นพรัตน์ คุ้มศรี, พิชัย ศรีรุ่งเรือง

เรื่อง/ภาพ

“ไม่เอา ไม่เอา หนูไม่ยอม หนูไม่เอา” เสียงร้องอ้อแอ้ของหญิงสาวที่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ สร้างความสนใจให้ นายสิทธิพงษ์ อาจใจ อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหนุ่ม ขณะขี่รถจักรยานยนต์ออกตรวจพื้นที่ภายใน นิคมอุตสาหกรรมนวนคร ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

เมื่อเจ้าตัวตามไปยังที่มาของเสียง ก็เห็นมีผู้หญิงกับผู้ชายยืนเถียงกันอยู่ ตอนแรกก็คิดว่าเป็นแฟนกัน แต่มาเอะใจที่เห็นหญิงสาวอยู่ในสภาพเมามาย ร้องว่า “หนูไม่ยอม หนูไม่เอา” เจ้าตัว จึงไปเรียกเพื่อน รปภ.ให้มาช่วยกันตรวจสอบ ก่อนจะกลายเป็นว่า สามารถช่วยหญิงสาวรายดังกล่าวให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของหนุ่มหื่นมาได้

ย้อนไปเมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 26 มี.ค. ร.ต.อ.โสภณ สรรพศรี ร้อยเวร สภ. คลองหลวง รับแจ้งเหตุมีผู้หญิงถูกคนร้ายฉุดเข้าป่าภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร (หลังแยกแอดบูม) จึงไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวง และรถ กู้ชีพเทศบาลเมืองท่าโขลง

ที่เกิดเหตุเป็นป่าต้นกระถิน ข้างทางพบหญิงสาวทราบชื่อ น.ส.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี สภาพเมาพูดจาอ้อแอ้ไม่รู้เรื่อง สวมเสื้อสีเหลือง กางเกงขาสั้น เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามก็เอาแต่ร้องอยากกลับบ้านอย่างเดียว บริเวณขาพบบาดแผลถูกลากเข้าไปในป่า และในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์ สีเขียวอ่อน จอดอยู่

นายสิทธิพงษ์เล่าเหตุการณ์ว่า ขณะตนขี่รถจักรยานยนต์ออกตรวจพื้นที่และมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุเห็นมีผู้หญิงกับผู้ชายยืนเถียงกันอยู่ ซึ่งตนเองคิดว่าทั้ง 2 คนเป็นแฟนกัน แต่ผู้หญิงร้องมาว่า หนูไม่ยอม หนูไม่เอา ตนจึงได้ไป เรียกเพื่อน รปภ.มาช่วย แต่เมื่อกลับมาก็พบว่าผู้หญิงถูกฉุดเข้าไปนอนอยู่ในป่า และผู้ชายก็หายไป จึงช่วยออกมา ก่อนแจ้งตำรวจ

ต่อมามี น.ส.นี (สงวนชื่อ-นามสกุล) และเพื่อนๆ น.ส.น้ำ มาที่เกิดเหตุ พร้อมให้การว่า ตนเองพร้อมเพื่อนๆ และน.ส.น้ำไปเที่ยวที่โรงเหล้าแสงจันทร์นวนคร เมื่อร้านปิดก็ กำลังจะกลับห้องพัก แต่น.ส.น้ำเมามาก จึงรอขึ้นแท็กซี่กลับ แต่ระหว่างนั้นก็ได้มีชายอายุประมาณ 25-30 ปี ใส่ชุดสีดำ อ้างตัวว่าเป็นการ์ดของร้านเข้ามาช่วยประคองน.ส.น้ำขึ้นรถแท็กซี่

จากนั้นผู้ชายคนนั้นก็ได้ขึ้นรถแท็กซี่มากับพวกตนด้วย พอรถแท็กซี่มาจอดที่หน้าหอพักที่ตนอยู่ ผู้ชายที่อ้างตัวว่าเป็นการ์ดก็อุ้มน.ส.น้ำลงมาจากรถ ก่อนจะอาสาขับรถจยย.พาน.ส.น้ำไปส่งต่อที่ห้องพักที่อยู่คนละซอยกัน โดยมีเพื่อนๆ คอยเดินตามมา แต่พอใกล้ปากทางเข้าซอยผู้ชายคนดังกล่าวกลับเร่งเครื่อง รถพาน.ส.น้ำหนีไปอย่างรวดเร็ว พวกตนพยายามตามหาจนมาพบว่าเพื่อนถูก ฉุดเข้าไปในป่าข้างทาง และมีแหวนทอง หายไป 1 วง

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ศราวุธ ศรีสุขสิริพันธ์ ผกก.หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง และ พ.ต.ต.สามารถ เปาจีน สว.สส.สภ.คลองหลวง รีบสั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามหาตัวคนร้าย โดยประสานขอภาพวงจรปิดบริเวณหน้าร้านเหล้ามาตรวจสอบ ก่อนจะพบภาพเหตุการณ์ตามที่พยานให้การ ขณะที่การตรวจสอบภาพจากวงจรปิดของหอพักของเพื่อนน.ส.น้ำ ก็พบว่าสามารถบันทึกภาพคนร้ายเอาไว้ได้ชัดเจน ขณะที่เข็นรถจยย.มาหน้าหอพัก

บ่ายวันนั้น ตร.นำภาพคนร้ายหื่นไปให้น.ส.น้ำชี้ยืนยัน ซึ่งเจ้าตัวพอจำได้คุ้นๆ ว่าคล้ายกับคนส่งแก๊ส ที่อยู่แถวซอยวัดคุณหญิงส้มจีน

ชุดสืบสวนไม่รอช้ารีบลงพื้นที่ไปตรวจสอบทันที และก็ ไม่ผิดหวังเมื่อสามารถจับกุมนายสนธยา มะนาวหวาน อายุ 25 ปี ชาว อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี คนร้ายที่ก่อเหตุได้ในช่วงค่ำวันเกิดเหตุนั่นเอง

พ.ต.ต.สามารถเผยว่า หลังจากได้ภาพจากกล้องวงจรปิดมาแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาเป็นพนักงานส่งแก๊สอยู่ภายในซอยวัดคุณหญิงส้มจีน จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ขณะที่นายสนธยาสารภาพว่า ตนทำงานเป็นเด็กส่งแก๊สอยู่ภายในซอยโรงเรียนวัด คุณหญิงสมจีน วันเกิดเหตุ ไปกินเหล้าที่ร้านแสงจันทร์เป็นปกติ ขณะกำลังจะกลับบ้านก็พบเห็นกลุ่มผู้เสียหายกำลังจะขึ้นรถด้วยอาการมึนเมา และไม่มีแรงที่จะพยุงเพื่อน ตนจึงเข้าไปอาสาพยุงขึ้นรถและได้ขึ้นรถไปด้วย

“พอไปถึงหน้าหอพักของเพื่อนผู้เสียหาย ผมจึงทราบ ว่าหอผู้เสียหายอยู่อีกที่ จึงได้นำรถจยย.ของเพื่อนผู้เสียหายพาผู้เสียหายซ้อนท้ายไปด้วย แต่ไม่รู้ว่าคิดอะไรน่าจะ ด้วยความมึนเมา จึงขับรถพาผู้เสียหายขับวนไปในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ซึ่งผมก็พึ่งเคยไปตรงที่เกิดเหตุเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะจอดรถและพยายามพาน้องเขา เข้าไปในป่า จังหวะนั้นมี รปภ.ขับรถมาตรวจพบ จึงได้วิ่งหลบหนีกลับไปที่บ้านพัก และไม่ได้คิดจะหลบหนี เมื่อมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบถามผมก็ยอมรับสารภาพทั้งหมด” นายสนธยากล่าว

ตำรวจคุมตัวหนุ่มหื่นส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถ ขัดขืนได้ กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วย ประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ และพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้ายใช้อำนาจครอบงำผิดครองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด”

อีกหนึ่งอุทาหรณ์สำหรับสุภาพสตรีที่นิยมดื่มสุรา แม้จะมีเพื่อนมาด้วยก็ยังเกือบจะไม่รอด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน