เป็นอีก 1 คดีอื้อฉาวในวงการตำรวจไทย เมื่อคนระดับผู้บังคับการ ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันรีดทรัพย์ผู้ต้องหา ไถเงินกว่า 140 ล้านบาท จนเป็นเหตุให้ผู้ต้องหาทนไม่ไหว กลายเป็นผู้เสียหาย แล้วเดินหน้าสู้กลับด้วยการแจ้งตำรวจอีกทอด
มีหลักฐานคำให้การชัดเจนถึงขั้นแจ้งข้อหา ผู้การชลบุรี และ พวกรวม 8 นาย
เปิดเผยเบื้องลึกเบื้องหลัง ว่าเรื่องเหล่านี้ทำกันเป็นขบวนการ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มจับกุม การเรียกมาเจรจาต่อรอง จนมีคำพูดกระฉ่อน ว่า “เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา”
กลายเป็นบทฝากรักที่น่าสนใจอย่างยิ่งว่าความรักครั้งนี้ ได้เผื่อแผ่จุนเจือไปถึงใครหน้าไหนบ้าง
แต่ที่ฮือฮายิ่งกว่า ก็คือการเปิดข้อมูลว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่การรีดไถธรรมดา แต่ยังมีจุดประสงค์แอบแฝงไปถึงตำแหน่ง ผบ.ตร.คนต่อไป
จะมีความเชื่อมโยงไปถึงจุดนั้นจริงหรือไม่
เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์!!
ผู้การชลบุรี
Advertisement
■ แจ้งข้อหาผู้การชลฯ รีดทรัพย์
เหตุการณ์อื้อฉาววงการสีกากีครั้งนี้ เป็นที่รับทราบกันเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีหนังสือสั่งย้ายนายตำรวจ ที่ 368/2566 ย้าย พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และพวกรวม 8 นาย ไปช่วยราชการที่ส่วนกลาง
โดยคำสั่งครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ผู้เสียหาย 6 คน เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ “Foxbet 168” นำโดยนายธนินวัฒน์ หรือเป้ เข้าแจ้งความที่ สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.กัมพล และพวกรวม 10 คน ร่วมกันรีดเงิน 140 ล้านบาท ซึ่ง 2 ใน 10 คน เป็นพลเรือนคือ นายพิสิษฐ์ หรือต้น คณิศรพาณี และนายวีระ หรือบอย นาทรัพย์
พร้อมระบุพฤติกรรมว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 23 พ.ค.2566 ตร.ศปอส.ภ.จว.ชลบุรี ได้บุกค้น 3 จุดคือ บ้านพักของผู้เสียหายใน จ.นนทบุรี และ กทม. ซึ่งสามารถควบคุมตัวนายธนินวัฒน์ หรือเป้ ได้เพียงคนเดียว และนำตัวไปลงบันทึกจับกุมที่ สน.คันนายาว
จากนั้นเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำตัว ‘เป้’ ไปที่ บก.ภ.จว.ชลบุรี เพื่อพบ พล.ต.ต.กัมพล โดยผู้การชลบุรี แจ้งกับเป้ว่ามีทางออก และบอกว่า “เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา” ต่อมา พล.ต.ต.กัมพล พาเป้ออกจากห้องซักถาม ที่อยู่ข้างห้องทำงานของ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ขณะนั้นนายพิสิษฐ์ หรือต้น เข้าไปในห้อง ดึงตัวเป้ไปพูดคุย พร้อมเสนอราคาในการเคลียร์คดี โดย ‘เป้’ เสนอเงิน 20 ล้านบาท แต่นายพิสิษฐ์ไม่พอใจ แจ้งจำนวนเงิน 140 ล้านบาท เจรจาต่อรองเป็นเงิน 65 ล้านบาท
โดยนายวีระ หรือ ‘บอย’ เข้าไปในห้องดังกล่าว พร้อมบอกเป้ว่า “มึงอยู่เฉยๆ เนียนกริ๊บ พี่เคลียร์ให้จบแล้ว มึงจ่ายที่ไอ้ต้นเลย” เมื่อตกลงราคากันได้ที่ 65 ล้านบาท มีรถอัลพาร์ดพาเป้ไปคุมตัวไว้ที่ สภ.บางละมุง เพื่อรอเงินค่าเคลียร์คดี
ต่อมาวันที่ 24 พ.ค. เป้ได้ยืมเงินจากเพื่อนร่วมขบวนการ และแจ้งว่านายพิสิษฐ์เรียกเงินเพิ่มอีก 20 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 85.2 ล้านบาท โดยนำเงินแยกเป็น 2 ส่วนคือ ให้นายวีระ และนายพิสิษฐ์ ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี อีกส่วนหนึ่ง ส่งหลังวัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
ส่วนเป้ที่ถูกคุมตัว ถูกนำส่ง สภ.แสนสุข และได้ประกันตัว ซึ่งนายวีระ หรือบอย เป็นคนขับซูเปอร์คาร์ ปอร์เช่ คาเยน ไปส่งเป้ที่บ้านพัก
ต่อมามีการเรียกเงินเพิ่มอีก 50 ล้านบาท โดยนำส่งที่ร้านกาแฟในโรงแรมดังย่านพัทยา และร้านกาแฟใน ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
กลายเป็นคดีใหญ่ที่อยู่ในความดูแลของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.
เซิร์ฟเวอร์ห้องผู้การ
■ ‘บอย เนียนกริ๊บ’ตัวการใหญ่
หลังจากคำสั่งย้ายเข้าส่วนกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ก็ทยอยเข้าพบพนักงานสอบสวน ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดี กรุงเทพฯ ซึ่งรวมถึง พล.ต.ต.กัมพล ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา มาตรา 157 ละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ, มาตรา 149 เรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ชอบ, มาตรา 309 ข่มขืนใจ ผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืน
โดยก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.กัมพลให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ยืนยันว่าไม่ได้พูดวลีที่ว่า “เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา”
ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ระบุว่า นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทยอยรับทราบข้อกล่าวหา โดยทั้งหมดยังให้การปฏิเสธว่าร่วมขบวนการรีดทรัพย์ผู้ต้องหา ยังมีพลเรือนอีก 3 คนที่ถูกออกหมายจับคือ นายพิสิษฐ์ หรือต้น คณิศรพาณี นายวีระ หรือบอย นาทรัพย์ และอีกคนคือภรรยาของนายบอย ใน 2 ข้อหาคือ ร่วมกันติดสินบนเจ้าพนักงาน และ ร่วมกันในการกระทำการเอาทรัพย์ผู้อื่นไป
ทั้งนี้พบว่านายต้นและนายบอยหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ซึ่งได้ออกนอกประเทศอย่างถูกต้อง คาดว่ามีสายที่เป็นตำรวจรายงานให้รู้ตัว แต่จะประสานประเทศปลายทางนำตัวกลับมาดำเนินคดี
พร้อมกันนั้นชุดสืบสวนบุกเข้าค้นบ้านของนายบอย ในพื้นที่ ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เบื้องต้นตำรวจพบเงินสดถูกบรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกใส 2 กล่อง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และแฟลชไดรฟ์บันทึกข้อมูลคอมพิวเตอร์ อยู่ในบ้าน จึงประสานตำรวจกองพิสูจน์ หลักฐาน เขต 2 ชลบุรี เข้ามาตรวจหาลายนิ้วมือแฝง และตรวจหาดีเอ็นเอ
ค้นบ้านบอย
จากการสืบสวนพบว่า นายวีระ หรือ เสี่ยบอย เป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นคนประสานบริษัททัวร์จีน และไกด์ทัวร์นำเที่ยวชาวจีน โดยเสี่ยบอยสามารถพูดภาษาจีนได้ ค่อนข้างกว้างขวางในหมู่ธุรกิจนำเที่ยวชาวจีน ก่อนจะมาตกเป็นบุคคลสำคัญในคดี
โดยพบว่านายบอยรู้จักกันว่าเป็น ‘เด็กนาย’ ใหญ่กว่าตำรวจระดับผู้กำกับทุกคนในพื้นที่ จ.ชลบุรี และเป็นบุคคลสำคัญที่สามารถเลือกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบเว็บพนัน และยังพบว่า เว็บพนัน “Foxbet 168” ของกลุ่มนายเป้ ที่ถูกรีด 140 ล้านบาทนั้น นายบอยก็เป็นคนชี้เป้าให้จับกุม
ตอนแรกก็ตั้งใจจะจับกุมดำเนินจริงๆ แต่ก็มีนายบอยมาเป็นคนกลาง อ้างว่าสามารถ รีดทรัพย์สินจากนายเป้ และเครือข่ายได้ จนสุดท้ายทีมของผู้การชลบุรี ก็คล้อยตาม ให้นายบอย เจรจาจนตกลงเป็นเงินก้อนหนึ่ง
เรื่องดำเนินไปด้วยดี แต่สุดท้ายนายบอย กลับมารีดไถเพิ่ม จนกลุ่มนายเป้รับไม่ได้ นำเรื่องไปแจ้งความ สภ.คูคต จนกลายเป็นคดีความใหญ่โต
รอดูว่าจะมีบทสรุปอย่างไร!!
วงจรปิดรีดเป้
■ ชูวิทย์แฉโยงตั้ง ผบ.ตร.
นอกจากเรื่องผู้การชลบุรี คนปัจจุบัน ที่มีปัญหาเรื่องของอดีตผู้การ ก็วุ่นไม่แพ้กัน เมื่อ พล.ต.ต.กิตต์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ประจำ บช.ส. อดีต ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เข้าแจ้งความที่ สภ.ชลบุรี เอาผิดนายตำรวจ ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กลั่นแกล้งให้ได้รับโทษอาญา
จากกรณีการเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาคดี พูลวิลล่า ของแก๊งทวงหนี้โหด เหตุการณ์เมื่อ วันที่ 18 ต.ค.2565 ที่มีกลุ่มชายฉกรรจ์ บุกทำร้ายร่างกายกลุ่มนักท่องเที่ยวบาดเจ็บ ที่พูลวิลล่า ถนนจอมเทียนสาย 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สุดท้ายมีการเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา และตามไปจับคนร้ายตัวจริงได้ที่ รีสอร์ตใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย
เป็นอีกคดีที่อยู่ในความดูแลของบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีความเห็นจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จอมแฉในแวดวงตำรวจ ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการแซะเก้าอี้ ผบ.ตร.คนใหม่ ที่กำลังจะพิจารณาในอีก 2-3 เดือน โดยผู้การชลบุรี เป็นแค่หมากตัวหนึ่ง
บิ๊กโจ๊กแถลง
นอกจากนี้ ‘ชูวิทย์’ ยังระบุว่า วลีที่โด่งดังว่า “เป้รักผู้การเท่าไหร่ ให้เป้เขียนมา” เหมือนมีการเขียนบาท วางงาน ไม่ใช่เรื่องปกติ จึงดูเหมือนว่าเป็นศึกสีกากีมากกว่าเรื่องบังเอิญ ทั้งนี้คนที่แข่งกันสร้างผลงาน ก็เป็นเรื่องปกติ และส่วนใหญ่ไม่มีโจรที่ไหนอยากมีเรื่องกับตำรวจ ถ้าไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ที่มากเกินไป
ส่วนที่โยงใยถึงตำแหน่ง ผบ.ตร. ก็ยังไม่ได้พูดชัดว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร
ต้องรอถึงช่วงการแต่งตั้งโยกย้าย ว่าเรื่องดังกล่าวจะมีผลหรือไม่
อีกไม่นานก็คงรู้กัน!!!
