พนม คงเจริญ
หนึ่งฤทัย หนูสวัสดิ์
เรื่อง/ภาพ
ชื่อของ ‘โจ ด่านช้าง’ หรือ นายสุพฤกษ์ หรือ สุเทพ เรือนใจมั่น หัวหน้าแก๊ง ค้ายาบ้าคนสำคัญในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ที่ถูกจับตายพร้อมกับพรรคพวกรวม 6 ศพ เมื่อ ปลายปี 2539 กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง
เมื่อพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ระบุระหว่างแถลงข่าวการจับกุมยาบ้าบิ๊กล็อตเกือบ 5 ล้านเม็ด ว่า แก๊งคนร้ายที่ถูกจับได้เป็นเครือข่ายของ นายอดิษพงษ์ เรือนใจมั่น หรือโจ ดอนซ่าส์ อายุ 28 ปี ลูกชายโจ ด่านช้าง ที่เลือกเส้นทางเดินเช่นเดียวกับผู้เป็นพ่อ
ย้อนไปเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตรงเต๊า ผบก.น.8 พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ภูวดิท คงเพ็ชร ผกก.สภ.อู่ทอง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายยาเสพติดพร้อมยึดยาบ้าจำนวน 4,960,000 เม็ด
การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากคดีที่ตำรวจ บช.ปส.และตำรวจนครบาล สามารถยึดยาบ้าได้ 20 ล้านเม็ด และได้ขยายผลมา อย่างต่อเนื่อง จนสืบทราบว่ามีแหล่งพักพิงยาที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี โดยเช่าตึกแถวเลขที่ 1608/148 หมู่ที่ 5 ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ไว้เป็นที่เก็บซุกซ่อนยาเสพติดเพื่อรอจำหน่ายให้กับลูกค้า
โดยเป็นเครือข่ายใหญ่ที่มีการตระเวนส่งยาบ้าให้กับลูกค้าในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง หลายจังหวัดด้วยกัน ทั้ง กทม. และปริมณฑล โดยกลุ่มคนร้ายจะใช้รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว ทะเบียน ฒผ 4361 กทม. เป็นพาหนะลำเลียงไปส่งให้ลูกค้าตามจุดนัดหมาย จึงได้วางกำลังเฝ้าติดตามจับกุม
เมื่อคืนวันที่ 5 ม.ค. เวลา 20.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนครบาล จึงประสานกำลังร่วมกับหลายหน่วย นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ จนกระทั่งพบรถคันดังกล่าวจอดที่หน้าตึกแถว กำลังตำรวจจึงเข้าตรวจค้นจับกุมพบอาวุธปืนแบบออโตเมติก ยี่ห้อ ซีแซด ขนาด 9 ม.ม. พร้อมเครื่องกระสุนปืน จำนวน 14 นัด ที่ใต้เบาะนั่งคนขับ
และจากการตรวจค้นในบ้านพักพบยาบ้า 4,960,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยวางเรียงกันเป็นแถวยาวที่ห้องโถงชั้นล่าง โดยรายงานเบื้องต้นระบุว่า แต่เดิมที่ดังกล่าว มียาบ้าถึง 10 ล้านเม็ด แต่ก่อนหน้านี้มีการจำหน่ายขนย้ายยาบ้าออกนอกพื้นที่ไปแล้วถึง 5 ล้านเม็ด
พร้อมกันนี้ได้ตรวจยึดรถกระบะอีซูซุ รุ่น นิวดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน บส 547 สุพรรณบุรี รถฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีดำ ทะเบียน 6 กล 2260 กทม. และรถนิสสัน รุ่นเอส 200 สีส้ม ทะเบียน ศฉ 3171 กทม. ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ พร้อมไล่ตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเกรียงศักดิ์ วงษ์สุวรรณ หรือใหม่ ดอนซ่าส์ อายุ 22 ปี และนายวิเชียร หรือ เจ เนตรทอง อายุ 25 ปี
ทั้งคู่ถูกดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า การจับกุมยาเสพติด ล็อตใหญ่ๆ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ซึ่งสืบสวนขยายผลจากเครือข่ายลูกหลาน ‘โจ ด่านช้าง’ และเชื่อว่าน่าจะมีการลำเลียงและลักลอบจำหน่ายออกไปแล้วบางส่วน ซึ่งยาเสพติด ล็อตนี้เป็นของกลุ่มว้าใต้ ซึ่งขบวนค้ายาเสพติดมักจะลักลอบลำเลียงมาในช่วงเทศกาลวันหยุดต่อเนื่องหลายๆ วัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการสืบสวนและติดตามจับกุมให้ได้มากที่สุด ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจ แห่งชาติที่ต้องดำเนินการต่อไป
ต่อมาตำรวจสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า นายอดิษพงษ์ เรือนใจมั่น หรือ ‘โจ ดอนซ่าส์’ อายุ 28 ปี ลูกชาย ‘โจ ด่านช้าง’ ที่เป็นตัวสั่งการและเป็นเจ้าของยาเสพติดที่ยึดมาได้ เจ้าหน้าที่ จึงดำเนินการขออนุมัติหมายจับ นายอดิษพงษ์ จากศาล
ส่วนการติดตามตัวทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) สั่งให้ติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน โดยทาง บก.สส.บช.น.อยู่ระหว่างสืบสวนจับกุม
ตำรวจสืบสวนจนรู้ทะลุว่า ขบวนการและกลุ่มของนายอดิษพงษ์ มีสมุนและลูกน้องมากกว่า 10 คน โดยจะกระจายอยู่ในพื้นที่ อ.ดอนเจดีย์ และ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว อย่างไรเสียคงไม่พ้นฝีมือไปได้
