“สันติ ประหร่ำภากรณ์” เรื่อง/ภาพ

พลันที่ชายใส่เสื้อแขนยาวสีดำแบบคลุมศีรษะ ใส่กางเกงสีดำ เดินพ้นประตูห้างบิ๊กซี ซูเปอร์มาร์เก็ต ย่านวัดลาดปลาดุก พื้นที่หมู่ 6 ต.บางรักพัฒนา อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เมื่อบ่าย วันที่ 9 ก.พ. มันก็ตรงดิ่งไปที่ห้างทองมังกรเยาวราช ที่ตั้งอยู่ภายในห้างใกล้ประตูเข้า-ออก ก่อนวางกระเป๋าบนตู้กระจก

ชายดังกล่าวประกาศตัวเป็นคนร้ายด้วยการชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่ให้พนักงานหญิงส่งทองคำในตู้มาให้แต่โดยดี แต่พนักงานสาวอาศัยจังหวะวิ่งหนีเข้าไปในร้านด้วยความกลัว คนร้ายตัดสินใจใช้ปืนยิงใส่ตู้กระจก 4 นัดจนแตกละเอียด ก่อนคว้าเอาสร้อยทองคำไปได้ราว 30 บาท จากนั้นจึงรีบวิ่งไปขึ้นรถเก๋งขับหลบหนีไป

ลงมืออุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย ขนาดนี้มีหรือที่ตำรวจจะยอม หลังเกิดเหตุพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ระดมกำลังตำรวจนักสืบ ออกติดตามล่าตัวมาให้ได้โดยเร็ว

พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภาค 1 พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภาค 1 พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ณัฐพล ศุกระศร รองผบก. พ.ต.อ.อรรณพ นวมะนาค ผกก.สภ.บางบัวทอง พ.ต.ท.รุ่งระวี สุขัง รองผกก.สส. พ.ต.ท.สมุทร เกตุยา รองผกก.สอบสวน พ.ต.ท.มงคล อ่อนแก้ว รองผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี ร่วมประชุมวางแผนแบ่งงานกันลงพื้นที่สืบสวน

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณประตูเข้า-ออกห้าง พบว่าช่วงเวลา 10.58 น. มีชายนุ่งกางเกงขาสั้นสีครีม สวมเสื้อแขนสั้นสีดำ เดินเข็นรถเข็นของห้างเข้ามา ก่อนหยุดยืนมองเข้าไปที่ร้านทอง หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวได้เข็นรถเข็นออกมาหน้าห้างโดยไม่ได้ซื้อของโดยยืนรออยู่หน้าห้าง ขณะนั้นพนักงานในร้านซึ่งเห็นผิดสังเกตจึงได้เดินตามออกไป แต่ชายคนดังกล่าวได้เดินหายไปในลานจอดรถ

กระทั่งเวลา 13.52 น. คนร้ายจึงเข้ามาลงมือก่อเหตุแล้วหลบหนีไปขึ้นรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ ทะเบียน สช 1074 กทม. ที่จอดอยู่หน้าห้างขับหลบหนีไป โดยคนร้ายขับรถเลี้ยวขวามุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษก ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี

ในที่สุดตำรวจก็ได้เบาะแสแรก เมื่อตรวจสอบพบรถเก๋งคันดังกล่าวถูกจอดทิ้งเอาไว้ย่านไทรน้อย ชุดสืบสวนนำหมายเลขตัวถังและทะเบียนไปตรวจสอบจนได้ข้อมูลว่าเป็นรถหนีไฟแนนซ์ โดยทะเบียนที่ใช้ก็เป็นทะเบียนปลอม ที่ถูกขาย ต่อมาเป็นทอดๆ

bty

ล่าสุดพ่อค้าได้ขายให้กับนายมนต์นที นาคโถม หรือเก่ง อายุ 33 ปี ผ่านทางเฟซบุ๊กในราคา 32,000 บาท เพียงไม่กี่วันก่อเกิดเหตุ ทั้งไม่น่าแปลกใจที่เมื่อตรวจสอบรายละเอียดพบว่านายมนต์นที มีบ้านพักอยู่ที่หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งย่านไทรน้อย

ชุดสืบสวนตามเบาะแสไปจนได้ภาพวงจรปิดขณะที่นายมนต์นทีขับรถเก๋งยี่ห้อโปรตอน สีบรอนซ์-เงิน ทะเบียน ฌธ 1831 กทม. ออกจากหมู่บ้าน

เมื่อตรวจสอบพบว่ามีชื่อหญิงสาวที่มีบ้านพักอยู่ที่จ.ฉะเชิงเทราเป็นเจ้าของ จึงติดตามไปตรวจสอบตามที่อยู่ แต่กลับพบว่าหญิงสาวไม่ได้อยู่เมืองไทย แต่ไปทำงานอยู่ต่างประเทศ ส่วนรถเก๋งให้อดีตสามีชื่อเก่งเอาไปใช้อยู่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านายเก่งกับนายมนต์นที ก็คือคนเดียวกันนั่นเอง

บ่ายวันที่ 14 ก.พ. ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.นนทบุรี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภาค 1 นำทีมแถลงจับกุม นายมนต์นที นาคโถม หรือเก่ง อายุ 33 ปี และนายโกศล บุญรอด อายุ 42 ปี ผู้ร่วมวางแผน

พร้อมของกลางอาวุธปืนยี่ห้อ กล็อก ขนาด 9 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก เงินสดจำนวนหนึ่ง รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์-เงิน ทะเบียน สช 1074 กทม. (ทะเบียนปลอมที่ใช้ก่อเหตุ) และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโปรตอน สีบรอนซ์-เงิน ทะเบียน ฌธ 1831 กทม. (รถที่ใช้ดูลาดเลาและหลบหนี)

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวว่า ฝ่ายสืบสวน ภาค 1 สืบสวน จ.นนทบุรี สืบสวน สภ.บางบัวทอง เร่งตรวจสอบหารายละเอียดคนร้าย รวมถึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางห้างร้านและโรงแรมสถานที่พักต่างๆ จนสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายมนต์นที จึงได้นำกำลังเข้าติดตามและสามารถจับกุมตัวได้ที่ จ.ชุมพร

สอบสวนรับร่วมกันวางแผนกับนายโกศล เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามตัวและสามารถจับกุมตัวได้ที่ จ.สุพรรณบุรี โดยชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าได้ร่วมกันวางแผนและก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยนำทองที่ได้ทั้งหมดไปขายเอาเงินมาใช้จ่ายส่วนตัว ส่วนทองรูปพรรณจากการตรวจสอบคนร้ายได้ไปรวมน้ำหนัก 17 บาท

ด้านพล.ต.ท.สุวัฒน์กล่าวเสริมว่า หลังจากก่อเหตุผู้ต้องหาหลบหนีไปยัง จ.ฉะเชิงเทรา บ้านเกิดเพื่อตั้งหลัก จากนั้นได้ขับรถเก๋งยี่ห้อโปรตอนมุ่งหน้าสู่ภาคใต้ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่ จ.ชุมพร เสียก่อน และจากการตรวจสอบประวัติของนายมนต์นที หรือเก่ง มีประวัติคดีอาชญากรรมหลายคดีในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ล่าสุดเป็นคดีพยายามฆ่า ซึ่งอยู่ในระหว่างประกันตัว

ต่อมาตำรวจคุมตัวนายมนต์นทีไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยพบว่าที่แขนขวาของนายมนต์นที มีผ้าพันแผลพันไว้ โดยเป็นแผลที่โดนกระจกร้านทองบาดจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าตัวรับว่าไม่กล้าไปหาหมอเพราะกลัวถูกจับจึงเย็บแผลด้วยตัวเอง ส่วนนายโกศล แค่ร่วมวางแผน แต่วันลงมือปรากฏว่าแม่มาหาที่บ้านจึงไม่ได้ร่วมลงมือด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน