเท่าตัว ดังนั้นทุกหน่วยจะต้องไปดูตัวเลข วิเคราะห์และหาแนวทาง วางมาตรการในเชิงป้องกันให้ถูกทางไม่ให้ปัญหาเดิมๆ เกิดซ้ำอีก ประชาชนไม่ได้รับความ เดือดร้อนหรือเข้าใจการทำงานของตำรวจดีขึ้น ตัวเลขการร้องเรียนก็จะต้องลดลง

เยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชา

“ถ้าเราไม่คิดแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ คือ ไม่ทำงานเชิงรุก ไม่ทำในเชิงป้องกัน เราต้องใช้งานจเรเป็นกลไกในการลงไปแก้ปัญหาให้ประชาชน และใช้เป็นกลไกในการรักษามาตรฐานการทำงานของหน่วยปฏิบัติ ทั้งนี้ ก็เพื่อรักษาภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในสายตาของประชาชนไว้ให้ได้เปรียบเสมือนคนป่วย ถ้าเราวินิจฉัยโรค ได้ถูก แล้วจ่ายยาให้ถูกกับโรค อาการมันก็จะต้อง ดีขึ้น แต่ถ้าเราไม่เข้าไปวินิจฉัยโรค ไม่เข้าไปรักษา ไม่จ่ายยา ปล่อยไปเรื่อยๆ ตามยถากรรม อาการมันก็จะมีแต่ทรงกับทรุด สุดท้ายก็ต้องเข้าห้องผ่าตัด เหมือนที่เราถูกเรียกร้องให้ปฏิรูปมาตลอด จึงขอฝากให้พวกเราทุกคนช่วยกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อลดปัญหาการร้องเรียนลงไปให้ได้” พล.ต.อ.วิสนุกล่าวสรุปกับผู้เข้าร่วมประชุม

อดิศร จิตตเสวี เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน