พิรยุทธ์ นิ่มนนท์

เรื่อง/ภาพ

นาทีที่ความโมโหโกรธาเข้าครอบงำ คนเรามักทำอะไรโดยขาดความยั้งคิด จนบางครั้งเรื่องราวเล็กน้อยก็บานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมา แต่พอเหตุการณ์ผ่านไปได้ใช้เวลานั่งนึกทบทวนเรื่องราวแล้ว ก็ได้แต่ขำตัวเองว่าทำไปได้ ยังไง

เช่นเรื่องราวของพระเอกหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ ที่มีเรื่องทะเลาะกับคนขับรถแท็กซี่ เมื่อเย็นวันที่ 8 ม.ค.

เรื่องราวเปิดเผยขึ้นเมื่อ ร.ต.อ.กฤษณะ มั่นศักดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.พญาไท รับแจ้งมีเหตุผู้ขับขี่รถยนต์ทะเลาะวิวาทกันริมถนนราชปรารภ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณริมถนนราชปรารภฝั่งซ้ายมุ่งหน้าแยกประตูน้ำ พบรถยนต์สปอร์ตปอร์เช่ รุ่น 911 ทาร์ก้า สีดำ หมายเลขทะเบียน 4 กผ 4134 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ริมฟุตปาธฝั่งซ้าย ในสภาพกระจกฝั่งขวาด้านคนขับแตกทั้งบาน

ใกล้รถพบนายมาริโอ้ เมาเร่อ อายุ 29 ปี นักแสดงหนุ่มชื่อดัง ยืนรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่อยู่ ขณะเดียวกันพบรถคู่กรณีเป็นรถแท็กซี่โตโยต้า สีเหลือง ทส 3889 กทม. สภาพกระจกด้านหน้าซ้ายแตก มีนายอุดร สุทธิสน อายุ 37 ปี ชาวหนองฮี จ.ร้อยเอ็ด เป็นคนขับ

ทั้งคู่พยายามอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก่อนจะกลายเป็นเถียงกัน นายอุดร โชเฟอร์รถแท็กซี่ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาจากถนนพระราม 6 เพื่อเลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อมาถึงแยกอุรุพงษ์ถูกรถปอร์เช่ขับปาดหน้า ตนจึงเปิดกระจกด่าไปด้วยอารมณ์โกรธ

ปรากฏว่า คนขับรถปอร์เช่ก็แรงไม่น้อยไปกว่ากัน โดยได้ตะโกนด่าสวนกลับมาเช่นกัน ไม่ต่างกับเอาน้ำมันไปราดใส่กองไฟ ทั้งคู่ขับรถปาดกันไปมาจนมาติดไฟแดงบริเวณแยกประตูน้ำ ด้วยความโมโหจนขาดสตินายอุดรใช้หนังสติ๊กยิงลูกหินจากภายในรถตัวเองโดยลืมไปว่าไม่ได้เปิดกระจกหน้าต่าง

ลูกหินทะลุกระจกรถตัวเองฝั่งซ้ายไปโดนกระจกฝั่งขวาด้านคนขับรถของดาราหนุ่มจนแตก จากนั้นพระเอกหนุ่มจึง ขับรถเลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชปรารภเพื่อจะจอดรถ ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ภายในป้อมตำรวจบริเวณแยกประตูน้ำมาระงับเหตุ

โชเฟอร์แท็กซี่เล่ามาถึงตอนนี้ พระเอกหนุ่มก็ถามกลับแท็กซี่ว่า “คนเราอารมณ์ขึ้นได้ แต่ไม่ทำร้ายกันสิ ถ้าสมมติกระจกแตกใส่ตาผม ตาผมบอดพี่จะชดใช้ให้ผมยังไง”

คำพูดของพระเอกหนุ่มทำให้นายอุดร คนขับแท็กซี่ได้คิดตามถึงผลร้ายที่จะตามมาจากการกระทำของตน จึงได้ขอโทษพระเอกหนุ่ม จากนั้น ตร.จึงเชิญตัวทั้งคู่มาสอบปากคำที่ สน.พญาไท

ด้าน พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท เปิดเผยว่า ภายหลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีกับทั้งพระเอกมาริโอ้ และนายอุดร นอกจากนี้พนักงานสอบสวนจะทำหนังสือส่งไปที่กรมการขนส่งทางบก เพื่อพิจารณาพักใบอนุญาตขับขี่ของนายอุดร เนื่องจากเกรงว่าจะไปก่อเหตุกับผู้ขับขี่รถรายอื่นบนท้องถนนอีก

โดยนายอุดรกับพระเอกมาริโอ้ถูกแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท หรือทำหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคล หรือทรัพย์สิน พร้อมเปรียบเทียบปรับคนละ 1,000 บาท เพราะไม่ต้องการให้เป็นเยี่ยงอย่างกับคนอื่นในการขับรถประมาทหวาดเสียว

นายอุดรยังโชคดี ที่ค่ากระจกรถปอร์เช่ที่แตกเสียหายทางมาริโอ้ถอนคำร้องทุกข์ ไม่ติดใจเอาความคู่กรณี สาเหตุเพราะอารมณ์ชั่ววูบของทั้งคู่ในขณะนั้น

พร้อมทั้งทำหนังสือส่งไปที่กรมการขนส่งทางบก เพื่อพิจารณาพักใบอนุญาตขับขี่ของนายอุดร ส่วนมาริโอ้จะเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อหาเดียวกันในภายหลัง แต่ยังไม่ระบุวันเวลา แต่ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนยังเปรียบเทียบปรับ 200 บาทนายอุดร ในข้อหาทำร้ายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ กรณียิงหนังสติ๊กใส่กระจกรถ

“ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งสอบถามพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ก่อนจุดเกิดเหตุ ประกอบกับคลิปวิดีโอ เฟซบุ๊กไลฟ์ที่บันทึกเหตุการณ์ รวมทั้งจะเชิญทั้ง 2 ฝ่ายมาให้ข้อมูลอีกครั้ง ส่วนข้อหาทำให้เสียทรัพย์นั้นมาริโอ้ไม่ติดใจเอาความและถอนแจ้งความแล้ว” ผกก.สน.พญาไทกล่าว

รุ่งขึ้น นายสุกรี จารุภูมิ ผอ.กองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก เรียกตัวนายอุดรมาสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยนายอุดรรับสารภาพว่ากระทำผิดจริง กรมการขนส่งทางบกจึงดำเนินการตามความผิดพ.ร.บ.รถยนต์ มาตรา 54 (4) ผู้ใดได้รับใบอนุญาตขับรถแล้วหากปรากฏว่ามีผู้กล่าวโทษว่าทำลายความสงบสุขของประชาชนในถนน นายทะเบียนมีอำนาจเรียกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์มายึดไว้ได้ไม่เกิน 1 ปี

โดยเหตุการณ์ครั้งนี้กรมการขนส่งทางบกพิจารณาจากพฤติกรรมแล้ว เห็นควรยึดใบอนุญาตขับรถยนต์ของนายอุดรไว้เป็นเวลา 1 เดือน พร้อมส่งเข้าอบรมการเป็นผู้ขับรถที่ดีเป็นเวลา 3 ชั่วโมง

ผ่านบทเรียนมีค่ามาได้ นับว่าโชคดีที่ไม่ต้องแลกมาด้วยความบาดเจ็บ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน