พิมพร อยู่รุ่ง – เรื่อง/ภาพ

วัยรุ่นวัยแห่งความร้อนแรง เพียงแค่ไม่ชอบหน้ากัน แม้เพียงแรกเจอหน้า ไม่ทันได้พูดคุยรู้จักก็อาจเป็นเรื่องเป็นราวได้ ยิ่งหากมีสุราเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องก็กลายเป็นเหตุการณ์ สยองได้

บ่ายวันที่ 22 มี.ค. พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.หัวหิน พ.ต.ท.เสมอ อยู่สำราญ รอง ผกก.ป. พร้อมกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.หัวหิน ควบคุมตัว นายจ๊อบ อายุ 19 ปี และนายอ้น อายุ 19 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

หลังร่วมกับ 2 พี่น้อง นายเพชร อายุ 19 ปี และ นายอิฐ น้องชายวัย 18 ปี ที่ยังหลบหนี ใช้อาวุธปืนจ่อยิง นายกิตติชัย บุญราช อายุ 24 ปี กุ๊กร้านอาหารแห่งหนึ่งในหัวหินเสียชีวิต เมื่อตี 3 วันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งคู่สารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุไปดื่มสุรามาแล้วขี่รถสวนกับผู้ตายบริเวณสวนหลวงราชินี และมองหน้าหาเรื่องกันจนทะเลาะวิวาท จากนั้นจึงขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามกันไปใช้อาวุธปืนยิงจนกระเด็นตกจากรถเสียชีวิตคาที่ แล้วพากันขี่รถหลบหนีจนกระทั่งถูกจับ

ด้านพ.ต.อ.ธนากรกล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามจับตัวคนร้ายอย่างเร่งด่วนเพราะเป็นคดีสะเทือน ขวัญประชาชน จนทราบว่าผู้ต้องหามีทั้งหมด 4 คน จากนั้นรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดหัวหินออกหมายจับ ก่อนติดตามจับกุมนาย จ๊อบ และนายอ้นไว้ได้ ส่วนอีก 2 คน ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีกำลังไล่ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

ย้อนไปเมื่อเวลา 03.00 น. วันจันทร์ ที่ 19 มี.ค. ร.ต.อ.จารึก คงกระเรียน รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรหัวหิน รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตบนถนนเพชรเกษม ใกล้สี่แยกไฟแดงหัวหินทันสมัย เขตเทศบาลเมืองหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

จึงรีบรายงานให้ พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.หัวหิน, พ.ต.ท.เสมอ อยู่สำราญ รอง ผกก.ป. รับทราบ ก่อนร่วมลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยชุดสืบสวนสอบสวน เจ้าหน้าที่ พฐ. แพทย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างหัวหิน ธรรมสถาน

จุดเกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่บนถนนใกล้เกาะกลางถนน ลักษณะนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด บริเวณศีรษะถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด สอบสวนทราบชื่อต่อมาคือ นายกิตติชัย บุญราช หรือนัด อายุ 24 ปี เป็นชาว อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในที่เกิดเหตุยังพบเพื่อนผู้ตาย (ขอสงวนชื่อ) และรถจักรยาน ยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซูมเมอร์ หมายเลขทะเบียน 1 กญ 8369 ประจวบคีรีขันธ์ จอดอยู่

ตำรวจสอบสวนเพื่อนผู้ตายที่มา ด้วยกันทราบว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาได้ชักชวนกันไปดื่มสุราที่ริมชายทะเล บริเวณสวนหลวงราชินี โดยระหว่างที่กินเหล้าไม่ได้มีเรื่องกับใคร จากนั้นได้ชักชวนกันกลับบ้าน ขณะที่ขับรถมา ระหว่างทางตามถนนเพชรเกษม เมื่อใกล้ถึงแยกหัวหินทันสมัย ขณะนั้นพบว่า มีคนขับรถจักรยานยนต์ตามมา 2 คัน จากนั้นหนึ่งในคนร้ายได้ชักอาวุธปืน ไม่ทราบชนิดออกมายิงใส่ ผู้ตายซึ่งเป็นคนซ้อนท้ายถูกกระสุนเข้าอย่างจังถึงกับฟุบลงกับแผ่นหลัง แล้วรถของคนร้าย ได้วกขี่ย้อนศรหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

“ผมร้องบอกให้เพื่อนกอดเอว ไว้ให้แน่นๆ เพื่อจะพาไปส่งโรงพยาบาล แต่เพื่อนถูกยิงเข้าที่ศีรษะจึงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ร่างจึงร่วงลงมาจากรถจักรยานยนต์ ก่อนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ” พยานให้การ

หลังสอบสวนผู้กำกับการสถานีตำรวจ ภูธรหัวหินสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรวบ รวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมด รวมทั้งไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางถนนเพชร เกษม จากจุดที่ทั้งคู่นั่งดื่มกินกันอยู่จน มาถึงที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามตัวคนร้าย มาดำเนินคดีโดยเร็ว

บ่ายวันเดียวกัน พ.ต.อ.ธนากรเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจทีมสืบสวนสอบสวนเพื่อสรุปความคืบหน้าของคดี โดยเร่งสอบปากคำเพื่อนผู้เสียชีวิตที่ รอดชีวิตจากเหตุจ่อยิง ซึ่งถือเป็นพยานสำคัญที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งเร่งแกะรอยคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างอุกอาจ เพื่อหาทิศทางการหลบหนีและแกะรอยถึงตัวผู้กระทำผิด

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดไม่พบปลอกกระสุนปืน ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นคาดว่าอาวุธปืนที่คนร้ายใช้จ่อยิงนายกิตติชัยขณะ ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบนั้นน่าจะเป็นอาวุธปืนลูกซองสั้น ซึ่งใกล้เคียง กับสภาพศพที่ตรวจพบว่ามีกระสุนลูกปลายเข้าที่จุดสำคัญบริเวณศีรษะ และ เข้าที่โหนกแก้ม กกหู คอ และหัวไหล่

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนเส้นทาง รวมทั้งสอบสวนพยานจนทราบตัวผู้ก่อเหตุ จนนำมาสู่การจับกุมนายจ๊อบและนายอ้น กระทั่งนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ วันรุ่งขึ้น 23 มี.ค.

ชุดสืบสวนสืบทราบว่านายเพชร อายุ 19 ปี ชาว อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี มือปืนหนีไปหลบซ่อนที่บ้านพี่สาวที่ จ.กำแพงเพชร จึงประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กำแพงเพชร จนสามารถจับกุมตัวได้ ก่อนควบคุมตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ. หัวหิน จนยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือยิงนายกิตติชัยเอง

ส่วนนายอิฐซึ่งเป็นน้องชายก็ไม่รอด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.หัวหิน ติดตามไปจับตัวได้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นรายสุดท้าย ก่อนนำตัวกลับมา สอบสวนดำเนินคดี ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ที่ สภ.หัวหิน

1 ชีวิตต้องสูญเสีย 4 ชีวิตหมดสิ้นอิสรภาพ เพราะความใจร้อนและเมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน