ทรงศักดิ์ ศุภการ

เรื่อง/ภาพ

ขึ้นชื่อว่าลูกผู้ชาย เรื่องจะยอมให้ใครมาหยามศักดิ์ศรีง่ายๆ เป็นไม่มี โดยเฉพาะเรื่องหญิง ยิ่งเป็นเมียรักด้วยแล้ว แค่ชำเลืองมองก็อาจถึงขั้นมีเรื่อง ชกต่อยกันได้ง่ายๆ ไม่ต้องคิดเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าหาก มาเจอทั้งคู่อยู่ในห้องสองต่อสอง

วันที่ 14 มี.ค. ร.ต.อ.สมยศ อิ้ววังโส รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ละแม จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุมีคนถูกทำร้ายเสียชีวิต ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 6 ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต. สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ ขวัญศรี ผกก.สภ.ละแม, พ.ต.ท.นวัชนันท์ ศิธราชู รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.สุชาติ พิเคราะห์ รอง ผกก.สส., พ.ต.ต.เกรียงศักดิ์ บัวเพชร สว.สส., เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน, เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน, นายสุพัชพงศ์ วรประดิษฐ์ นายอำเภอละแม และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยละแม สมาคมพุทธประทีปหลังสวน

ที่เกิดเหตุริมถนนสายเอเชีย 41 ขาล่องใต้ ท่ามกลางสวนปาล์ม กว่า 50 ไร่ พบเป็นรีสอร์ตหรูขนาดใหญ่ จากการตรวจสอบภายในห้องพักเลขที่ 11 พบศพนายภานุพัฒน์ ศิริโชติ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134/16 หมู่ 1 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี อาชีพพ่อค้าผัก-ผลไม้ นอนจมกองเลือดอยู่บนเตียง มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีด พกสั้นเข้าที่หัวใจ 1 แผล ภายในตัวยังมีเงินสดและทรัพย์อยู่ครบ

ส่วนภายในห้องมีร่องรอยการต่อสู้ ประตูห้องน้ำถูกแทงจนกระจกประตูแตก รอยเลือดกระจัดกระจายไปทั่วห้อง นอกจากนี้ยังพบ มีดพกสั้นด้ามหักหล่นอยู่ใต้เตียง โดยยังพบรอยหยดเลือดจากในห้องออกไปด้านนอก ส่วนที่ข้างห้องมีรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ผฉ-506 สุราษฎร์ธานี บรรทุกผลไม้เต็มคันของผู้ตายจอดอยู่

สอบสวนแม่บ้านของรีสอร์ตดังกล่าวเล่าว่า เมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา ผู้ตายเข้ามาเปิดห้องพักพร้อมกับหญิงสาวรูปร่างหน้าตาดี อายุไม่เกิน 30 ปี ต่อมาได้มีชายที่คาดว่าเป็นคนร้าย อายุประมาณ 40 ปี ขับรถกระบะสีขาว ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน ตามเข้ามาจอด ที่หน้าห้องพัก ก่อนจะมีเสียงเรียกให้เปิดห้อง แต่ไม่มีใครสนใจ จนกระทั่ง มาพบว่าผู้ตายถูกแทงเสียชีวิตดังกล่าว

คดีนี้ตำรวจไม่ต้องคิดให้ปวดหัว ก็รู้ได้ทันทีว่าสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพค้าขายผักและผลไม้ระหว่าง กทม.-สุราษฎร์ธานี มีฐานะเข้าขั้นเศรษฐี แต่ยังคงชอบขับรถส่งผลไม้ด้วยตนเองอยู่เสมอ คาดว่าน่าจะมาพบกับหญิงสาวหน้าตาดี ก่อนมีสัมพันธ์ลึกซึ้งและนัดมาพบกันที่รีสอร์ตแห่งนี้บ่อยครั้ง

กระทั่งคนร้ายซึ่งคาดว่าเป็นคนรักหรืออดีตคนรัก เกิดระแคะระคายติดตามมาถึงรีสอร์ต ก่อนเข้าไปก่อเหตุจนเกิดการต่อสู้กัน ทำให้ผู้ตายถูกแทงเข้าที่หัวใจเสียชีวิตคาที่ แล้วพาตัวผู้หญิงออกไปจากห้องพัก หลบหนีไป ซึ่งหากรู้ตัวหญิงสาวที่ผู้ตายพามาก็จะรู้ตัวผู้ก่อเหตุ

พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ ขวัญศรี ผกก.สภ.ละแม จ.ชุมพร จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ พร้อมกับติดตามตัวหญิงสาวที่มากับผู้ตาย จนกระทั่งช่วงดึกที่ผ่านมา ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจากพื้นที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี มายัง สภ.ละแม เพื่อสอบปากคำ พร้อมหลักฐานเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุรวมทั้งหลักฐานอื่นๆ

ศาลจังหวัดหลังสวนออกหมายจับชายคนดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือนายชยันต์ เรืองคง อายุ 27 ปี หรือฉายา “บอย หลังสวน” ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ขณะที่นายชยันต์ยังคงไม่ให้ปากคำอะไรมากนัก และมีท่าทีเคร่งเครียด รวมถึงไม่ยอมบอกว่าภรรยาของตัวเองที่นำออกมาจากจุดเกิดเหตุไปอยู่ที่ไหน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้เค้นสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

วันที่ 16 มี.ค. พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ตร.ชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ ขวัญศรี ผกก.สภ.ละแม พ.ต.ท.นวัชนันท์ ศิธราชู รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.เกรียงศักดิ์ บัวเพชร สว.สส. ตำรวจ นปพ. ตำรวจสายสืบละแม สายตรวจ ร่วม 50 นาย นำตัวนายชยันต์ เรืองคง หรือ บอย หลังสวน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่รีสอร์ตที่เกิดเหตุ

“ผมรู้ระแคะระคายว่า เมียคุยแช็ตเฟซบุ๊กกับชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่ จึงเฝ้ามองมาตลอด จนในวันที่เกิดเหตุ เมียผมขับรถออกไปนอกบ้าน ผมจึงไปยืมรถเพื่อนขับตามไป จนพบว่าคนทั้ง 2 คน นัดเจอกันที่ห้องหมายเลข 11 ในรีสอร์ตหรูดังกล่าว ผมตะโกนให้เปิดประตูแต่เขา ไม่ยอมเปิด เลยตัดสินใจบุกพังประตูเข้าไป และเกิดการต่อสู้กับคนตาย ผมใช้มีดแทงใส่ผู้ตาย 1 ครั้ง แล้วพาเมียไปส่งที่บ้าน ก่อนหลบหนีไปในพื้นที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี จนถูกตำรวจติดตามจับกุมได้” นายชยันต์ให้การเสียงเศร้า

“ขอชมเชยตำรวจ สภ.ละแม ที่เก็บข้อมูลรู้จักตัวคนร้ายและ รู้ทิศทางการหลบหนี จนทราบที่หลบซ่อนตัวและนำไปสู่การจับกุมได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาเพียง 12 ช.ม. ก็สามารถปิดคดีลงได้” ผบก.ตร.ชุมพรกล่าวชื่นชมชุดคลี่คลายคดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน