ธิดารัตน์ เศรษฐแสงศรี

เรื่อง/ภาพ

“มึงจะมาเป็นลูกเขยหรือมาเป็นพ่อตา กูวะ” เป็นคำพูดที่ชาวบ้านสมสนุก ต.สมสนุก อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ มักได้ยิน นายสิงห์ บัวซุย อายุ 73 ปี ตะคอกใส่ นายอำนาจ ขวัญยืน อายุ 47 ปี ลูกเขยตัวแสบ เป็นประจำ ด้วยทั้งคู่ไม่ต่างกับไม้เบื่อไม้เมากันมานาน มักมีเรื่องด่าทอกันแทบทุกครั้งที่เจ้าลูกเขยแสบมีอาการเมาจนได้ที่

จึงไม่น่าแปลกใจที่ภายหลังเกิดเหตุการณ์ นายสิงห์ใช้มีดฟันนายอำนาจจนเสียชีวิต ชาวบ้านจึงพากันเห็นอกเห็นใจนายสิงห์ ด้วยรู้ซึ้งถึงพฤติกรรมของผู้ตายเป็นอย่างดี แถมบางรายแอบโล่งใจเสียด้วยซ้ำ

เรื่องราวของทั้งคู่เปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 11 มี.ค. ร.ต.อ.ธีรวิศิฐษ์ จินจันดา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากคาด อ.ปากคาด รับแจ้งเหตุฆ่ากันเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 120 ม.4 บ้านสมสนุก ต.สมสนุก อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.อารัก มะสาธานัง ผกก.สภ.ปากคาด พ.ต.ท.เหรียญ บัวลา รองผกก.(ป.) ชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลปากคาด และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมังกร

ที่เกิดเหตุบริเวณลานหน้าบ้านพักในป่าสวนยางพารา พบศพ นายอำนาจ ขวัญยืน อายุ 47 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตจมกองเลือด สภาพศพไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงยีนส์ขายาว มีบาด แผลถูกฟันด้วยมีดพร้าเข้าที่บริเวณใบหน้า ศีรษะ ด้านหลัง หัวไหล่ซ้าย 8 แผล โดยแต่ละแห่งเป็นแผลฉกรรจ์ที่ทำให้ถึงตายได้ทั้งสิ้น

จากการตรวจสอบข้างศพมีมีดพร้าขนาดยาวประมาณ 50 ซ.ม. ซึ่งเป็นของ ผู้เสียชีวิตตกอยู่ ส่วนมือมีดคู่กรณีถือมีดพร้าขนาดความยาวประมาณ 50 ซ.ม. เปื้อนเลือดนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ไผ่ข้างบ้านรอ มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบสวนทราบชื่อคือนายสิงห์ บัวซุย อายุ 73 ปี ซึ่งเป็นพ่อตาและเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุดังกล่าว

พ่อเฒ่าสิงห์ให้การว่า นายอำนาจเป็นลูกเขย ของตน โดยแยกตัวออกไปสร้างบ้านอยู่ในป่าสวนยางพาราที่อยู่ไม่ห่างกันนักกับลูกสาว แต่ที่ผ่านมาเจ้าตัวงานการก็ไม่ค่อยทำ วันไหนขายยางได้ก็นำไปซื้อเหล้ามาดื่มจนเมามาย พอเมาได้ที่ก็มักหาเรื่องทะเลาะกับภรรยาและตนเป็นประจำ สร้างความรำคาญให้กับเพื่อนบ้านใกล้เคียงแต่ก็ไม่มีใครอยากมีเรื่องด้วยจึงได้แต่อดทนกันมา

ที่ผ่านมาตนพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะคารม และบอกกล่าวตักเตือนลูกเขยเวลาไม่เมาเพื่อให้สติแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะหากไม่เมาก็ยังพอพูดกันได้ แต่ก็ไม่ยอมปรับปรุงตัวเสียที จนตนเกิดอารมณ์โมโหหลายครั้งก็ตะคอกใส่หน้าไปว่า “มึงจะมาเป็นลูกเขยหรือมาเป็นพ่อตากูวะ”

พ่อเฒ่าให้การถึงนาทีเกิดเหตุว่า นายอำนาจเมากลับมาจากงานบุญในหมู่บ้าน และนำเอาปืนแก๊ปออกมาเล็งปากกระบอกปืนทำท่าจะยิงหลานสาว ตนจึงเข้าไปห้าม ก็ท้าตีท้าต่อยขู่อาฆาตจะฆ่าให้ตายยกครัว จังหวะนั้นเองนายอำนาจถือมีดพร้าวิ่งออกมาจากบ้านปรี่เข้ามาจะฟันตน

ตนจึงคว้าเอามีดพร้าซึ่งใช้ผ่าฟืนที่วางอยู่ใกล้ๆ แล้วแกว่งสวนไปข้างหลัง เป็นจังหวะที่นายอำนาจวิ่งเข้ามาถึงตัว จึงโดนคมมีดเข้าหน้าผากเลือดอาบหน้าเซถลาไป ตนเห็นดังนั้นจึงเข้าไปฟันซ้ำ จนล้มหน้าคว่ำลงกับพื้นแล้วมีดพร้าหลุดมือ จึงฟันซ้ำอีกหลายทีจนตายคาที่

วันรุ่งขึ้นภายหลังตำรวจควบคุมตัว พ่อเฒ่าสิงห์ ส่งดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตาย พ.ต.ท.เหรียญ บัวลา รอง ผกก.ป.สภ.ปากคาด จ.บึงกาฬ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ธีรวิศิฐษ์ จินจันดา รองสารวัตร (สอบสวน) เจ้าของคดี และตำรวจชุดสืบสวน จะควบคุมตัวนายสิงห์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านหลังดังกล่าว

ขณะที่เดินลงจากรถตำรวจเข้าไปหน้าบ้านจุดเกิดเหตุ มีญาติพี่น้องและประชาชนที่ทราบข่าวได้มารอดูเหตุการณ์และแสดงความเห็นอกเห็นใจ พร้อมกับกล่าวให้กำลังใจที่กล้าหาญสู้กับลูกเขยที่หนุ่มกว่า ขณะที่เดินถึงโต๊ะไม้ไผ่ลูกๆ ยังได้เตรียมสำรับกับข้าวเป็นต้มไก่ดำที่เลี้ยงเอง ปลานึ่ง ผักลวก และตำแจ่วไว้รอกินด้วย

พ่อเฒ่าสิงห์เผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ารู้สึกเสียใจ แต่คิดดูอีกทีถ้าหากตัวเองไม่ทำ ก็อาจจะถูกลูกเขยฟันตายไปก่อนเช่นกัน ยอมรับว่าเหลืออดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากลูกเขยเมามาทีไรก็ทะเลาะทุบตีลูกสาวตนตลอดเวลา นอกจากนั้นเมื่อวานนี้ก็ยังได้นำปืนแก๊ปออกมาขู่จะยิงหลานสาวอีกคนที่ตนดูแลอยู่ จึงได้เข้าไปห้ามปรามแต่ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้ลูกเขย จนเป็นเรื่องให้เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดขึ้นดังกล่าว

“ตอนนี้เป็นห่วงก็แต่ภรรยาตน ซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จะขาดคนดูแลใกล้ชิดพาไปนู่นไปนี่ และหาข้าวให้กิน เพราะลูกๆ ต่างแยกย้ายกันไปมีครอบครัวหมดแล้ว ส่วนค่าใช้จ่ายในครอบครัวนั้น ผมเป็นคนหาเงินมาจุนเจือ มีรายได้จากการเก็บหาฟืนจากกิ่งไม้ยางพารามาเผาถ่านใส่ถังแดง ทำเป็นถ่านแท่งขายกระสอบละ 150 บาท วันหนึ่งก็จะได้ประมาณ 2 กระสอบ เป็นเงิน 300 บาทเท่านั้น และมีเงินผู้สูงอายุที่จะมาช่วยเหลือเป็นรายเดือน หากได้อยู่ในคุกภรรยาก็คงลำบากแน่นอน” พ่อเฒ่าสิงห์กล่าวเสียงเศร้า

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จ พนักงานสอบสวนนำตัวนายสิงห์ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดบึงกาฬต่อไป

แม้จะเห็นใจ แต่เมื่อทำผิดกฎหมาย ก็ต้องถูกดำเนินคดี คงได้แต่หวังความเมตตาของศาลเป็นที่พึ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน