เป็นคดีที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง

สำหรับกรณีที่หนุ่มเชียงรายที่ขับรถไปพร้อมกับแฟนสาว ถูกยิงเสียชีวิตขณะขับรถผ่านด่านตรวจชุมชนที่บ้านแม่ต๋ำ ต.ท่าก๊อ จ.เชียงราย

โดยฝีมือของเจ้าหน้าที่ประจำด่าน!??

ซึ่งให้เหตุผลว่ารถดังกล่าวกำลังฝ่าด่านตรวจ

ทั้งที่คนในรถยืนยันว่า มองไม่เห็นสัญญาณไฟ หรือสัญญาณเรียกตรวจใดๆ จึงขับรถไปเรื่อยๆ ไม่คิดว่าจะถูกยิงใส่อย่างโหดร้ายเช่นนั้น

ในที่สุดตำรวจก็จับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีพยานเห็นว่าเป็นคนยิงปืนขึ้นฟ้า

แต่ญาติก็ยังไม่ปักใจเชื่อต้องแห่ศพประท้วงหลายต่อหลายแห่ง

เพราะหลักฐานยืนยันชัดเจนว่ายิงในแนวราบ ไม่ใช่ตกลงมาจากฟ้า

แถมเป็นกระสุนปืนสงคราม ไม่ใช่ปืนสั้น

สุดท้ายต้องมาร้องขอความช่วยเหลือจากรองผบ.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ในที่สุดความจริงก็ปรากฏ เนื่องจากมีพลทหารที่ประจำด่านตรวจดังกล่าว ออกมาสารภาพว่าเป็นคนลงมือเอง พร้อมติดต่อขอมอบตัว

ทำให้เกิดคำถามว่าทำไมความจริงถึงเพิ่งมาคลี่คลาย?

ย้อนนาทียิงมั่ว-ดับคาด่าน

เหตุสลดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 19.00 น. วันที่ 2 มี.ค. โดยนายศรชัย สถิตย์รักษ์ดำรงค์ อายุ 35 ปี หนุ่มช่างรับเหมาก่อสร้าง ชาวเชียงราย ที่ไปรับงานอยู่ที่ จ.ระยอง แล้วกลับมาบ้านช่วงเทศกาลปีใหม่ ขับรถเก๋งนิสสัน สีขาว ทะเบียน 2 กอ 2137 กรุงเทพมหานคร เพื่อไปส่ง น.ส.ศิริรัตน์ แยเปียง เพื่อนสาวคนสนิท ที่ จ.เชียงใหม่

ขณะขับผ่านพื้นที่หมู่บ้านแม่ต๋ำ ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย พบกับด่านตรวจจุดหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยใด เมื่อขับรถผ่านไปประมาณสัก 20 เมตร เสียงปืนก็ดั่งสนั่น จนกระจกรถด้านหลังแตกเป็นรู ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของคนในรถ

จากนั้นรถคันดังกล่าวก็เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า ข้างกำแพงวัดแม่ต๋ำ เมื่อตรวจสอบพบนายศรชัยเสียชีวิต โดยถูกอาวุธปืนยิงเข้าใส่ท้ายทอย

หลังเกิดเหตุน.ส.ศิริรัตน์ แฟนสาว ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ระทึกขวัญเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ตนอยู่ในรถ เมื่อรถเสียหลักพุ่งชนกำแพง รถก็จอดนิ่งอยู่นานหลายนาที จนกระทั่งมีคนเข้ามาตะโกนถามว่ามีใครอยู่ในรถอีกหรือไม่ ตนก็ตะโกนกลับไปว่าไม่มี จนมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์

หลังเกิดเหตุ น.ส.ศิริรัตน์ เข้าแจ้งความที่สภ.แม่สรวย

ขณะที่การตรวจสอบบก.ภ.จว.เชียงราย ระบุว่าด่านดังกล่าวไม่ใช่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เป็นด่านตรวจชุมชน มีคนเข้าเวรประจำด่าน 19 คน มีทั้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครตำรวจบ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน และทหารชุดปฏิบัติการควบคุมพื้นที่พิเศษดอยเวียงผา ที่พกพาอาวุธปืน

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บอาวุธปืนของทั้งหมดมาตรวจสอบ และตรวจร่างกายหาเขม่าปืน

จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ก็จับกุม นายวุฒิชัย อินใจ อายุ 46 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านป่าเหียง หมู่ 14 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงรายในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

โดยนายวุฒิชัยให้การภาคเสธ ระบุว่า คืนดังกล่าวเข้าเวรอยู่ที่ด่านตรวจที่เกิดเหตุจริง ซึ่งรถของผู้ตายขับผ่านด่านไป จึงคิดว่าตั้งใจหลบหนี จึงชักปืน 9 ม.ม. ยิงขึ้นฟ้า 3 นัด ที่สำคัญยังมีอีกไม่ต่ำกว่า 2 คน ที่ยิงปืนในเวลาดังกล่าว

ยืนยันว่าไม่ใช่คนลงมือสังหาร

พลทหารโผล่รับ-ทำเอง

เช่นเดียวกับกลุ่มญาติ ที่ไม่เชื่อว่าจะมีผู้ลงมือเพียงคนเดียว จึงแห่ศพมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมทั้งที่สภ.แม่สรวย ที่ว่าการอำเภอ และที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย

เพื่อขอให้สืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าวให้ชัดเจน เนื่องจากมีพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนยันว่าผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไม่ได้ยิงเพียง คนเดียว

แต่คดีก็ไม่คืบหน้าเท่าที่ควร

ขณะที่ผลตรวจของพิสูจน์หลักฐาน ที่ตรวจสอบรถเก๋งของผู้ตาย ไม่พบปลอกกระสุน แต่พบเศษกระสุนฝังในศีรษะผู้ตาย 2 เม็ด และจากการตรวจสอบวิถีกระสุนพบว่าวิถีกระสุนที่ทะลุกระจกและหมอนรองศีรษะเบาะคนขับ มีรอยกระสุนปืนไม่ทราบขนาด 4 รู เป็นกระสุนที่เจาะเข้าท้ายทอยของนาย ศรชัย และหัวกระสุนก็ทะลุจนหายไป

คาดเป็นกระสุนนัดเดียวที่แตกออกเป็น 3-4 ส่วน ซึ่งวิถีกระสุนเป็นแนวราบขัดแย้งกับคำให้การของผู้ต้องหาที่ระบุว่ายิงปืนขึ้นฟ้า หรือยิงไปในทิศทางอื่น

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าลูกกระสุนทะลุเข้ากระจกด้านหลังขวาของรถ จากนั้นน่าจะเกิดการกระทบกับโลหะภายในรถและแตกตัว แล้วพุ่งไปยังหมอนรองศีรษะตรงเบาะนั่งคนขับ 4 เม็ด ไปถูกท้ายทอยของคนขับ 2 เม็ด กระสุนเจาะถูกท้ายทอยของผู้ตายในที่สุดดังกล่าว ระยะการยิงจากการวัดพบว่าไกลประมาณ 53 เมตร

ส่วนผลตรวจกระสุนที่พบในศีรษะผู้ตายเป็น หัวกระสุนชนิด .223 ความเร็วสูง เชื่อว่าเป็นกระสุน ปืนเอ็ม 16

พร้อมกันนั้นญาติก็ยกขบวนเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร้องเรียนต่อพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ซึ่งกำชับให้ พล.ต.ต. ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.เชียงราย เร่งรัดคดีและผลตรวจสอบอาวุธปืนที่ยึดมาจากเจ้าหน้าที่จุดเกิดเหตุ

หากไม่มีความคืบหน้าก็พร้อมลงพื้นที่ด้วยตัวเอง

หลังจากนั้นไม่นาน ศาลมณฑลทหารบกที่ 37 อนุมัติหมายจับที่ จก.1/2561 ให้จับกุมพลทหาร วันชัย จำปา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าและยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควร

จากนั้นบ่ายวันที่ 12 ม.ค. นายทหารพระธรรมนูญ ก็นำตัวพลทหารวันชัยมามอบให้พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภาค 5

โดยพล.ต.ท.พูลทรัพย์ยืนยันว่า เป็นผู้ต้องหาตัวจริงแน่นอน พยานหลักฐานชัดเจน สามารถสั่งฟ้องได้ โดยผู้ต้องหารับว่ายิงเอง เพราะเห็นผู้ตายขับรถแหกด่าน ซึ่งอาจเป็นการตัดสินใจเร็วไปหน่อย

ส่วนผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็เป็นผู้ต้องหาตัวจริง แต่เป็นคนละคดีเท่านั้น

ย้อนคดีด่านตรวจมรณะ

อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีเจ้าหน้าที่ทหารยิงปืนจากด่านตรวจ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก โดยคดีที่เป็นที่จับตาไปทั่วโลก ก็คือกรณีเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2560 ทหารร้อย ม.2 บก. ควบคุมที่ 1 ฉก.ม.5 ประจำจุดตรวจบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ วิสามัญนายชัยภูมิ ป่าแส อายุ 17 ปี ชาวลาหู่

โดยรายงานจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุนายชัยภูมินั่งรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ มากับเพื่อนอีกคนที่เป็นคนขับ ขณะเรียกตรวจสอบรถ นายชัยภูมิชักมีด แล้ววิ่งหนีไปประมาณ 200-300 เมตร เมื่อ เจ้าหน้าที่วิ่งตามไป ผู้ตายเงื้อระเบิดมือจะขว้างใส่ ทหารจึงยิงเอ็ม 16 เข้าใส่จนเสียชีวิต

แม้ญาติจะยื่นร้องขอความเป็นธรรม เพราะไม่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดใดๆ แถมเป็นนักกิจกรรมเพื่อชนเผ่าห่างไกลยาเสพติดอีกด้วย

แต่พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภาค 5 ระบุว่า นายชัยภูมิเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแน่นอน เคยถูกจนท.ล่อซื้อ โอนเงินมัดจำเสร็จสรรพ แต่พอนัดส่งยา นายชัยภูมิหนีได้หวุดหวิด แถมยังโทรศัพท์ข่มขู่พยาน โดยตร.กำลังจะขอหมายจับ แต่ก็ถูกทหารวิสามัญเสียก่อน

ทำให้ไปถึงองค์กรสิทธิมนุษยชนระดับโลก อย่างแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล องค์การนิรโทษกรรมสากล แถลงการณ์เรียกร้องทางการไทยสอบสวนอย่างเป็นอิสระ และเห็นผลต่อกรณีวิสามัญฯ นายชัยภูมิ หากพบว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนใดๆ อันเป็นเหตุให้เสียชีวิต ผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดจะต้องถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในศาลพลเรือน ซึ่งได้มาตรฐานระหว่างประเทศและเป็นธรรม

นอกจากนี้ยังมีประเด็นสงสัยคือภาพถ่ายขณะเข้าตรวจค้นรถ ซึ่งมีนายชัยภูมิยืนอยู่เคียงข้างเจ้าหน้าที่ ให้ความร่วมมืออย่างดี แล้วเหตุการณ์ไปพลิกผันได้อย่างไร

อีกทั้งเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2560 เกิดเหตุวิสามัญฯ นายอาเบ แซ่หมู่ อายุ 32 ปี โดยทหารในเขตพื้นที่รับผิดชอบของร้อย ม.2 บก.ควบคุมที่ 1 ฉก.ม.5 เช่นกัน

โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าตรวจยาเสพติด ระหว่างนั้น นายอาเบขัดขวางการจับกุม และพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ ด้วยการขว้างระเบิดใส่

เหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อ!??

ขณะที่คดีของนายชัยภูมิ ถูกนำขึ้นสู่ศาลจ.เชียงใหม่ พร้อมการเรียกร้องให้เปิดกล้องวงจรปิด หลักฐานสำคัญเพื่อจะได้เห็นว่าอะไรเกิดขึ้นกันแน่

แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีใครได้ดู

ถือเป็นคดีปริศนาอีกคดีที่รอการคลี่คลาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน