อณุวัสส์ ศิวราศักดิ
เรื่อง/ภาพ
ย้อนไปเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 มี.ค. ที่ สภ. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ พล.ต.ต. ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบก. พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย ผกก.3 บก.ทท.1 นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รอง ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สายปฏิบัติการ 1
ร่วมกันแถลงจับกุมกลุ่ม ผู้ต้องหา 8 คนซึ่งเป็นพนักงานโหลดอาหารขึ้นเครื่องบิน หลังก่อเหตุร่วมกันลักทรัพย์สินค้าดิวตี้ฟรีบนเครื่องบินของสายการบินบริติช แอร์เวย์ ขณะจอดอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ทั้ง 8 รายประกอบด้วย นายศรายุธ สุขทอง อายุ 26 ปี นายวรากร สิงขรณ์ อายุ 32 ปี ตำแหน่งพนักงานขับรถ นายอธิวัฒน์ มณีนพ อายุ 27 ปี นายบุญเลิศ อุปสัย นายณัฐพล จาดโห้ อายุ 28 ปี นายวิษณุ รำมะนา อายุ 21 ปี ตำแหน่งพนักงานขนถ่ายสัมภาระ
น.ส.กมลทิพย์ รักขพันธ์ อายุ 25 ปี และนายธวัชชัย เอมโอช อายุ 24 ปี ตำแหน่งหัวหน้าควบคุมการทำงาน ซึ่งทั้งหมดเป็นพนักงานของบริษัทสกายเชฟ (LSG) ทำหน้าที่โหลดอาหารขึ้นเครื่องบิน พร้อมของกลางสินค้าแบรนด์เนม จำพวกนาฬิกา น้ำหอม กระเป๋า เครื่องสำอาง รวม 181 รายการ มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท
พล.ต.ต.ธรรมนูญเปิดเผยที่มาที่ไปของคดีดังกล่าวว่า ช่วงกลางเดือนก.พ.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตัวแทนสายการบินบริติช แอร์เวย์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าถูกคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ก่อเหตุลักทรัพย์สินมีค่า ประเภทสินค้าปลอดอากรที่จัดเตรียมเอาไว้จำหน่ายให้ผู้โดยสารบนเครื่องบินระหว่างเดินทาง โดยตัวแทนสายการบินบริติช แอร์เวย์ ให้ข้อมูลกับตำรวจอีกว่าที่ผ่านมาเกิดเหตุมาแล้วถึง 12 ครั้ง
พล.ต.ต.ธรรมนูญเปิดเผยต่อว่า จากการสืบสวนและตรวจสอบตารางการทำงานของพนักงานขนถ่ายสัมภาระประเภทอาหาร หรือพนักงานโหลดอาหารขึ้นเครื่อง ของบริษัทสกายเชฟ หรือ LSG ที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ทรัพย์สินสูญหาย พบว่า ตรงกับบุคคลต้องสงสัยว่าอาจมีส่วนในการกระทำผิดครั้งนี้จำนวน 8 ราย เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวมาสอบสวนจนในที่สุดก็ให้การรับสารภาพ และนำเจ้าหน้าที่ไปตรวจยึดทรัพย์สินที่ขโมยมาได้ จำนวน 181 รายการดังกล่าวข้างต้น
ขณะที่พ.ต.อ.ชูตระกูล ผู้กำกับโรงพักท่าอากาศยานสุววรณภูมิ กล่าวเสริมว่า พฤติกรรมการก่อเหตุของผู้ต้องหากลุ่มนี้จะอาศัยช่องว่างในช่วงที่นำอาหารขึ้นไปโหลดไว้บนเครื่องบิน โดย 1 ชุดปฏิบัติงานจะมี 3 คน คือหัวหน้าคุมงาน พนักงานขนถ่ายสัมภาระ และพนักงานขับรถ
ซึ่งขณะลงมือก่อเหตุทั้ง 3 คนจะแบ่งหน้าที่การทำงานกัน โดยหัวหน้าทีมจะเป็นคนดูต้นทาง ส่วนอีก 2 คนจะเป็นคนลักทรัพย์ จากนั้นจะนำทรัพย์สินที่ได้ไปแบ่งกัน บางคนนำไปใช้เอง บางคนนำไปจำนำหรือนำไปโพสต์ขายต่อในราคาถูกทางออนไลน์
“โดยหลังก่อเหตุตำรวจใช้เวลาสืบสวนตามแกะรอยผู้ต้องสงสัยประมาณ 1 เดือน จนแน่ชัดว่าผู้ต้องหาทั้ง 8 คนคือกลุ่มคนทำงานในช่วงเวลาเกิดเหตุ เบื้องต้นจึงเชิญตัวนายศรายุทธมาสอบถามข้อมูล จนให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุลักทรัพย์สินประเภทนาฬิกา น้ำหอม แว่นตา และสินค้าประเภทอื่นๆ จากตู้ปลอดอากรของสายการบินดังกล่าวจริง และมีผู้ร่วมกระทำความผิดอีก 7 คน จึงไปเชิญตัวมาสอบสวน ก่อนที่ทั้งหมดจะเปิดปากให้การรับสารภาพ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ หรือรับของโจรนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย” พ.ต.อ.ชูตระกูลกล่าว
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สายการบินบริติช แอร์เวย์ และบริษัทสกายเชฟ (ขนถ่าย อาหารขึ้นเครื่อง) ได้มาประชุมร่วมมือกัน เพื่อร่วมกันวางมาตรการป้องกันและปราบปรามการลักทรัพย์
โดยจะมีการนำแนวคิดใช้ทฤษฎีสามเหลี่ยมอาชญากรรม ซึ่งประกอบด้วยคนร้าย เหยื่อและโอกาสมาใช้ โดยพยายามมุ่งตัดวงจรอาชญากรรมไม่ให้ครบองค์ประกอบ เมื่อวงจรอาชญากรรมไม่ครบองค์ประกอบการกระทำความผิดก็จะไม่เกิดขึ้น
จะกำหนดรูปแบบ ความร่วมมือ หรือเอ็มโอยู ให้ทุกหน่วยปฏิบัติในรูปแบบเดียวกัน อีกทั้งยังมีการร่วมประชุมวางมาตรการป้องกันเหตุลักทรัพย์ขึ้นทุกเดือน โดยทุกหน่วยจะขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ และเกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด
ทั้งนี้ จะนำหลักการไปใช้กับสายการบินและบริษัทที่ร่วมปฏิบัติงานภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทั้งหมด เพื่อป้องกันการก่อเหตุ ทั้งนี้ หากพนักงานผู้ใดพบเห็นการกระทำความผิดก็สามารถแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำไปสู่การขยายผลจับกุมผู้กระทำความผิดต่อไป
ความปลอดภัยในสนามบินนานาชาติทั่วโลกถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง แม้งานนี้ผู้โดยสารไม่เดือดร้อน แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสายการบินต่างชาติก็ลดความน่าเชื่อถือด้านความปลอดภัยของสนามบินลงไป จึงเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องเร่งจับกุม
