พุฒิสรรค์ แก้วบัวดี – พนม คงเจริญ – อดิษัยต์ พรวนพิมพ์ – เรื่อง/ภาพ

ตีสองครึ่ง วันที่ 1 เม.ย. ร.ต.อ.ธงชัย ศรีสำโรง รอง สว.(สอบสวน) สน. ท่าข้าม รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทมีผู้เสียชีวิตบริเวณลานจอดรถ ตลาดมารวย ถนนท่าข้าม แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ รอง ผกก.สส.สน.ท่าข้าม พ.ต.ต.นิติศักดิ์ แสงนาค สวป.สน.ท่าข้าม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ หลักฐาน แพทย์นิติเวช ร.พ.ศิริราช และกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณกลางลานจอดรถตลาดซึ่งอยู่ระหว่างปิดทำการ จากการตรวจสอบพบศพ นายจักรกริช พรหมศิริ อายุ 35 ปี ชาว จ.อุทัยธานี สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ ลายอักษรภาษาอังกฤษสีทอง นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่คิ้วขวา ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ห่างไปประมาณ 2 เมตร ตรงเก้าอี้ไม้ใต้ต้นตีนเป็ดซึ่งมีไว้สำหรับนั่งพักผ่อน พบชามก๋วยเตี๋ยวและขวดเบียร์แตกกระจายอยู่เกลื่อนพื้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนรปภ.ที่ดูแลตลาด ให้การว่า ไม่เคยเห็นผู้ตายมาก่อน กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 31 มี.ค. เห็นผู้ตายเดินถือขวดเบียร์เข้าไปในลานจอดรถ ซึ่งเป็นมุมมืดในช่วงที่ตลาดยังไม่เปิด แต่ไม่ทราบว่านั่งดื่มกินอยู่กับใครบ้าง

จนเวลาราวๆ ประมาณ 01.00 น. ได้ยินเสียงคนทะเลาะวิวาทกันตรงจุดดังกล่าวตามด้วยเสียงขวดแตก จากนั้นก็มีวัยรุ่นหลายคนขับขี่และซ้อนท้ายรถจยย.จำนวน 3 คัน ขี่หลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อตนวิ่งมาดูทีแรกพบว่าผู้ตายกำลังหายใจรวยริน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกับหน่วยกู้ภัยมาช่วยปั๊มหัวใจยื้อชีวิต แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้จึงสิ้นใจในที่สุด

ด้าน พ.ต.ท.เลิศศักดิ์กล่าวว่า จากการตรวจค้นตามร่างกาย ผู้ตายพบโทรศัพท์มือถือ และกระดาษจดอีเมล์ที่ผู้ตายใช้เล่น เฟซบุ๊ก เมื่อพยายามติดต่อไปตามเบาะแส มีญาติแจ้งว่าผู้ตายไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่ง และเพิ่งเดินทางจากอุทัย ธานีบ้านเกิดมาตามหาแฟนสาวที่กรุงเทพฯ ได้เพียง 2 วัน

เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายอาจนัดคนรู้จักมานั่งดื่มเบียร์ที่ลานจอดรถตลาดแห่งนี้แล้วมีปัญหากันเอง หรืออาจมาแวะนั่งดื่มเบียร์เพียงลำพัง ก่อนเกิดเรื่องเขม่นกับวัยรุ่น เจ้าถิ่น โดยหลังจากนี้จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียง เพื่อหาเบาะแสติดตามตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัยมาดำเนินคดี

พ.ต.ท.เลิศศักดิ์นำทีมชุดสืบสวนสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ ทำให้ทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุมี 6-7 คน หนึ่งในนั้นเป็นญาติห่างๆ ของผู้เสียชีวิต และเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนหน้านี้ คาดว่ากลุ่มคนร้ายมาเจอผู้ตายนั่งดื่มเบียร์อยู่ จึงไปตามเพื่อนๆ มารุมทำร้ายจนถึงแก่ความตายในที่สุด

คดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน ด้วยสาเหตุเป็นความแค้นส่วนตัว แถมกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุก็เป็นเด็กในพื้นที่ ชุดสืบสวนใช้เวลาบี้กดดันไม่นานก็รู้ตัวละครทั้งหมด ก่อนจะสามารถติดตามจับกุมตัวมาได้โดยใช้เวลาแค่วันเดียว

ล่าสุดวันที่ 2 เม.ย. ที่ สน.ท่าข้าม พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ญาณพงษ์ โสมาภา รอง ผบก.น.9 และ พ.ต.ท.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ รอง ผกก.สส.สน.ท่าข้าม ร่วมกันแถลงจับกุมคนร้ายคดีนี้

 

ประกอบด้วย นายพิชิต วงค์สม หรือแบงก์ อายุ 22 ปี, นายบุญมา ฉัตรบุบผา หรืออาร์ม อายุ 21 ปี, นายสิทธิไชย สวนปรารมภ์ หรือ ฟร้อนท์ อายุ 26 ปี, นายศราวุธ ปัดตาตะพัง หรือ โน้ต อายุ 34 ปี, นายโชคชัย เมืองอินทร์ หรือ โชค อายุ 28 ปี, นายภาณุพงษ์ หาญบัญญัติ หรือ นัด อายุ 22 ปี และ นายสุริยัน แย้มย้าม หรือแซม อายุ 26 ปี

ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ข้อหา “ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย” โดยจับกุมได้ในพื้นที่ สน.ท่าข้าม พร้อมของกลางรถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุ 4 คัน โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุอีก 7 ชุด

พ.ต.อ.พงศ์อานันต์กล่าวว่า หลังเกิดเหตุสั่งการให้ พ.ต.ท.โชตินันท์ โชติเนตร และ พ.ต.ต.วรัษฐา วุฑฒิรักษ์ สว.สส.สน.ท่าข้าม ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดร่วมกับตำรวจ กก.สส.บก.น.9 พบภาพผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ขี่และซ้อนท้ายรถจยย. 4 คัน ออกจากจุดเกิดเหตุ

โดยมีนายพิชิต ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานเมียของผู้ตาย และลูกชายเจ้าของร้านคาราโอเกะในตลาดคอลัมน์ เป็นหัวโจก พาเพื่อนๆ อีก 6 คน มาก่อเหตุและพากันหลบหนี จึงขออนุมัติหมายจับและจับกุมตัวไว้ได้

จากการสอบสวน นายพิชิตให้การอ้างว่า ผู้ตายเป็นสามีของน้าสาว ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณ 1-2 เดือนที่ผ่านมา ผู้ตาย เคยก่อเหตุเผาบ้านพักของยายตนที่ จ.นครสวรรค์ ขณะนี้มีคดีความกันอยู่ยังไม่จบเรื่อง กระทั่งเมื่อ 2 วันที่แล้ว น้าสาวตนหนีจาก จ.อุทัยธานี มาพักอยู่กับแม่ตนทีร้านคาราโอเกะเพราะทนพฤติกรรมหึงหวงของผู้ตายไม่ไหว แต่ผู้ตายก็ยังตามมาราวีไม่เลิก โดยบุกมาถึงโวยวายร้านคาราโอเกะ พอออกมาจากร้านก็ไปซื้อเบียร์มานั่งดื่มที่ลานจอดรถในตลาด

ตนจึงโทรศัพท์ตามพรรคพวกอีก 6 คนมารุมกระทืบผู้ตาย ส่วนขวดเบียร์ที่แตก นั้นไม่ทราบว่าใครพลั้งมือนำไปตีที่คิ้ว ผู้ตาย เพราะตอนเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายมาก

ด้าน พ.ต.ท.เลิศศักดิ์เปิดเผยว่า ในชั้นการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ยังเกี่ยงกันอยู่ว่าใครเป็นผู้นำขวดเบียร์ตีใส่ผู้ตาย แต่ตำรวจมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบริเวณป้อม รปภ.หน้าลานจอดรถของตลาด บันทึกภาพผู้ร่วมก่อเหตุ ยานพาหนะและเสื้อผ้าที่สวมใส่ไว้ได้ทั้งหมด จึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน