สมศักดิ์ ชฎารัตน์

อดิศร จิตตเสวี

อดิษัยต์ พรวนพิมพ์

เรื่อง/ภาพ

ย้อนกลับไปวันที่ 6 มี.ค. พ.ต.ท.โสภณ แย้มชมชื่น สว.(สอบสวน) สน. ประเวศ รับแจ้งพบผู้เสียชีวิต บริเวณหอพักไม่มีชื่อ ภายในซอยสงบสุข ถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี (ขาเข้า) ก.ม.1 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม.

สารวัตรโสภณรีบรายงานเหตุให้พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน. ประเวศ รับทราบ ก่อนพากันไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.จตุภูมิ มุดซาเคน รอง ผกก.(สอบสวน) เจ้าหน้าที่สายตรวจ ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช ร.พ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นหอพักสูง 3 ชั้น บริเวณด้านหลังอาคารพบศพชาย ทราบชื่อภายหลังว่านายจอ อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมา สภาพศพสวมเสื้อแขนสั้นสีม่วง กางเกง บ๊อกเซอร์ ถูกปิดด้วยกอหญ้าและแผ่นสังกะสียาว 1 เมตร ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลที่หลังศีรษะยาว 5 ซ.ม. ข้อมือผิดรูปทั้ง 2 ข้าง สภาพศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งไปทั่วบริเวณ เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน

จากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตพักอยู่ที่หอพักดังกล่าว ชั้นที่ 3 ห้องเลขที่ 15 เจ้าหน้าที่จึงได้ขึ้นไปตรวจสอบพบว่าห้องถูกล็อกไว้ จึงได้ประสานผู้ดูแลอาคารมาเปิดประตูห้อง พบว่าภายในห้องไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือการรื้อค้น แต่พบคราบเลือดกระจายตามพื้นห้อง เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบ

พ.ต.อ.อลงกรณ์กล่าวว่า จากการสอบสวนนายเหลา อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมา ซึ่งเป็นเพื่อนผู้ตาย ให้การว่า นายจอทำงานอยู่ที่คาร์แคร์แห่งหนึ่ง โดยอาศัยอยู่กับภรรยาชื่อ น.ส.มอญ อายุ 22 ปี สัญชาติเมียนมา ที่ห้องดังกล่าว ทั้งคู่แต่งงานกันมาประมาณ 1 ปี

ทั้งคู่มักจะมีปากเสียงเรื่องหึงหวงถึงขั้นลงไม้ลงมืออยู่เป็นประจำ จนฝ่ายหญิงเคยบอกว่าจะหนีไปทำงานเป็นแม่บ้านอยู่แถวพระราม 3 ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 8 วัน ฝ่ายหญิงถูกฝ่ายชายตีจนคิ้วแตก แล้วทั้งคู่ก็หายไปไม่มาทำงานเป็นเวลา 3 วัน จนกระทั่งฝ่ายชายถูกพบเป็นศพดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะถูกฆ่าตายภายในห้อง ก่อนจะถูกโยนศพลงมาทางหน้าต่าง สาเหตุน่าจะเป็นเรื่องชู้สาว เพราะฝ่ายชายเป็นคนเจ้าชู้ มีเรื่องทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง

ในเมื่อปกติพักกันอยู่ 2 คน คนหนึ่งกลายเป็นศพอีกคนหายตัวไป ผู้ต้องสงสัยหมายเลข 1 ย่อมหนีไม่พ้นผู้ที่หายตัวไป คดีนี้ก็เช่นกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานจนแน่ใจว่าน.ส.มอญน่าจะมีส่วนรู้เห็นในการตายของสามีอย่างแน่นอน จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดพระโขนง เลขที่ จ95/2561 ลงวันที่ 7 มี.ค. 2561 ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นศพ”

ล่าสุดวันที่ 8 มี.ค. พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ ก็ร่วมกันจับกุมตัวน.ส.มอญได้ภายใน ซ.ศรีนครินทร์ 52 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับหอพักที่เกิดเหตุนั่นเอง

จากการสอบสวน น.ส.มอญให้การภาคเสธในข้อหาฆ่าโดยเจตนา โดยยอมรับว่า ในวันที่เกิดเหตุตนอยู่ในเหตุการณ์จริง โดยก่อนเกิดเหตุมีปากเสียงกับนายจอ เรื่องที่นายจอแอบมีความสัมพันธ์กับหญิงอื่น โดยนายจอได้ขอเลิกแต่ตนไม่ยอมเลิก จากนั้นนายจอได้ใช้มีดแทงใส่ถูกเข้าที่ริมฝีปากด้านล่างจนทะลุ ก่อนจะทะเลาะกันที่หน้าห้องน้ำ ซึ่งอยู่ใกล้กับระเบียง

ตนสู้ไม่ไหวคิดว่านายจอจะต้องฆ่าตนแน่ๆ เลยใช้มือบีบไปที่อวัยวะเพศของนายจออย่างแรงและมีการยื้อแย่งมีดต่อสู้กัน กระทั่งนายจอพลัดตกจากระเบียงห้องชั้น 3 ลงไปด้านล่างอาคาร เมื่อตนเห็นนายจอตกลงไปจึงลงไปดู และเอามือไปอังที่จมูก พบว่านายจอไม่มีลมหายใจแล้ว จึงเดินกลับขึ้นมาบนห้องพัก และใช้ผ้าซับเลือดบริเวณปากจนถึงเช้า ก่อนจะออกจากห้องพักหลบหนีไป

เย็นวันเดียวกัน พ.ต.อ. อลงกรณ์ พร้อมเจ้าหน้าที่นำตัวน.ส.มอญมาชี้จุดทำแผน ประกอบคำรับสารภาพ โดยใช้เวลาในการทำแผนฯ ประมาณ 30 นาที

จุดแรกภายในห้องพักเลขที่ 5 ชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องพักเกิดเหตุ จากนั้นได้เข้าไปชี้จุดที่เกิดการทะเลาะโต้เถียงกันภายในห้องพัก ก่อนที่นายจอจะหยิบมีดมาแทงเข้าที่ริมฝีปากด้านล่างของน.ส.มอญจนทะลุ โดยได้บีบคอและเอามีดมาจี้ที่คอ ก่อนที่น.ส.มอญจะต่อสู้ใช้มือบีบอัณฑะของนายจอ

ซึ่งมีการต่อสู้กันหน้าห้องน้ำที่อยู่ติดกับริมหน้าต่างที่มีความสูงขอบหน้าต่างประมาณ 1 เมตร ขณะต่อสู้นั้นหน้าต่างได้เปิดอยู่แล้ว น.ส.มอญดันตัวนายจอติดขอบหน้าต่างระหว่างนั้นยังบีบอวัยวะเพศของนายจออยู่ จากนั้นจึงได้เอามือจับขาของนายจอยกขึ้น นายจอจึงตกลงไปยังด้านล่างของอาคารดังกล่าว

จุดที่สองบริเวณด้านหลังอาคาร ซึ่งน.ส.มอญลงมาดูว่าเสียชีวิตแล้วหรือไม่ เมื่อพบว่าไม่มีลมหายใจแล้ว จึงนำเศษหญ้าแห้งมาปิดบังศพไว้ พร้อมกับน้ำแผ่นสังกะสีใสมาบังศพไว้อีกชั้นหนึ่ง ส่วนจุดที่ 3 บริเวณปากซอยสงบสุข ริมถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี (ขาเข้า) ก.ม.1 ซึ่งเป็นจุดที่น.ส.มอญใช้ในการหลบหนี

เมื่อมีผู้เสียชีวิตก็ต้องมีผู้รับผิดชอบ ส่วนจะเป็นการป้องกันตัวหรือเจตนาฆ่าก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน